xs
xsm
sm
md
lg

“เบเนลลี บีเอ็น600” เน้นหล่อชอบความต่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หากยังจำกันได้ช่วงปลายปีที่แล้วในงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป นอกจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ของค่ายปีกนกกับซีรี่ส์ 500 ซึ่งสร้างความคึกคักในตลาดบิ๊กไบค์ได้อยู่พักใหญ่ อีกหนึ่งข่าวเด่นที่สิงห์นักบิดให้ความสนใจไม่แพ้กัน คือ การเปิดตัวครั้งแรกของสองล้อสัญชาติอิตาเลียน “เบเนลลี” พร้อมทำตลาดในไทยอย่างเป็นทางการ ด้วยโมเดลหน้าตาดุดันสองรุ่น “ทีเอ็นที 600” และ “ทีเอ็นที 899”

สำหรับ “เบเนลลี” (Benelli) เป็นแบรนด์รถจักรยานยนต์เก่าแก่ของแดนมักกะโรนี มีอายุมานานกว่า 100 ปี แต่ปัจจุบันเปลี่ยนมือเจ้าของมาอยู่ภายใต้กลุ่มทุนจากจีน Quianjiang Group of China ส่วนการทำตลาดในประเทศไทยอยู่ในสังกัดเดียวกับแบรนด์คีย์เวย์และเอสวายเอ็ม โดยบริษัท เอ็มไบค์ มอเตอร์เซลส์ จำกัด เป็นผู้นำชิ้นส่วนเข้ามาประกอบร่วมกับชิ้นส่วนภายในประเทศ 40% ที่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์


หลังทิ้งระยะให้สายพานการผลิตลงตัว ล่าสุดเริ่มทยอยส่งมอบรถล็อตแรกให้กับลูกค้าที่จอง “บีเอ็น 600” (เปลี่ยนชื่อการทำตลาดจาก ทีเอ็นที 600) ไปแล้วกว่า 60 คัน ขณะเดียวกันก็ปล่อยรถทดสอบให้กับสื่อมวลชนได้ลองขี่กันด้วย

อันดับแรกมาสำรวจความโดดเด่นของบิ๊กไบค์ 3 สัญชาติรุ่นนี้กันก่อน ด้วยรูปทรงสปอร์ตเปลือยแฟริ่ง ไฟหน้าใช้โคมเดี่ยวขนาดใหญ่ ขนาบข้างด้วยไฟเลี้ยวแยกส่วน เรือนไมล์แสดงรอบเครื่องยนต์แบบอนาล็อก ส่วนความเร็วเป็นแบบดิจิตอล พร้อมระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและอุณภูมิของเครื่องยนต์ โดยมีปุ่มตั้งค่านาฬิกาและปรับโหมดทริปแสดงระยะทางการวิ่งได้ด้วย ส่วนถังน้ำมันขนาดความจุ 18 ลิตร มาแปลกและแตกต่างจากค่ายอื่น ซึ่งเป็นการใช้ชุดพลาสติกครอบทับเอาไว้

ประกับแฮนด์บังคับฝั่งขวาติดตั้งระบบ Off-Run หรือปุ่มตัดการทำงานเครื่องยนต์ ตามด้วยสวิตซ์ไฟสัญญาณฉุกเฉินและปุ่มสตาร์ทเครื่อง ส่วนฝั่งซ้ายมีปุ่มเลือกใช้ไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว แตร และไฟขอทาง

ดูโดยรวมจุดขายของบีเอ็น 600 ในด้านงานดีไซน์ น่าจะอยู่ที่การอวดเส้นสายเฟรมถักสไตล์อิตาเลียน รวมถึงการใช้ทิศทางของท่อไอสียแบบออกท้าย หรือที่นิยมเรียกกันในหมู่นักเลงมอเตอร์ไซค์ว่า “ท่อออกตูด”


มาว่ากันที่ท่านั่งกันบ้าง หลังค่อนข้างตรง ไม่ต้องก้มหรือโน้วตัวมาด้านหน้า เบาะสองตอนแยกส่วนสไตล์สปอร์ต ความสูงกำลังดี ถังน้ำมันใหญ่ช่วงขาโอบได้กระชับ แม้พักเท้าทรงเกียร์โยงแต่หัวเข่าไม่งอหรืออยู่สูงเกินไป เพียงแต่พื้นที่เล็กไปหน่อย การวางฝ่าเท้าทำได้ไม่ถนัด หากให้เห็นภาพ ท่านั่งดูจะไม่หนีจากคู่แข่งต่างค่าย คาวาซากิ อีอาร์-6เอ็น (Er-6n) มากนัก ส่วนการควบคุมทำได้คล่องตัว ตามสเปกระบุน้ำหนัก 190 กก. แม้จะเบากว่าอีอาร์นิดหน่อย แต่กลับรู้สึกอุ้ยอ้ายกว่าเวลาขี่ซ่อกแซ่กในเมือง

ขณะที่อัตราเร่งจากขุมพลังเครื่องยนต์ 4 จังหวะ 4 สูบเรียง 16 วาล์ว ปริมาตรสุทธิ 599 ซีซี. ขนาดกระบอกสูบ 65x45.2 มม. ให้กำลังสูงสุด 60 กิโลวัตต์ ที่ 11,000 รอบต่อนาที แรงบิด 55 นิวตัน-เมตร ที่ 8,000 รอบต่อนาที ผสานการทำงานกับชุดเกียร์ 6 สปีด ส่งเสียงคำรามไพเราะ นุ่มลื่นหู พละกำลังช่วงต้นมาตามแรงบิด แต่ไม่มากเท่าคู่แข่งสองสูบที่ดีกว่าในรอบเครื่องต่ำ แต่พอล้อหมุนรอบเครื่องยนต์ไหลตั้งแต่ 7,000 รอบ ขึ้นไปแล้ว คราวนี้ความแรงจะถูกส่งออกมาอย่างต่อเนื่อง เร่งยาวๆ ได้เร้าใจมากกว่า


ในส่วนระบบช่วงล่างจัดเต็มด้านหน้าแบบอัพไซด์ดาว์น ด้านหลังโช้กเดี่ยว ปรับค่าความแข็งของสปริงและรีบาวนด์ได้ด้วย ประสิทธิภาพซับแรงกระแทกทำได้ดีทั้งหน้าและหลัง ไม่กระด้างเหมือนเน็กเก็ตของค่ายสีเขียว อีกส่วนที่มาเหนือกว่า คือ ขนาดล้อและยาง หน้า 120/70-ZR17 หลัง 180/55-ZR17

ด้านระบบเบรกจัดเต็มอีกเช่นกัน จานดิสก์คู่ขนาด 320 มม. ประกบคาลิเปอร์ 4 พอร์ท ด้านหลังดิสก์เดี่ยวขนาด 240 มม. มาพร้อมสายเซ็นเซอร์วัดความเร็วที่ล้อหลัง ซึ่งหากดูผิวเผินนึกว่าใช้วัสดุของแบรนด์ดังจากประเทศบ้านเกิด แต่เมื่อดูจากรายละเอียดชิ้นงานแล้วไม่ใช่ ยิ่งการใช้งานจริงต้องกดเบรกลึกมากถึงจะเอาอยู่

ทั้งนี้ อัตราการบริโภคน้ำมันเชื้อเพลิงทำได้เฉลี่ย 18 กม./ลิตร (เติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95)

กล่าวสรุป “บีเอ็น 600” เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในตลาดบิ๊กไบค์ที่กำลังโตวันโตคืน หากชอบของใหม่ในโฉมเน็กเก็ตที่คละคลุ้งด้วยกลิ่นอายสไตล์อิตาเลียน เน้นงานดีไซน์โดดเด่นและแตกต่าง โดนใจออฟชันติดรถที่เหนือกว่าคู่แข่งในคลาสเดียวกัน โดยไม่ซีเรียสเรื่องความปราณีตของวัสดุและชิ้นงานประกอบมากนัก สนนราคา 289,000 บาท ถ้าเงินพร้อมกล้าลอง! เชิญที่โชว์รูมย่านถนนเกษตร-นวมินทร์ ตอม่อที่ 237


กำลังโหลดความคิดเห็น