ปีนี้ดูเหมือนว่าจะเป็นช่วงเวลาอันพิเศษสำหรับหลากหลายบริษัทรถในการเฉลิมฉลองครบรอบอะไรสักอย่าง ซึ่งอย่างแบรนด์รถสปอร์ตชั้นนำของอังกฤษอย่างแอสตัน มาร์ติน ก็ได้ฤกษ์ฉลองครบ 100 ปีของการก่อตั้งบริษัท พร้อมกับเปิดตัวต้นแบบที่เกิดมาเพื่อวาระพิเศษเช่นนี้
ต้นแบบนี้มีชื่อว่า CC100 Speedster Concept และมีการผลิตออกมาเพียงแค่คันเดียวเท่านั้นสำหรับจัดแสดงแถมยังไม่ใช่แค่ต้นแบบสำหรับโชว์ตัวบนเวทีแต่ยังวิ่งโชว์ได้ เพราะว่าทางแอสตัน มาร์ตินได้นำออกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานแข่งรถมาราธอน 24 ชั่วโมงที่สนามฝั่งเหนือของนูร์บูร์กริง เพื่อเป็นการยืนยันถึงต้นกำเนิดของแอสตัน มาร์ตินซึ่งเกิดขึ้นจากสนามแข่ง และรถแข่งรุ่นแรกที่โด่งดังอย่าง dbr1 ก็เปิดตัวในปี 1959 และสามารถคว้าชัยชนะการแข่งมาราธอน 1000 กิโลเมตร ที่จัดขึ้นที่นี่เมื่อปี 1959 ด้วยการขับของเซอร์สเตอริง มอสส์
อุลริช เบซ ซีอีโอของแอสตัน มาร์ติน กล่าวว่า CC100 คือสิ่งที่แสดงให้เห็นความเป็นแอสตัน มาร์ตินที่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากอดีต และถือเป็นผลผลิตที่มีความพิเศษในวาระของการฉลองครบ 100 ปีในการก่อตั้งบริษัท
โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้าการเปิดตัวประมาณ 6 เดือน นั่นหมายความว่าในช่วงปลาย 2012 ทีมงานของแอสตัน มาร์ตินที่เมือง gaydon ต่างเริ่มการทำงานกันแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์คู่ใจอย่าง multimatic inc. ในการทำงาน และมี david king รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโครงการ
ไอเดียในการออกแบบเป็นการพาทุกคนหวนกลับสู่ปี 1959 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จในด้านมอเตอร์สปอร์ตของแอสตัน มาร์ติน และจับเอาจุดนี้มาเป็นไฮไลต์ในการผลิตรถยนต์สำหรับจัดแสดง ซึ่งผลคือ CC100 มาพร้อมกับตัวถังหลังคาเปิดตามแบบฉบับรถสปอร์ตรุ่นดั้งเดิม โดยมีความยาวตัวถังตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลังอยู่ที่ 4.30 เมตร มีความกว้างแบบรวมกระจกมองข้างเกือบๆ 2 เมตร และที่สำคัญตัวรถได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังแบบ vh หรือ Vertical Horizontal ที่ถือเป็นพื้นตัวถังแม่แบบซึ่งแอสตัน มาร์ตินใช้ในการพัฒนารถสปอร์ตของตัวเองที่ขายอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
ภายในห้องโดยสารได้รับการเสริมความหรูหราและผสมผสานกับความมีกลิ่นอายของรถแข่งเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ขณะที่เครื่องยนต์วี12 ในรหัส AM11 รุ่นล่าสุดรับหน้าที่ในการขับเคลื่อน โดยทำงานร่วมกับเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ผ่านทาง Paddle ที่ติดตั้งอยู่ตรงหลังวงพวงมาลัย
แม้จะไม่ได้บอกกำลังขับเคลื่อนที่ชัดเจน แต่ด้วยความเบาของน้ำหนักตัวแล้ว การตอบสนองของต้นแบบรุ่นนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาต่ำกว่า 4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 290 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว
ใครที่คิดว่าจะมีการผลิตขายจริงอาจจะต้องผิดหวังกันไปก่อน เพราะต้นแบบคันนี้นำมาจัดแสดงในวาระฉลองพิเศษเท่านั้น ส่วนเรื่องการขายยังไม่มีการยืนยันออกมาในตอนนี้
ต้นแบบนี้มีชื่อว่า CC100 Speedster Concept และมีการผลิตออกมาเพียงแค่คันเดียวเท่านั้นสำหรับจัดแสดงแถมยังไม่ใช่แค่ต้นแบบสำหรับโชว์ตัวบนเวทีแต่ยังวิ่งโชว์ได้ เพราะว่าทางแอสตัน มาร์ตินได้นำออกเปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานแข่งรถมาราธอน 24 ชั่วโมงที่สนามฝั่งเหนือของนูร์บูร์กริง เพื่อเป็นการยืนยันถึงต้นกำเนิดของแอสตัน มาร์ตินซึ่งเกิดขึ้นจากสนามแข่ง และรถแข่งรุ่นแรกที่โด่งดังอย่าง dbr1 ก็เปิดตัวในปี 1959 และสามารถคว้าชัยชนะการแข่งมาราธอน 1000 กิโลเมตร ที่จัดขึ้นที่นี่เมื่อปี 1959 ด้วยการขับของเซอร์สเตอริง มอสส์
อุลริช เบซ ซีอีโอของแอสตัน มาร์ติน กล่าวว่า CC100 คือสิ่งที่แสดงให้เห็นความเป็นแอสตัน มาร์ตินที่ถูกหล่อหลอมขึ้นมาจากอดีต และถือเป็นผลผลิตที่มีความพิเศษในวาระของการฉลองครบ 100 ปีในการก่อตั้งบริษัท
โปรเจ็กต์นี้เกิดขึ้นก่อนหน้าการเปิดตัวประมาณ 6 เดือน นั่นหมายความว่าในช่วงปลาย 2012 ทีมงานของแอสตัน มาร์ตินที่เมือง gaydon ต่างเริ่มการทำงานกันแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากซัพพลายเออร์คู่ใจอย่าง multimatic inc. ในการทำงาน และมี david king รับหน้าที่เป็นผู้อำนวยการโครงการ
ไอเดียในการออกแบบเป็นการพาทุกคนหวนกลับสู่ปี 1959 ซึ่งถือเป็นปีแห่งความสำเร็จในด้านมอเตอร์สปอร์ตของแอสตัน มาร์ติน และจับเอาจุดนี้มาเป็นไฮไลต์ในการผลิตรถยนต์สำหรับจัดแสดง ซึ่งผลคือ CC100 มาพร้อมกับตัวถังหลังคาเปิดตามแบบฉบับรถสปอร์ตรุ่นดั้งเดิม โดยมีความยาวตัวถังตั้งแต่ด้านหน้าจรดด้านหลังอยู่ที่ 4.30 เมตร มีความกว้างแบบรวมกระจกมองข้างเกือบๆ 2 เมตร และที่สำคัญตัวรถได้รับการพัฒนาอยู่บนพื้นตัวถังแบบ vh หรือ Vertical Horizontal ที่ถือเป็นพื้นตัวถังแม่แบบซึ่งแอสตัน มาร์ตินใช้ในการพัฒนารถสปอร์ตของตัวเองที่ขายอยู่ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นรุ่นเล็กรุ่นใหญ่
ภายในห้องโดยสารได้รับการเสริมความหรูหราและผสมผสานกับความมีกลิ่นอายของรถแข่งเข้าด้วยกัน อีกทั้งยังตกแต่งด้วยคาร์บอนไฟเบอร์ ขณะที่เครื่องยนต์วี12 ในรหัส AM11 รุ่นล่าสุดรับหน้าที่ในการขับเคลื่อน โดยทำงานร่วมกับเกียร์กึ่งอัตโนมัติ 6 จังหวะ ซึ่งสามารถเปลี่ยนตำแหน่งเกียร์ผ่านทาง Paddle ที่ติดตั้งอยู่ตรงหลังวงพวงมาลัย
แม้จะไม่ได้บอกกำลังขับเคลื่อนที่ชัดเจน แต่ด้วยความเบาของน้ำหนักตัวแล้ว การตอบสนองของต้นแบบรุ่นนี้ถือว่าไม่ธรรมดา เพราะมีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงในเวลาต่ำกว่า 4 วินาที และมีความเร็วสูงสุด 290 กิโลเมตร/ชั่วโมงเลยทีเดียว
ใครที่คิดว่าจะมีการผลิตขายจริงอาจจะต้องผิดหวังกันไปก่อน เพราะต้นแบบคันนี้นำมาจัดแสดงในวาระฉลองพิเศษเท่านั้น ส่วนเรื่องการขายยังไม่มีการยืนยันออกมาในตอนนี้