ข่าวในประเทศ - ไทยซันฯ เปิดตัวรถหัวลาก Shacman รุ่น M3000 ชูสมรรถนะดี แรงม้าสูง เพิ่มประสิทธิภาพด้านการขนส่งสินค้าให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้า ลุยตั้งตัวแทนจำหน่าย 25 แห่งทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 400 คัน
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย ซัน อินเตอร์ แมชชีน จำกัด ในกลุ่มเครือวงศ์พิทักษ์ ผู้นำเข้าและทำตลาดยานยนต์เพื่อการขนส่งภายใต้ยี่ห้อ ‘แชคแมน’ (Shacman) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมไทยในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ด้านคมนาคมขนส่งสินค้าทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในแถบอินโดจีน ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ามีความต้องการใช้ยานยนต์พาณิชย์ประเภทรถหัวลาก รองรับการเติบโตทางด้านธุรกิจขนส่งสินค้า ส่งผลให้ภาพความต้องการรถหัวลากในปีนี้อยู่ที่ 10,000 คัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงนำเข้ายานยนต์พาณิชย์ยี่ห้อ Shacman M3000 ซึ่งเป็นรถหัวลากที่ผลิตจากประเทศจีน ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญผลิตยานยนต์พาณิชย์ โดยออกแบบโครงสร้างของรถหัวลาก ให้มีน้ำหนักเบา ห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์แบบใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิง ด้วยขนาด 300 แรงม้า 350 แรงม้า และ 380 แรงม้า จำหน่ายในราคา 2.85 ล้านบาท และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 336 แรงม้า และ 375 แรงม้า ราคาคันละ 2.55 ล้านบาท รองรับความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในประเทศไทย
“ด้วยสมรรถนะจุดเด่นของ Shacman รุ่น M3000 เป็นรถหัวลากที่เหนือกว่าคู่แข่ง เนื่องจากเป็นรถที่ถูกพัฒนาตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้า โดยตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 9 ตัน ทำให้สามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกสินค้าได้มากขึ้น ช่วยสร้างความคุ้มค่าและรายได้จากการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการด้านขนส่งสินค้าได้มากขึ้น”
บริษัทฯ จึงได้จัดงานเปิดตัว Shacman M3000: Maximizing of the Great Dragon สุดยอดยานยนต์พาณิชย์ รถหัวลากใหม่ทรงประสิทธิภาพจากแดนมังกร เพื่อแสดงถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของรถหัวลากรุ่นดังกล่าว ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตัวแทนจำหน่าย โดยบริษัทฯ มีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 25 รายภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีอยู่ 21 ราย
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรถหัวลาก Shacman M3000 จำนวน 3 ราย รองรับการขายและการบริการหลังการขายในรูปแบบคลัสเตอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำตลาดได้เป็นอย่างดี และภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายได้อีก 1 ราย ซึ่งเชื่อว่า จากแนวทางทำตลาดดังกล่าว จะช่วยผลักดันเป้าหมายการทำตลาดรถหัวลากรุ่นดังกล่าวในปีนี้ได้ 400 คันตามเป้าที่วางไว้
อัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัทไทย ซัน อินเตอร์ แมชชีน จำกัด ในกลุ่มเครือวงศ์พิทักษ์ ผู้นำเข้าและทำตลาดยานยนต์เพื่อการขนส่งภายใต้ยี่ห้อ ‘แชคแมน’ (Shacman) เปิดเผยว่า ภาพรวมของอุตสาหกรรมไทยในปีนี้ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดี เนื่องจากประเทศไทยมีความได้เปรียบทางด้านภูมิศาสตร์ ที่เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ด้านคมนาคมขนส่งสินค้าทางบกไปยังประเทศเพื่อนบ้านในแถบอินโดจีน ส่งผลให้ผู้ประกอบการขนส่งสินค้ามีความต้องการใช้ยานยนต์พาณิชย์ประเภทรถหัวลาก รองรับการเติบโตทางด้านธุรกิจขนส่งสินค้า ส่งผลให้ภาพความต้องการรถหัวลากในปีนี้อยู่ที่ 10,000 คัน
ทั้งนี้ บริษัทฯ จึงนำเข้ายานยนต์พาณิชย์ยี่ห้อ Shacman M3000 ซึ่งเป็นรถหัวลากที่ผลิตจากประเทศจีน ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญผลิตยานยนต์พาณิชย์ โดยออกแบบโครงสร้างของรถหัวลาก ให้มีน้ำหนักเบา ห้องโดยสารมีความสะดวกสบาย และมีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์แบบใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิง ด้วยขนาด 300 แรงม้า 350 แรงม้า และ 380 แรงม้า จำหน่ายในราคา 2.85 ล้านบาท และเครื่องยนต์ดีเซลขนาด 336 แรงม้า และ 375 แรงม้า ราคาคันละ 2.55 ล้านบาท รองรับความต้องการของกลุ่มผู้ประกอบการขนส่งสินค้าในประเทศไทย
“ด้วยสมรรถนะจุดเด่นของ Shacman รุ่น M3000 เป็นรถหัวลากที่เหนือกว่าคู่แข่ง เนื่องจากเป็นรถที่ถูกพัฒนาตามหลักวิศวกรรมยานยนต์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ประกอบการธุรกิจขนส่งสินค้า โดยตัวรถมีน้ำหนักเบาเพียง 9 ตัน ทำให้สามารถเพิ่มน้ำหนักบรรทุกสินค้าได้มากขึ้น ช่วยสร้างความคุ้มค่าและรายได้จากการดำเนินธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการด้านขนส่งสินค้าได้มากขึ้น”
บริษัทฯ จึงได้จัดงานเปิดตัว Shacman M3000: Maximizing of the Great Dragon สุดยอดยานยนต์พาณิชย์ รถหัวลากใหม่ทรงประสิทธิภาพจากแดนมังกร เพื่อแสดงถึงสมรรถนะและประสิทธิภาพของรถหัวลากรุ่นดังกล่าว ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ตัวแทนจำหน่าย โดยบริษัทฯ มีแผนขยายตัวแทนจำหน่ายเพิ่มเป็น 25 รายภายในสิ้นปีนี้ จากเดิมที่มีอยู่ 21 ราย
ล่าสุด บริษัทฯ ได้ลงนามเซ็นสัญญาแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายรถหัวลาก Shacman M3000 จำนวน 3 ราย รองรับการขายและการบริการหลังการขายในรูปแบบคลัสเตอร์ ที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำตลาดได้เป็นอย่างดี และภายในสิ้นปีนี้ คาดว่าจะเพิ่มตัวแทนจำหน่ายได้อีก 1 ราย ซึ่งเชื่อว่า จากแนวทางทำตลาดดังกล่าว จะช่วยผลักดันเป้าหมายการทำตลาดรถหัวลากรุ่นดังกล่าวในปีนี้ได้ 400 คันตามเป้าที่วางไว้