DSI จับมือตัวแทนจำหน่ายรถหรู 10 บริษัท จ่อตรวจพิสูจน์รถหรูต้องสงสัย 17 มิ.ย.นี้ พร้อมเปิดให้ผู้ครอบครองรถต้องสัยทั้ง 548 คัน เข้ามาติดต่อเพื่อจัดคิวในการตรวจรถ
ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เมื่อเวลา 10.00 น. นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ พ.ท.นพ.เอนก ยมจินดา ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม นายวิรัตน์ อาชาอภิสิทธิ์ รองเลขาสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) พร้อมด้วยตัวแทนกรมสรรพากร กรมสรรพสามิต กรมการขนส่งทางบก กรมศุลกากร สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และ สมอ. ร่วมประชุมกับตัวแทนบริษัทนำเข้ารถยนต์หรู (ดีลเลอร์) 10 ราย ประกอบด้วยบริษัท วัฒนา ออโต้ เซลล์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด บริษัทนิชคาร์ จำกัด บริษัทนิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทเอเอเอส ออโต้ เซอร์วิส จำกัด บริษัทบีเอ็มดับเบิลยู (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทโตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด บริษัทคาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด บริษัทโรลส์-รอยซ์ มอเตอร์ คาร์ส จำกัด บริษัทซิตี้ ออโต้ โมบิล จำกัด และบริษัทเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด เพื่อวางแนวทางในการตรวจสอบรถยนต์หรู จำนวน 548 คัน ราคา 4 ล้านบาทขึ้นไปว่า เป็นรถนำเข้าชิ้นส่วนเข้ามาจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ หรือนำเข้ารถหรูทั้งคันแต่สำแดงเท็จว่าเป็นรถจดประกอบเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี โดยใช้เวลาประมาณ 2 ชม.
นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ แถลงหลังการประชุมว่า ได้หารือกับผู้แทนจำหน่ายรถหรูอย่างเป็นทางการในประเทศไทยของแบรนดังทั้ง 10 บริษัท โดยมีการวางแผนงานออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การตรวจทางเทคนิคคู่ขนานระหว่างการตรวจความสมบูรณ์ของเอกสารเรื่องราวความเป็นมาของการนำเข้าชิ้นส่วนรถจดประกอบเข้าในประเทศ การประกอบ การเสียภาษี การผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม การจดทะเบียนที่ขนส่ง และการโอนไปยังผู้บริโภค ก่อนจะมีการตรวจทางกายภาพของรถอย่างจริงจัง ส่วนการตรวจทางกายภาพของรถ จะมีสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ สมอ. และกรมการขนส่งทางบก รวมทั้งเจ้าหน้าที่เทคนิคของตัวแทนที่ถูกต้องรถแต่ละยี่ห้อร่วมตรวจ เนื่องจากรถซูเปอร์คาร์มีราคา มีความทันสมัย เทคนิคแต่ละบริษัทจะมีการตรวจสอบไปยังบริษัทแม่ในต่างประเทศ เช่น เมอร์เซเดส-เบนซ์ ได้มีการประสานออนไลน์ทางอิเล็กทรอนิกส์กับบริษัทแม่ที่ผลิตจนทราบเรื่องราวของรถแต่ละคัน ทั้งเลขตัวรถ เลขเครื่องยนต์ หรือจุดมาร์กตำแหน่งสำคัญต่างๆ ทั้งหมดเป็นการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ซึ่งจะตรวจสอบความถูกต้องได้แน่นอน
อธิบดีดีเอสไอ กล่าวอีกว่า ในวันจันทร์ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายรถหรูทั้ง 10 บริษัท จะเข้ามาวางระบบคอมพิวเตอร์ออนไลน์เชื่อมข้อมูลกับบริษัทแม่ในต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารรถหรูจดประกอบได้ทันทีว่า รถซูเปอร์คาร์แต่ละคันมีชิ้นส่วนเครื่อง ตัวถัง และอุปกรณ์ชิ้นส่วนต่างๆ มีเลขรหัสเป็นเซตเดียวกันที่ออกจากโรงงานผลิตของบริษัทแม่ในต่างประเทศหรือไม่ หากทุกชิ้นส่วนของรถมีรหัสตรงกับข้อมูลของบริษัทแม่ในต่างประเทศ ก็แสดงว่าเป็นการนำเข้ารถยนต์ทั้งคัน แต่มาสำแดงเท็จว่านำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบเพื่อจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบเพื่อหลีกเลี่ยงภาษี รวมทั้งในกรณีการถอดชิ้นส่วนย่อยๆ ของรถซูเปอร์ 10 ชิ้น แล้วนำมาประกอบในประเทศไทย ก็จะถือว่าเป็นการนำเข้ารถมาทั้งคัน เพราะชิ้นส่วนทุกชิ้นจะมีรหัสตรงกับโรงงานผลิตของบริษัทแม่ในต่างประเทศ เนื่องจากหากเป็นรถนำเข้าชิ้นส่วนรถมาประกอบในประเทศเพื่อจะทะเบียนเป็นรถจดประกอบที่ถูกต้อง จะมีการนำชิ้นส่วนของรถจากหลายแหล่งมาประกอบเป็นรถคันเดียวกัน ซึ่งจะมีรหัสชิ้นส่วนไม่ตรงกับข้อมูลของบริษัทแม่ในต่างประเทศ
นายธาริต กล่าวอีกว่า ส่วนผู้ครองครองรถหรู เราถือว่าผู้ครอบครองรถ เจ้าของรถ หรือผู้รับมอบอำนาจที่จะนำรถมาตรวจโดยสมัครใจ หรือภาคบังคับ ถือว่าเป็นผู้เสียหายคงไม่ทราบถึงความเป็นมาของการกระทำความผิดก่อนการนำรถมาขาย เราจะปฏิบัติในฐานะผู้เสียหาย เว้นแต่รายใดมีความชัดเจน และรู้เห็นเป็นใจกับผู้ประกอบการ เรามีความจำเป็นที่จะดำเนินคดีลงโทษตามกฎหมายของบ้านเมืองอย่างเคร่งครัด โดยจะเริ่มรับจองคิวตรวจพิสูจน์รถตั้งแต่วันที่ 18 มิ.ย. ในเวลาราชการ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับรถหรูทั้ง 548 คัน ที่สมัครใจทั้งเจ้าของ ผู้ครอบครอง หรือผู้รับมอบอำนาจ ให้มาติดต่อดีเอสไอที่ชั้น 1 จุดนันสต็อปเซอร์วิส เพื่อรับการจัดคิวการตรวจสอบรถหรู เพราะเราเชื่อว่าหลายคนนอนไม่หลับ มีความกังวลใจว่ารถที่ตัวเองมีอยู่ผิดไม่ผิดหลีกเลี่ยงภาษี โดยให้เตรียมสมุดคือมือจดทะเบียน บัตรประชาชน หรือหากเป็นผู้ครอบครอง หรือผู้มอบอำนาจก็ให้นำหลักฐานการครอบครอง หรือการรับมอบอำนาจมาแสดง ดีเอสไอจะจัดคิวนัดนัดหมายตรวจสอบรถเป็นคิวแรกวันจันทร์ที่ 24 มิ.ย. จะไม่มีการลัดคิว ไม่มีสิทธิพิเศษทั้งสิ้น ใครมาก่อนตรวจก่อน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าจะมีคนไม่มาโดยสมัครใจจะออกหนังสือเรียกให้นำรถมาตรวจสอบในระยะต่อไป ทั้งนี้ สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ศูนย์ฮอตไลน์ 08-7102-8877 หรือตรวจสอบรายชื่อผู้ครอบครองรถหรู ราคา 4 ล้านบาทขึ้นไปได้ที่ เวป WWW.dsi.go.th
ด้านนายวรฐ ธรรมวิวัฒน์ ผอ.ฝ่ายขายและดูแลหลังการขาย บริษัทคาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายรถเฟอร์รารีอย่างเป็นทางการในประเทศไทย กล่าวว่า สำหรับรถเฟอร์รารีที่ถูกไฟไหม้ครั้งนี้ ซึ่งถูกนำมาจอดไว้ที่ดีเอสไอ ตนไปดูเบื้องต้นพบว่าถูกไฟเผาเสียหายเกือบทั้งคัน ทางบริษัทจึงคงไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามีการนำเข้ามาทั้งคัน หรือนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบ จึงต้องให้เจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์ตรวจสอบ ส่วนการจะตรวจสอบว่าเป็นรถนำเข้าชิ้นส่วนมาประกอบในประเทศจริงหรือไม่ ต้องดูหมายเลขตัวถังรถ หมายเลขเครื่องยนต์ หมายเลขเกียร์ หากทั้งสามหมายเลขตรงกันแสดงว่า ไม่เข้าข่ายรถนำเข้าชิ้นสวนมาจดทะเบียนเป็นรถจดประกอบ เพราะรถจดประกอบจะมีการนำชิ้นส่วนจากหลายแหล่งมาประกอบกัน ไม่ใช่ชิ้นส่วนจากโรงงานผลิตของบริษัทแม่ในต่างประเทศที่จะมีรหัสตรงกัน
ผอ.ฝ่ายขายและดูแลหลังการขาย บริษัทคาวาลลิโนฯ ผู้จัดจำหน่ายรถเฟอร์รารีฯ กล่าวอีกว่า สำหรับรถเฟอร์รารี จะมีตำแหน่งของหมายเลขตัวถังเปลี่ยนไปในแต่ละรุ่น ส่วนตำแหน่งหมายเลขของเครื่องยนต์ และเกียร์ทุกรุ่นจะอยู่ตำแหน่งเดิมตลอด หากรถเฟอร์รารีประสบประอุบัติเหตุต้องเปลี่ยนชิ้นส่วนอะไหล่ จะมีการบันทึกรายงานรหัสชิ้นส่วนไปยังบริษัทแม่ในต่างประเทศ ส่วนกรณีที่รถเฟอร์รารีประสบอุบัติเหตุยุบถึงตัวถัง จะมีการส่งรถเฟอร์รารีไปซ่อมที่โรงงานในฮ่องกง เพราะรถเฟอร์รารีเป็นรถประสิทธิภาพสูง มีความเร็วมากกว่า 300 กม.ต่อชั่วโมง จึงต้องให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัย โดยมียอดนำเข้ารถเฟอร์รารี ปีละประมาณ 20-30 ต่อปี ราคาคันละ 20-31 ล้านบาท โดยรถเฟอร์รารีจะจ่ายภาษีนำเข้าติดเพดานสูงสุดที่ 328 เปอร์เซ็นต์ ส่วนประเด็นรถซูเปอร์คาร์ติดแก๊สนั้น ตนเห็นว่าแก๊สก็เป็นเชื้อเพลิงชนิดหนึ่งหากเป็นเครื่องยนต์จุดระเบิดแล้วก็ติดตั้งได้ทั้งนั้นจะทำให้การเกิดจุดระเบิดได้เหมือนกัน แต่รถซูเปอร์คาร์เป็นรถที่วิ่งด้วยความเร็วสูง ก็จะทำให้ติดประกายไฟได้อาจมีปัญหาเรื่องความปลอดภัยได้เหมือนกัน
