รมช.คลัง สั่ง “ศุลกากร-สรรพสามิต” คุมเข้มรถหรู เดินหน้าขยายผลสอบ จนท.มีเอี่ยว “เบญจา” ลั่นเพิ่มโทษให้หนักขึ้น
นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวในระหว่างการประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ได้มอบหมายให้กรมศุลกากร กรมสรรพสามิต ช่วยดูแลการนำเข้ารถหรูเพื่อให้เสียภาษีอย่างถูกต้อง และขณะนี้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงว่ามีเจ้าหน้าที่มีส่วนเกี่ยวข้องการหลีกเลี่ยงภาษีหรือไม่ ส่วนการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตนั้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของกรม ซึ่งขณะนี้ก็ยังไม่สามารถเปิดรายละเอียดได้มากนัก เพราะเกรงว่าจะเสียรูปคดี เพราะกรมสอบสวนคดีพิเศษอยู่ระหว่างการติดตามขยายผล
นายสมชาย พูลสวัสดิ์ อธิบดีกรมสรรพสามิต กล่าวว่า การยื่นขอจดทะเบียนจดประกอบของผู้นำเข้าอิสระ และประชาชนทั่วไปในปี 54 มีจำนวน 11,000 ราย จากในปี 55 มีจำนวน 2,000 ราย ส่วนในปี 56 มีจำนวน 544 ราย จึงตั้งข้อสงสัยว่าสัดส่วนที่หายไปนั้นเป็นเพราะอะไร เพราะยังมีเอกชนอีก 6 ราย ยังยื่นอุทธรณ์ไม่ยอมรับต่อข้อกำหนดสรรพสามิต แต่ยังมีรายอื่นอีกจำนวนมากที่ยอมรับ และมายื่นขอจดทะเบียน เพราะมองว่าเงื่อนไขที่กำหนดไว้อยู่ในกรอบที่ผู้ประกอบการ และประชาชนผู้นำเข้าอีกจำนวนมากยอมรับ เนื่องจากการนำเข้ารถจากต่างประเทศทั้งคัน โดยคำนวณมูลค่าอากรตามบรรจุกระบอกสูบ (ซีซี) จึงต้องเสียภาษีประมาณร้อยละ 180-300 ขณะที่การนำเข้าอุปกรณ์ชิ้นส่วนรถยนต์ แล้วนำมาประกอบภายในประเทศ ต้องจ่ายอากรให้กรมศุลกากรเพียงร้อยละ 20-30 นับว่ามีต้นทุนต่ำกว่าการนำเข้ามาทั้งคัน ส่วนต่างดังกล่าวจึงจูงใจให้หันมานำเข้าแบบจดประกอบ เพื่อขออนุญาตจากกรมสรรพสามิต และขออนุญาตโดยผ่านการตรวจสภาพจาก สมอ.เพื่อขอจดทะเบียนจากกรมการขนส่งทางบก ส่วนการตรวจสอบรถหรู จำนวน 488 คัน ดีเอสไอจะร่วมกับสรรพสามิตในการตรวจสอบว่าเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
นายสาธิต รังคสิริ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า กรมสรรพากรมีคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่แล้วที่จะทำหน้าที่ตรวจสอบการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ว่าถูกต้องแค่ไหน และจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตการเสียภาษีด้วยหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นกรณีใดๆ
นางเบญจา หลุยเจริญ อธิบดีกรมศุลกากร กล่าวว่า กรมศุลกากร อยู่ระหว่างการรวบรวมตัวเลขรถยนต์ที่เข้ามาในฐานะนักท่องเที่ยวตามด่านชายแดนว่ามีจำนวนเท่าใด และมีรถแจ้งออกจำนวนเท่าใด เพื่อดูว่ายังมีรถตกค้างในประเทศไทยมากน้อยเพียง เพราะจะเป็นช่องทางให้มีการนำรถยนต์ที่ตกค้างเหล่านี้ไปใช้เป็นรถจดประกอบเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โดยนักท่องเที่ยวสามารถแจ้งขอนำรถยนต์เข้ามาในราชอาณาจักรไทยได้ในเวลา 30 วันและสามารถขออยู่ต่อได้อีก 6 เดือน ซึ่งหากไม่นำรถกลับก็จะเสียค่าปรับน้อยมาก จึงเป็นช่องโหว่ทำให้มีการนำรถเข้ามาในช่องทางดังกล่าวเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี
“กรมศุลกากรเองกำลังพิจารณาโทษปรับให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้มีการใช้ช่องโหว่ดังกล่าว ด้วยการแจ้งว่านำรถเข้ามาในลักษณะท่องเที่ยว แต่ก็ต้องทำอย่างรอบคอบ เพราะเรายังต้องการส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย” นางเบญจากล่าวและว่า ส่วนความคืบหน้ากรณีรถหรูที่เกิดไฟไหม้ 4 คันนั้น จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่สามารถตรวจสอบได้ จนกว่าจะทราบเบอร์ชิ้นส่วนที่ชัดเจน เพราะมีการขูดเลขจริงออกไป
