กองทุนฮอนด้าเคียงข้างไทย ภายใต้มูลนิธิฮอนด้าประเทศไทย และกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย จัดโครงการ "ค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย" โดยมีตัวแทนนักเรียนสังกัดสำนักงานพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 1 และเขต 2 จำนวน 80 คน เข้ารับการอบรม เพื่อเรียนรู้ทั้งภาคทฤษฎีในการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย การขับขี่ปลอดภัยเสริมสร้างวินัยจราจร ตลอดจนการฝึกภาคปฏิบัติในการเอาชีวิตรอดจากการตกน้ำและฝึกการช่วยเหลือคนตกน้ำ การฝึกปฏิบัติการช่วยฟื้นคืนชีพ และการป้องกันและระงับอัคคีภัย ณ ศูนย์ฝึกอบรม บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด
ค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่จัดขึ้น มุ่งเน้นการฝึกอบรมแบบเข้มข้นเพื่อให้เยาวชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยได้รับความร่วมมือจากคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสำนักส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย สมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ และครูฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด โดยมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 จาก 7 โรงเรียน รวมจำนวน 80 คน ได้แก่ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง และโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
อรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์ กรรมการกองทุน ฮอนด้าเคียงข้างไทย และผู้จัดการส่วนงานสนับสนุนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากปณิธานในการจัดตั้งกองทุน ฮอนด้าเคียงข้างไทย เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง เป็นต้น
โดยกองทุนฯ มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน อาทิ 1.ด้านเงินทุน ด้วยการสมทบเงินเข้ากองทุนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮอนด้า 2.ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3.ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4.ด้านการส่งเสริมความรู้ในการับมือภัยพิบัติ สำหรับค่ายเยาวชนฯ นี้เป็นครั้งแรกที่กองทุนฯ ริเริ่มและสนับสนุนการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทย กองทุนฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนทุกคนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากค่ายอบรมไปใช้ในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้หากเกิดสาธารณภัยต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย"
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในปัจจุบันสาธารณภัยเป็นเรื่องใกล้ตัวที่นับวันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชน ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบได้ง่ายเมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นในแต่ละครั้ง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐในการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องในการรับมือภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ ให้กับเยาวชน เพื่อให้รู้จักการนำอุปกรณ์รอบตัวมาใช้การเรียนรู้วิธีการการให้ความช่วยเหลือทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในเบื้องต้นได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งร่วมเป็นแกนนำในการรณรงค์ให้คนในสังคมร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในโรงเรียนและในชุมชนของตนเองได้
ค่ายเยาวชนอาสาสมัครป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยที่จัดขึ้น มุ่งเน้นการฝึกอบรมแบบเข้มข้นเพื่อให้เยาวชนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง โดยได้รับความร่วมมือจากคณะวิทยากรผู้เชี่ยวชาญจากสำนักส่งเสริมการป้องกันสาธารณภัย สมาคมเพื่อช่วยชีวิตทางน้ำ และครูฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัย บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด โดยมีนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4 จาก 7 โรงเรียน รวมจำนวน 80 คน ได้แก่ โรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ เบญจมราชาลัย โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา สุวินทวงศ์ โรงเรียนเทพศิรินทร์ร่มเกล้า โรงเรียนมัธยมวัดหนองจอก โรงเรียนรัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง และโรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
อรนุช พฤกษ์วัฒนานนท์ กรรมการกองทุน ฮอนด้าเคียงข้างไทย และผู้จัดการส่วนงานสนับสนุนการตลาด บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากปณิธานในการจัดตั้งกองทุน ฮอนด้าเคียงข้างไทย เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยในยามประสบภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้อย่างทันท่วงที อาทิ น้ำท่วม ดินถล่ม ภัยหนาว ภัยแล้ง เป็นต้น
โดยกองทุนฯ มุ่งมั่นในการดำเนินกิจกรรมอันเป็นประโยชน์ต่อสังคมไทยอย่างต่อเนื่อง ครอบคลุม 4 ด้าน อาทิ 1.ด้านเงินทุน ด้วยการสมทบเงินเข้ากองทุนจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ฮอนด้า 2.ด้านวัสดุอุปกรณ์ 3.ด้านการเสริมสร้างเครือข่ายความร่วมมือ และ 4.ด้านการส่งเสริมความรู้ในการับมือภัยพิบัติ สำหรับค่ายเยาวชนฯ นี้เป็นครั้งแรกที่กองทุนฯ ริเริ่มและสนับสนุนการเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทย กองทุนฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่า เยาวชนทุกคนจะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับจากค่ายอบรมไปใช้ในการช่วยเหลือตนเองและผู้อื่นได้หากเกิดสาธารณภัยต่างๆ ได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย"
นายอนุสรณ์ แก้วกังวาล รองอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กล่าวว่า ในปัจจุบันสาธารณภัยเป็นเรื่องใกล้ตัวที่นับวันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งและทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น สร้างความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชน ซึ่งถือเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบได้ง่ายเมื่อเกิดสาธารณภัยขึ้นในแต่ละครั้ง
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะหน่วยงานกลางของรัฐในการดำเนินการเกี่ยวกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยของประเทศ เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่งในการปลูกฝังความรู้ ความเข้าใจอย่างถูกต้องในการรับมือภัยพิบัติรูปแบบต่างๆ ให้กับเยาวชน เพื่อให้รู้จักการนำอุปกรณ์รอบตัวมาใช้การเรียนรู้วิธีการการให้ความช่วยเหลือทั้งต่อตนเองและผู้อื่นในเบื้องต้นได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งร่วมเป็นแกนนำในการรณรงค์ให้คนในสังคมร่วมกันสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยในโรงเรียนและในชุมชนของตนเองได้