ข่าวในประเทศ – DSI และ กมธ.คมนาคมวุฒิสภา เตรียมเคลียร์คดีรถหรูจดประกอบ 588 คันให้เสร็จภายใน 30 วัน ย้ำต้องขยายผลตรวจสอบไปยังธุรกิจรถนำเข้าทั้งระบบ ไม่เว้น “บิ๊กไบค์ จดประกอบ” หากเอกสารไม่ชัด เสียภาษีไม่ถูกต้อง ยึดไว้ก่อน
วันนี้ (17 มิ.ย.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาในหัวข้อ “อวสารรถหรูเลี่ยงกฎหมาย” โดยเชิญ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ,นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดี กรมศุลกากร,นายณันทพงศ์ เชิดชู ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่5,ร้อยตำรวจเอกหญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา มาร่วมเป็นวิทยากร
โดยประเด็นเสวนามีการพูดถึงความคืบหน้าดคีรถหรูไฟไหม้ที่ ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และการตรวจสอบรถหรูจดประกอบราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 588 คัน และต่ำกว่า 4 ล้านบาทอีกจำนวนกว่า 6,000 คัน
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า ประเด็นรถหรูไฟไหม้คืบหน้าไปมาก ขณะนี้รู้ตัวผู้เป็นเจ้าของแล้ว ส่วนรถหรูจำนวน 588 คัน กำลังอยู่ในขั้นตอนเรียกเจ้าของมาตรวจสอบเอกสารว่า เป็นรถที่จดประกอบจริง หรือผ่านขั้นตอนการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ล่าสุดได้เชิญตัวแทนของค่ายรถยนต์เข้ามาเป็นผู้ร่วมตรวจสอบ เนื่องจากมีเครื่องมือและความเชี่ยวชาญ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมด DSI จะพยายามทำให้เสร็จภายใน 30 วัน
โดยDSI พยายามมองในทุกมิติ อย่างเจ้าของรถยังถือเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เพราะตอนซื้ออาจจะไม่รับทราบข้อมูลที่แท้จริงว่าเป็นรถหลีกเลี่ยงภาษี เช่นเดียวกับผู้ประกอบการ หากดำเนินธุรกิจสุจริตต้องให้ความเป็นธรรม
“เรามีข้อมูลที่พบความผิดปกติเดิม ทั้ง รถจดประกอบ รถนำเข้า ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุรถไฟไหม้ที่กลางดง จึงสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้เลย ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นโอกาสในการตรวจสอบรถยนต์นำเข้าทั้งระบบ ให้มีความใชัดเจน พร้อมปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการในอนาคต”
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา เปิดเผยว่า คดีนี้มีการบูรณาการร่วมกันถึง 7 หน่วยงานคือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และต่อไปอาจจะเชิญกระทรวงพาณิชย์กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เข้าร่วมด้วย
“ทุกหน่วยงานกำลังร่วมกันตรวจสอบ ไม่เพียงรถหรูจดประกอบ 588 คัน และกว่า 6,000 คันที่ประกาศไปแล้ว แต่ต้องเป็นการตรวจสอบทั้งระบบ”
ปัจจุบันคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรถจดประกอบว่านำเข้าอย่างถูกต้อง และเสียภาษีสรรพสามิตถูกต้องหรือไม่ แน่นอนว่าต้องรวมถึงบิ๊กไบค์จดประกอบที่ผ่านมาด้วย
ในส่วนของบิ๊กไบค์ต้องพิจารณาว่าเป็นรถจดประกอบจริงๆ หรือเสียภาษีนำเข้าโดยการแยกชิ้นส่วนมาอย่างผิดกฎหมาย ขั้นแรกต้องตรวจสอบว่ารถในกลุ่มนี้มีจำนวนเท่าไหร่ และคงใช้ระยะเวลาพอสมควร
สำหรับการดำเนินคดีตามกฎหมาย นายเกชา กล่าวว่า ถ้าตรวจสอบพบว่ารถยนต์จดประกอบมีความผิดในเรื่องเอกสาร และการเสียภาษี ต้องยึดไว้ก่อนจากนั้นค่อยมาหาทางออกกันว่าจะทำอย่างไร และสืบความจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเข้าของรถ
“อนาคตรถจดประกอบจะหมดไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีรถจดประกอบล็อตนี้ DSI จะเป็นจะเป็นผู้การันตีว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าผ่านก็เป็นรถถูกกฎหมายใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าไม่ผ่านต้องดูว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แล้วค่อยมาสรุปถึงทางออกให้รถกลุ่มนี้อีกที” นายเกชา กล่าว
*** ทางเว็บ Motoring แจกบัตรสำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายน 2556 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี หนึ่งท่านรับได้ 2 ใบ (บัตรมีจำนวนจำกัด) รับได้ที่หนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการ” ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่ 8.30 - 17.30 น. เบอร์ติดต่อ 02-629-4488 ***
วันนี้ (17 มิ.ย.) สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย จัดเสวนาในหัวข้อ “อวสารรถหรูเลี่ยงกฎหมาย” โดยเชิญ พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ,นายราฆพ ศรีศุภอรรถ รองอธิบดี กรมศุลกากร,นายณันทพงศ์ เชิดชู ผู้อำนวยการสำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่5,ร้อยตำรวจเอกหญิง สุวนีย์ แสวงผล รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) และนายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา มาร่วมเป็นวิทยากร
โดยประเด็นเสวนามีการพูดถึงความคืบหน้าดคีรถหรูไฟไหม้ที่ ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา และการตรวจสอบรถหรูจดประกอบราคา 4 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 588 คัน และต่ำกว่า 4 ล้านบาทอีกจำนวนกว่า 6,000 คัน
พ.ต.ท.วรรณพงษ์ คชรักษ์ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI เปิดเผยว่า ประเด็นรถหรูไฟไหม้คืบหน้าไปมาก ขณะนี้รู้ตัวผู้เป็นเจ้าของแล้ว ส่วนรถหรูจำนวน 588 คัน กำลังอยู่ในขั้นตอนเรียกเจ้าของมาตรวจสอบเอกสารว่า เป็นรถที่จดประกอบจริง หรือผ่านขั้นตอนการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่ ล่าสุดได้เชิญตัวแทนของค่ายรถยนต์เข้ามาเป็นผู้ร่วมตรวจสอบ เนื่องจากมีเครื่องมือและความเชี่ยวชาญ ซึ่งขั้นตอนทั้งหมด DSI จะพยายามทำให้เสร็จภายใน 30 วัน
โดยDSI พยายามมองในทุกมิติ อย่างเจ้าของรถยังถือเป็นผู้เสียหาย ไม่ใช่ผู้กระทำความผิด เพราะตอนซื้ออาจจะไม่รับทราบข้อมูลที่แท้จริงว่าเป็นรถหลีกเลี่ยงภาษี เช่นเดียวกับผู้ประกอบการ หากดำเนินธุรกิจสุจริตต้องให้ความเป็นธรรม
“เรามีข้อมูลที่พบความผิดปกติเดิม ทั้ง รถจดประกอบ รถนำเข้า ดังนั้นเมื่อเกิดเหตุรถไฟไหม้ที่กลางดง จึงสามารถรับเป็นคดีพิเศษได้เลย ซึ่งจากนี้ไปจะเป็นโอกาสในการตรวจสอบรถยนต์นำเข้าทั้งระบบ ให้มีความใชัดเจน พร้อมปรับโครงสร้างต่างๆ เพื่อประโยชน์ของผู้บริโภคและผู้ประกอบการในอนาคต”
นายเกชา ศักดิ์สมบูรณ์ ประธานคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา เปิดเผยว่า คดีนี้มีการบูรณาการร่วมกันถึง 7 หน่วยงานคือ กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) และต่อไปอาจจะเชิญกระทรวงพาณิชย์กับสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) เข้าร่วมด้วย
“ทุกหน่วยงานกำลังร่วมกันตรวจสอบ ไม่เพียงรถหรูจดประกอบ 588 คัน และกว่า 6,000 คันที่ประกาศไปแล้ว แต่ต้องเป็นการตรวจสอบทั้งระบบ”
ปัจจุบันคณะกรรมาธิการ คมนาคมวุฒิสภา สั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบรถจดประกอบว่านำเข้าอย่างถูกต้อง และเสียภาษีสรรพสามิตถูกต้องหรือไม่ แน่นอนว่าต้องรวมถึงบิ๊กไบค์จดประกอบที่ผ่านมาด้วย
ในส่วนของบิ๊กไบค์ต้องพิจารณาว่าเป็นรถจดประกอบจริงๆ หรือเสียภาษีนำเข้าโดยการแยกชิ้นส่วนมาอย่างผิดกฎหมาย ขั้นแรกต้องตรวจสอบว่ารถในกลุ่มนี้มีจำนวนเท่าไหร่ และคงใช้ระยะเวลาพอสมควร
สำหรับการดำเนินคดีตามกฎหมาย นายเกชา กล่าวว่า ถ้าตรวจสอบพบว่ารถยนต์จดประกอบมีความผิดในเรื่องเอกสาร และการเสียภาษี ต้องยึดไว้ก่อนจากนั้นค่อยมาหาทางออกกันว่าจะทำอย่างไร และสืบความจริงเพื่อให้ความเป็นธรรมกับเข้าของรถ
“อนาคตรถจดประกอบจะหมดไปตามกฎหมาย ส่วนกรณีรถจดประกอบล็อตนี้ DSI จะเป็นจะเป็นผู้การันตีว่าถูกต้องหรือไม่ ถ้าผ่านก็เป็นรถถูกกฎหมายใช้งานได้ปกติ แต่ถ้าไม่ผ่านต้องดูว่ามีจำนวนเท่าไหร่ แล้วค่อยมาสรุปถึงทางออกให้รถกลุ่มนี้อีกที” นายเกชา กล่าว
*** ทางเว็บ Motoring แจกบัตรสำหรับผู้ที่สนใจเข้าชมงาน “บางกอก อินเตอร์เนชันแนล ออโต ชาลอน 2013” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 20 - 30 มิถุนายน 2556 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ อิมแพค เมืองทองธานี หนึ่งท่านรับได้ 2 ใบ (บัตรมีจำนวนจำกัด) รับได้ที่หนังสือพิมพ์ “ASTVผู้จัดการ” ถนนพระอาทิตย์ ตั้งแต่ 8.30 - 17.30 น. เบอร์ติดต่อ 02-629-4488 ***