เปิดตัวออกมาหลายรุ่นกับอีโคคาร์ แต่ถึงอย่างนั้นส่วนใหญ่จะเป็นรถแบบแฮทช์แบ็ก รวมถึง “โตโยต้า” ค่ายสุดท้ายที่จะส่งอีโคคาร์ออกมาเร็วๆ นี้ ยังเริ่มทำตลาดกับรุ่นแฮทช์แบ็ก ส่วนที่มีเปิดตัวรุ่นซีดาน 4 ประตูออกมาเสริมทัพ มีเพียงแค่นิสสัน อัลเมร่า และฮอนด้า บริโอ้ อเมซเท่านั้น แต่ล่าสุดผู้ที่ชื่นชอบรถเล็กประหยัดน้ำมัน มีทางเลือกใหม่แบบซีดานเพิ่มอีกรุ่น กับ “มิตซูบิชิ แอททราจ” ดังนั้นจึงขอนำมาเปรีบบเทียบสเปกกัน คันไหน? จะครบเครื่องแบบเล็กพริกขี้หนูมากกว่า…
ภาพรวมภายนอกจุดตัดสินแรก
แน่นอนสิ่งแรกที่จะดึงดูดความสนใจ ย่อมต้องเป็นรูปลักษณ์ภายนอก แต่รายละเอียดของความชอบอาจจะเห็นแตกต่างกัน จึงขอข้ามว่ายี่ห้อไหนออกแบบได้สวยงามกว่ากัน เพราะถือเป็นความชอบของแต่ละบุคคล
ทั้งนี้หากมองโดยรวมคงบอกว่า มิตซูบิชิ แอททราจ ค่อนข้างออกแบบมาได้ลงตัว โดยเฉพาะช่วงครึ่งคันหลังไป ซึ่งค่อนข้างออกแบบยากกับรถเล็กซีดาน ที่ต้องใช้โครงสร้างตัวถังร่วมกับรุ่นแฮทช์แบ็ก จะเห็นว่าหลังคาเสาหลัง C ของรุ่นแอททราจลาดเอียงพอดี หากเทียบกับ นิสสัน อัลเมร่า ที่แม้เส้นสายโฉบเฉี่ยวลาดเอียงมากกว่า แต่ในช่วงหลังคาเสาหลังกดลงซะต่ำมาก เวลาคนตัวใหญ่ๆ สูงๆ นั่งเบาะหลังถึงกับหัวชนเพดานเลย ทั้งที่หากดูมิติตัวถังน่าจะทำได้ดีกว่านี้ ขณะที่ ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ หลังคาตรงเสาหลังลาดเอียงนิดหน่อยและตัดลาดลงมาเลย นั่นน่าจะมาจากความยาวตัวถังที่น้อยกว่าเพื่อน
ความแตกต่างดังกล่าว มาจากมิติตัวถังของแต่ละรุ่นแตกต่างกัน แน่นอนใหญ่สุดต้องเป็น นิสสัน อัลเมร่า ไม่ว่าจะเป็นความยาว กว้าง และระยะฐานล้อ ส่งผลให้นอกจากตัวรถภายนอกจะใหญ่กว่าเพื่อนแล้ว ห้องโดยสารก็นับกว้างขวาง จะมีเพียงช่วงระหว่างเบาะนั่งหลังกับเพดาน จากความลาดเอียงมากของหลังคา จนความสูงของอัลเมร่ายังน้อยกว่ารุ่นแอททราจ อาจจะอืดอัดสำหรับคนตัวโตอย่างที่กล่าวไป เล็กสุดเป็น ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ที่ทุกๆ มิติตัวถังจะเล็กกว่ารุ่นอื่นๆ (ดูตารางประกอบ) แต่ขนาดใหญ่ของอัลเมร่าทำให้ที่บรรจุสัมภาระมากถึง 470 ลิตร ตามด้วยแอททราจ 450 ลิตร และบริโอ้ อเมซ 400 ลิตร เป็นไปตามขนาดมิติตัวถัง
แม้บริโอ้ อเมซ จะมีมิติตัวถังเล็กสุด น้ำหนักรถโดยรวมกลับไม่ต่ำสุด เป็นว่ามิตซูบิชิ แอททราจ ที่มีน้ำหนักต่ำสุดตั้งแต่ 885-935 กก. ใกล้เคียงกับรุ่นมิราจแม้จะเป็นรถซีดานก็ตาม ซึ่งมิตซูบิชิระบุว่าเพราะการใช้เทคโนโลยีการออกแบบให้น้ำหนักเบา แต่เหล็กตัวถังจะมีความแข็งแรงพิเศษ ตรงนี้จึงช่วยในเรื่องอัตราเร่งและประหยัดน้ำมัน ส่วนที่หนักสุดย่อมต้องเป็น นิสสัน อัลเมร่า และตามด้วยฮอนด้า บริโอ้ อเมซ
โดยมิตซูบิชิ แอททราจ และนิสสัน อัลเมร่า เสริมหล่อกับล้อขนาด 15 นิ้ว ติดยาง 185/55 R15 และ 185/65 R15 ตามลำดับ ซึ่งให้มาในตัวบนๆของทั้งสองรุ่น แต่ตัวล่างระดับกลางลงมาล่างจะเป็นล้อขนาด 14 นิ้ว ติดมากับยาง 175/70 R14 ในรุ่นอัลเมร่า และรุ่นแอททราจเป็นยางขนาด 175/65 R14 เช่นเดียวกับยางของ ฮอนด้า บริโอ้ ที่ติดมากับล้อ 14 นิ้ว ในทุกรุ่นย่อย
ภายใน-อุปกรณ์-ระบบปลอดภัย
ห้องโดยสารของแอททราจและอัลเมร่าจะเน้นโทนดำดูสปอร์ต แต่ในรุ่นบริโอ้ อเมซ จะเป็นสีอ่อนทำให้ดูสว่างกว้างขวาง ในส่วนของแผงคอนโซล หน้าปัด และพวงมาลัย ทุกรุ่นแทบจะไม่แตกต่างจากรุ่นแฮทช์แบ็ก จะมีนิสสัน อัลเมร่า ที่จะมีในส่วนหน้าปัดและตัวแผงควบคุมเครื่องเล่นวิทยุ/ซีดีที่แตกต่างกัน
อุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ส่วนมากจะให้มาคล้ายๆ กัน อย่างกุญแจนิรภัย กระจกไฟฟ้า เซนทรัลล็อก และจอแสดงผลข้อมูลต่างๆ อาจจะแตกต่างกันบ้างอย่างปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ ที่มีในตัวบนของอัลเมร่าและแอททราจ หรือระบบปรับอากาศอัตโนมัติในรุ่นท็อปของแอททราจ โดยทุกรุ่นติดตั้งเครื่องเสียงสามารถรองรับการเชื่อต่อ USB และต่อ AUX สำหรับอุปกรณ์ต่อพ่วง แต่โดดเด่นกว่าเพื่อนเห็นจะเป็นมิตซูบิชิ แอททราจ เพราะในรุ่นท็อปนอกจากวิทยุ/CD และ MP3 ยังมีจอภาพแบบ Touch Screen ขนาด 6.5 นิ้ว และระบบนำทางในรถยนต์ หรือเนวิเกเตอร์ พร้อมระบบเชื่อมต่อโทรศัพท์แบบไร้สาย
ส่วนเรื่องของอุปกรณ์และระบบความปลอดภัย ฮอนด้าจะให้ถุงลนิรภัยคู่หน้ามาครบทุกรุ่น แต่สองรุ่นที่เหลือจะมีในรุ่นบนเท่านั้น ตัวล่างจะมีเฉพาะด้านคนขับ และทุกรุ่นระบบเบรกจะเป็น ABS พร้อมกับมีระบบกระจายแรงเบรก EBD แต่รุ่นอัลเมร่าจะเพิ่มระบบ BA เข้ามาช่วย ขณะที่มิตซูบิชิ แอททราจ ยังมีกล้องมองภาพหลังเวลาถอยจอดมาให้ในรุ่นท็อป
ขุมพลังขับเคลื่อนแต่ละรุ่น
อีโคคาร์ซีดานทั้ง 3 รุ่น วางเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.2 ลิตร อาจจะแตกต่างตรงที่ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ จะเป็นแบบ SOHC 4 สูบ 16 วาล์ว ขณะที่สองรุ่นที่เหลือเป็นแบบ DOHC 3 สูบ 12 วาล์ว โดยบริโอ้อเมซให้กำลังสูงสุด 90 แรงม้า เช่นเดียวกับแรงบิด 110 นิวตัน-เมตร ที่ 4,800 รอบต่อนาที
ส่วนสองรุ่นที่เหลือเลี้ยงม้าไว้ในคอกเพียง 78 ตัว สำหรับรุ่นแอททราจ และมากกว่าหนึ่งตัวกับนิสสัน อัลเมร่า แต่น้ำหนักที่เบาของมิตซูบิชิ แอททราจ มีส่วนทำให้ความจี๊ดจ๊าดไม่ด้อยกว่าคู่แข่งมากนัก แม้จะมีม้าน้อยสุดก็ตาม เช่นเดียวกับนิสสัน อัลเมร่า ที่แรงบิดสูงมาในรอบต่ำช่วยได้ทีเดียว โดยอีโคคาร์ซีดานทั้งหมดมีระบบส่งกำลังให้เลือกทั้งแบบเกียร์ธรรมดา 5 สปีด และอัตโนมัติแบบ CVT (ดูตารางประกอบ)
ทั้งนี้ระบบกันสะเทือนของทั้ง 3 รุ่นไม่แตกต่างกัน ด้านหน้าเป็นแบบอิสระแมคเฟอร์สันสตรัท พร้อมเล็กกันโครง และด้านหลังแบบทอร์ชันบีม
ราคา-แคมเปญแข่งขันดุเดือด
ในจำนวนอีคาคาร์ทั้ง 3 รุ่น นิสสัน อัลเมร่า มีตัวเลือกรุ่นย่อยมากสุด 6 รุ่น ราคาจึงค่อนข้างกว้างตั้งแต่ 429,000 - 599,000 บาท ส่วนมิตซูบิชิ แอททราจ ราคาอยู่ที่ 443,000 - 582,000 บาท และฮอนด้า บริโอ้ อเมซ ราคาเริ่มตั้งแต่ 454,000 - 521,000 ซึ่งทั้งแอททราจและบริโอ้ อเมซ มีให้เลือก 4 รุ่นย่อยเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันแต่ละค่ายต่างอัดแคมเปญแย่งชิงยอดขายดุเดือด แม้แต่มิตซูบิชิ แอททราจ เพิ่งจะเปิดตัวสู่ตลาดเป็นทางการเมื่อวันที่ 4 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่ได้มอบสิทธิพิเศษให้กับลูกค้าที่จองรถ 9,000 คันแรก รับเงินคืนทันที 10,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง ด้านฮอนด้าที่ไม่ค่อยมีแคมเปญแต่งานนี้จัดหนักเช่นกัน ดาวน์เพียง 59,000 บาท และผ่อนเบาๆ 15 เดือนแรก เริ่มต้น 3,691 บาทต่อเดือน และรับประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี ขณะที่นิสสันมอบฟรีคูปองน้ำมัน 15,000 บาท พร้อมฟรีประกันภัยชั้นหนึ่ง และสามารถเลือกดาวน์ต่ำเริ่มต้น 29,999 บาท หรือผ่อนเริ่มเดือนละ 4,399 บาท
สรุป… ต่างเปิดศึกฟาดฟันกันดุเดือดจริงๆ จากแคมเปญที่เปิดตัวออกมา ส่วนเรื่องของคุณสมบัติจากสเปกรถ เห็นได้ว่ามิตซูบิชิ แอททราจ มาทีหลังย่อมได้เปรียบในแง่ของการปรับสินค้าให้โดนใจลูกค้า โดยเฉพาะออปชั่นจัดมาให้เต็ม แต่นิสสัน อัลเมร่า ก็ไม่ได้ด้อยกว่านัก และยังมีจุดขายเรื่องของตัวถังที่ใหญ่มากสุด ขณะที่ฮอนด้า บริโอ้ อเมซ เด่นเรื่องสมรรถนะขุมพลัง และภาพลักษณ์แบรนด์…
ฉะนั้นจึงอยู่ที่ผู้ซื้อแล้วว่า… ต้องการรถแบบไหน? ที่จะตอบโจทย์การใช้งานในชีวิตประจำวันของตัวเองได้มากที่สุด?!