ถือว่ามาเร็วเกินคาด สำหรับการเสริมทัพ“โซนิค”รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรที่ทิ้งระยะเวลาทำตลาดห่างจากรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร ประมาณ1ปี (ก.ค.2555)
จะด้วยแผนการไทม์มิงที่วางไว้ หรือจะด้วยการยอมรับกรายๆว่า เครื่องยนต์ 1.4 ลิตร มันไม่ไหวจริงๆกับตัวถังนี้ ซึ่งจากการลองขับของผู้เขียนและได้คุยกับผู้สื่อข่าวท่านอื่นๆ ต่างเห็นตรงกันว่าโซนิค 1.4 มันอืดและน่าจะซดน้ำมันกว่าพวกเก๋งซับคอมแพกต์แบรนด์ญี่ปุ่นที่วางเครื่องยนต์ 1.5 ลิตรด้วยซ้ำ
…เอาละครับพอหันมาคบกับเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรก็ถือว่าเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ส่วนเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เห็นว่ายังขายดี ก็ทำตลาดควบคู่กันไป โดย “โซนิค 1.6” จะมีแต่เกียร์อัตโนมัติ พร้อมแบ่งเป็น 3 รุ่นย่อยใน 2 ตัวถังคือ ซีดาน 1.6LT ราคา 667,000บาท กับ1.6LTZ 709,000 บาท และแฮทช์แบ็ก 1.6LTZ ราคา 709,000 บาท
สำหรับจุดเด่นของ “โซนิค 1.6” อยู่ที่เครื่องยนต์ขนาด 1.6 ลิตร ให้เรี่ยวแรงมากขึ้นเป็น 115 แรงม้า (1.4 ลิตร 100 แรงม้า) แถมปรับให้รองรับน้ำมันแก็สโซฮอล์ E85 ซึ่งถือเป็นรถยนต์ซับคอมแพกต์รุ่นแรกและรุ่นเดียวในตอนนี้ที่เติมแก็สโซฮอล์ E85 ได้
นอกจากนี้เชฟโรเลตยังเพิ่มตัวถัง “สีส้มสด”เข้ามาในไลน์อัป พร้อมใส่ออปชันอย่างไฟเลี้ยวที่กระจกมองข้าง (เพิ่งจะใส่เข้ามาในรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร เกรด LT ด้วยเช่นกัน) และระบบอินโฟเทนเมนท์ “มายลิงค์”
สำหรับระบบอินโฟเทนเมนท์ “มายลิงค์” มาพร้อมหน้าจอทัชสกรีนขนาด 7 นิ้ว สามารถเชื่อมต่อ บลูทูธ ยูเอสบี และพอร์ท AUX รองรับการแสดงข้อมูลและการใช้งานโทรศัพท์ด้วยระบบแฮนด์ฟรี
โดยหนึ่งในฟังก์ชันเด็ดของมายลิงค์คือ การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน โดยผู้ใช้ต้องไปโหลดแอป TuneIn Internet Radio และ Stitcher Smart Radio (มีทั้งในเพลย์สโตร์สำหรับแอนดรอยด์ ไอจูนส์ สำหรับไอโอเอส และวินโดวส์ โฟน สโตร์ ) เมื่อเชื่อมต่อกันแล้ว (ผ่านสาย USB หรือบลูทูธ) เราสามารถฟังคลื่นวิทยุของไทยได้กว่า 300 สถานี และอีกกว่า 70,000 สถานีทั่วโลก ซึ่งจากการลองเล่นผ่านไอโฟน 5 ก็ใช้งานง่ายเสียงดังฟังชัดดีครับ
ส่วนฟังก์ชันดูภาพนิ่งและวีดีโอ(Pictures & movies) โดยใช้ยูเอสบีไดร์ฟเสียบเพื่อทดสอบ อาจจะไม่ค่อยมีประโยชน์ในการใช้งานจริงมากนัก เพราะขณะรถวิ่งหน้าจอจะปิดไม่ให้ดูเพื่อความปลอดภัย และต้องรอตอนรถจอด หรือขับเอื่อยๆความเร็วไม่เกิน 8-9 กม./ชม.ถึงจะกลับมาเปิดให้เห็น
อย่างไรก็ตามมายลิงค์ก็ถือเป็นฟังก์ชันใหม่ที่เชื่อมโลกเชื่อมเรา น่าจะโดนใจวัยรุ่นยุคใหม่ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายของเชฟโรเลตเขาละครับ ที่สำคัญระบบมายลิงค์และจอสีแสดงผลขนาดใหญ่ ยังช่วยเพิ่มความโดดเด่นภายในห้องโดยสาร เสริมคู่ไปกับการตกแต่งคอกพิตแบบทูโทนสีส้ม-ดำ พวงมาลัยสามก้าน กรอบเรือนไมล์สไตล์สปอร์ตที่แสดงมาตรวัดความเร็วเป็นตัวเลขดิจิตอล และเข็มวัดรอบเครื่องยนต์ ที่ดูชัดเจนสวยงาม
ด้านพวงมาลัยมีปุ่มควบคุมเครื่องเสียงและโทรศัพท์ผ่านบลูทูธติดตั้งมาให้ด้วย ซึ่งผู้เขียนว่าใช้งานได้ถนัดมือ แถมไม่ต้องละสายตาจากการมองถนน แต่ส่วนตัวผู้เขียนติดใจตรงปุ่มเปลี่ยนเกียร์ +,- ที่ฝังบริเวณหัวเกียร์ เพราะใช้ไม่คล่องมือ(นิ้วโป้ง) หรือไม่ช่วยเพิ่มสนุกมันในการเปลี่ยนเกียร์เท่าใดนัก
ส่วนสมรรถนะจากเครื่องยนต์ รหัส Z16XFR ขนาด 1.6 ลิตร 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว พร้อมระบบวาล์วแปรผันคู่ต่อเนื่อง DCVC (แปรผันฝั่งไอดี-ไอเสีย) ให้กำลังสูงสุด 115 แรงม้าที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 155 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด ส่งให้การขับขี่กระฉับกระเฉงพอตัว
แม้รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 20-60 กิโลกรัม เมื่อเทียบกับรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตร แต่การตอบสนองต่อคันเร่งทั้ง แรงต้น-กลาง-ปลาย ดีกว่าแบบรู้สึกได้
การขับในเมืองคล่องแคล่ว พละกำลังของเครื่องยนต์ผสานการทำงานของเกียร์ดูจะเนียนกว่ารุ่น 1.4 อยู่พอสมควร ส่วนความเร็วปลายไหลลื่น ยิ่งไปดูจากอัตราทดเฟืองท้ายแล้วก็ไม่แปลกครับ เพราะรุ่นเครื่องยนต์ 1.4 ลิตรอยู่ที่ 4.110 ขณะที่รุ่นเครื่องยนต์ 1.6 ลิตร 3.720
จุดเด่นของเชฟโรเลต โซนิค ยังอยู่ที่ช่วงล่าง(ไม่ได้ปรับแต่งใหม่) ด้านหน้าแมคเฟอร์สันสตรัท คอยล์สปริง และเหล็กกันโคลง หลังเป็นคานทอร์ชันบีม คอยล์สปริง ขับความเร็วสูงหนึบหนับทั้งทางตรงและทางโค้ง ยิ่งเจอพวงมาลัยแบบผ่อนแรงด้วยไฮดรอลิกที่ค่อนข้างหนักหน่วง(น่าจะหนักที่สุดในคลาส) ช่วยให้การควบคุมมั่นใจ สั่งงานซ้าย-ขวาได้ถนัดมือ
การขับขี่ในเมืองทั่วไปช่วงล่างรองรับแรงสะเทือนจากพื้นถนนได้สบายระดับหนึ่ง ซึ่งตัวท็อป LTZ จะใช้ล้ออัลลอยด์ขนาด 16 นิ้ว ประกบยาง 205/55R16 ขณะที่ระบบเบรกหน้าดิสก์หลังดรัมทำหน้าที่ห้ามล้อได้สมบูรณ์แบบ จังหวะจับของเบรกแม่นยำสอดคล้องกับแรงกดของฝ่าเท้า
ส่วนการเก็บเสียงภายในห้องโดยสารยิ่งไม่ขี้เหร่เมื่อเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ แม้อาจจะมีเสียงเครื่องยนต์เล็ดรอดเข้ามาบ้างเวลาเข่นคันเร่ง แต่พวกเสียงลมปะทะ เสียงยางบดพื้นถนน โซนิคเก็บรายละเอียดได้เป็นอย่างดี
ด้านอัตราบริโภคน้ำมันถือว่าน่าสนใจครับ จากการลองขับในภาวะรถติด สลับใช้ความเร็ว 100-120 กม./ชม.ออกนอกเมือง โดยเติมน้ำมันแก็สโซฮอล์ E85 ยังมีตัวเลข 11-12 กม./ลิตร (ใช้ E85 จะซดน้ำมันมากกว่าพวก E0 หรือE10 อยู่ประมาณ 20-30%) ซึ่งเทียบค่าใช้จ่ายต่อหน่วยการวิ่งแล้วก็ตก กิโลเมตรละ 1.96 -2.14บาทเท่านั้นเอง (E85 ต้นเดือนกันยายน 2556 ราคา23.58บาทต่อลิตร)
ขณะเดียวกันหากคิดเรื่องความสมดุลระหว่างเครื่องยนต์กับน้ำหนักรถ ยิ่งในการขับทางไกล(รถไม่ติด)เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร น่าจะแบกภาระน้อยกว่ารุ่น 1.4 ลิตร อันหมายถึงความเป็นไปได้ที่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตรจะประหยัดน้ำมันกว่า ในเงื่อนไขการขับขี่ที่ใกล้เคียงกัน
รวบรัดตัดความ...สำหรับโซนิค 1.6ราคาเพิ่มจากรุ่น 1.4 ประมาณ 20,000-30,000 บาท ซึ่งผู้เขียนว่าคุ้มค่ากับ ออปชันที่ได้รับ และสมรรถนะการขับขี่ที่เนียนลงตัว ส่วนอัตราบริโภคน้ำมันยังทำได้น่าประทับใจเมื่อเติมน้ำมันแก็สโซฮอล์ E85 ดังนั้นใครชอบความสวยของรูปลักษณ์และไม่ยึดติดแบรนด์ “เชฟโรเลต โซนิค 1.6 ลิตร” น่าจะเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือก