ฮอนด้า มอเตอร์ ประกาศเข้าร่วมการแข่งขันรายการ FIA Formula One (F1) World Championship เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2558 เป็นต้นไป ภายใต้โครงการความร่วมมือกับแม็คลาเรน ซึ่งเป็นผู้ออกแบบ พัฒนา และผลิตรถแข่งเอฟวันแห่งสหราชอาณาจักร โดยฮอนด้าจะดูแลและรับผิดชอบด้านการพัฒนา ผลิต และสนับสนุนเครื่องยนต์พร้อมด้วยระบบสำรองพลังงาน และแม็คลาเรนจะทำหน้าที่พัฒนาและผลิตแชสซีส์ รวมทั้งบริหารทีมแข่งใหม่ที่มีชื่อว่า ทีมแม็คลาเรน ฮอนด้า
จากกฎระเบียบการแข่งขันรถเอฟวันที่ออกมาใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ได้ระบุให้รถแข่งต้องติดตั้งเครื่องยนต์ หัวฉีด V6 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบสำรองพลังงาน ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ฮอนด้าตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันรถเอฟวันระดับโลก เพราะจะเปิดโอกาสให้ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีระบบส่งกำลังเพื่อรองรับความท้าทายจากรายการแข่งขันรถระดับโลกดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพของระบบการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ และล่าสุด ได้เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานใหม่ๆ อาทิ ระบบไฮบริด การตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งรถรายการเอฟวันภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทั้ง 2 ด้านดังกล่าวให้มีความล้ำหน้ายิ่งขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทีมวิศวกรรุ่นใหม่ของฮอนด้าได้เรียนรู้ความท้าทายและความตื่นเต้นจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตอีกด้วย
นายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาระบบเครื่องยนต์ให้แก่รถแข่งเอฟวันครั้งนี้ว่า “นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมาฮอนด้าเป็นองค์กรที่เติบโตมาจากการเข้าร่วมเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นต่างๆ ทั้งยังมีประวัติอันยาวนานทางด้านการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และล้ำสมัย ตลอดจนได้มุ่งพัฒนาศักยภาพของพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ความเร็วสูงรายการดังๆ ของโลกมาโดยตลอด กฎระเบียบใหม่ของการแข่งขันรถเอฟวันที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้ฮอนด้ามุ่งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีของตนให้รุดหน้าและล้ำสมัยมากขึ้นกว่าที่เคยมีมา และนี่คือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ฮอนด้าตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้”
“ฮอนด้าขอแสดงความชื่นชมอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ)1 ที่ได้ออกกฎข้อบังคับใหม่ดังกล่าวที่ทั้งท้าทายและกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมทั้งฟอร์มูล่าวัน กรุ๊ป2 ที่ได้พัฒนารถเอฟวันให้เป็นรถแข่งชั้นเลิศและคุ้มค่าสูงสุด ทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของแฟนเอฟวันได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ฮอนด้าขอขอบคุณ นาย ฌอง ท็อดท์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) และมร.เบอร์นี่ เอคเคิลสโตน ซีอีโอ เอฟวัน กรุ๊ป2 ที่เข้าใจและร่วมมือสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งรถเอฟวันของฮอนด้าจนบรรลุผลสำเร็จ จาก “พลังแห่งความฝัน” ซึ่งเป็นปณิธานของฮอนด้าที่มุ่งสานต่อและขับเคลื่อนความฝันของเราร่วมกับลูกค้าและแฟนฮอนด้าให้บรรลุเป็นความจริงได้ จนถึงการผนึกกำลังร่วมกับแม็คลาเรน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท ผู้ผลิตรถเอฟวันที่ได้รับการยอมรับสูงสุด เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของฮอนด้าในการเผชิญความท้าทายเพื่อพัฒนารถเอฟวันให้เป็นรถแข่งที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
นายมาร์ติน วิทมาร์ช ซีอีโอ แม็คลาเรน กรุ๊ป ลิมิเต็ด กล่าวว่า “ชื่อของแม็คลาเรนและฮอนด้า คือนิยามแห่งความสำเร็จในการพัฒนารถฟอร์มูล่าวัน และความสำเร็จร่วมกันที่ผ่านมาในอดีตเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พนักงานทุกคนทั้งของแม็คลาเรนและฮอนด้าต้องร่วมมือกันสานต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งยังถือเป็นปณิธานร่วมกันในการมุ่งมั่นนำทีมแม็คลาเรน ฮอนด้าสร้างความสำเร็จสูงสุดอีกครั้งในสนามแข่งฟอร์มูลาวัน และนี่คือพันธสัญญาอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดต่อกันมาที่แม็คลาเรนและฮอนด้าจะร่วมมือกันดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ”
นายฌอง ท็อดท์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เผยว่า “ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ทราบว่า ฮอนด้าตัดสินใจหวนกลับคืนสนามแข่งฟอร์มูล่าวันร่วมกับแม็คลาเรนอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป การเปิดตัวระบบส่งกำลังใหม่ในปีหน้าด้วยรูปแบบของเครื่องยนต์ หัวฉีด V6 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบสำรองพลังงาน ถือเป็นความท้าทายอันน่าตื่นเต้น และตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตของกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผมมั่นใจว่า ฮอนด้าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวในอนาคต”
นายเบอร์นี่ เอคเคิลสโตน ซีอีโอ ฟอร์มูล่าวัน กรุ๊ป กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ฮอนด้าหวน กลับคืนสู่สนามฟอร์มูล่าวันอีกครั้ง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องยนต์สุดล้ำ ผนวกกับความชื่นชอบในกีฬามอเตอร์สปอร์ตจะทำให้ฮอนด้าเป็นคู่ต่อสู้ในสนามฟอร์มูล่าวันที่ใครจะประมาทมิได้”
ประวัติการเข้าร่วมการแข่งขันเอฟวันของฮอนด้า
-2507 - 2511 เข้าร่วมในฐานะทีม “ฮอนด้า” ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบและผลิตเครื่องยนต์และแชสซีส์
-2526 - 2535 เข้าร่วมในฐานะผู้จัดหาเครื่องยนต์ (ครองตำแหน่งชนะเลิศทั้งประเภทนักแข่งและผู้ผลิตติดต่อกัน 4 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2531 - 2534)
-2543 - 2548 เข้าร่วมในฐานะผู้จัดหาเครื่องยนต์และผู้พัฒนาร่วมแชสซีส์
-2549 - 2551 เข้าร่วมในฐานะทีม “ฮอนด้า” ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบและผลิตเครื่องยนต์และแชสซีส์
จากกฎระเบียบการแข่งขันรถเอฟวันที่ออกมาใหม่ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป ได้ระบุให้รถแข่งต้องติดตั้งเครื่องยนต์ หัวฉีด V6 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบสำรองพลังงาน ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้ฮอนด้าตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันรถเอฟวันระดับโลก เพราะจะเปิดโอกาสให้ฮอนด้าเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีระบบส่งกำลังเพื่อรองรับความท้าทายจากรายการแข่งขันรถระดับโลกดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ฮอนด้าได้มุ่งมั่นพัฒนาประสิทธิภาพของระบบการเผาไหม้ภายในเครื่องยนต์ และล่าสุด ได้เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการพลังงานใหม่ๆ อาทิ ระบบไฮบริด การตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งรถรายการเอฟวันภายใต้กฎข้อบังคับใหม่ครั้งนี้จะช่วยสนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีทั้ง 2 ด้านดังกล่าวให้มีความล้ำหน้ายิ่งขึ้น ทั้งยังเปิดโอกาสให้ทีมวิศวกรรุ่นใหม่ของฮอนด้าได้เรียนรู้ความท้าทายและความตื่นเต้นจากกีฬามอเตอร์สปอร์ตอีกด้วย
นายทาคาโนบุ อิโต้ ประธานกรรมการบริหาร และซีอีโอ บริษัท ฮอนด้า มอเตอร์ จำกัด กล่าวถึงการพัฒนาระบบเครื่องยนต์ให้แก่รถแข่งเอฟวันครั้งนี้ว่า “นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งบริษัทเป็นต้นมาฮอนด้าเป็นองค์กรที่เติบโตมาจากการเข้าร่วมเผชิญความท้าทายจากการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นต่างๆ ทั้งยังมีประวัติอันยาวนานทางด้านการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีใหม่ๆ และล้ำสมัย ตลอดจนได้มุ่งพัฒนาศักยภาพของพนักงานมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้เข้าร่วมการแข่งขันรถยนต์ความเร็วสูงรายการดังๆ ของโลกมาโดยตลอด กฎระเบียบใหม่ของการแข่งขันรถเอฟวันที่มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมมากขึ้นได้สร้างแรงบันดาลใจให้ฮอนด้ามุ่งเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีของตนให้รุดหน้าและล้ำสมัยมากขึ้นกว่าที่เคยมีมา และนี่คือ เหตุผลสำคัญที่ทำให้ฮอนด้าตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันครั้งนี้”
“ฮอนด้าขอแสดงความชื่นชมอย่างยิ่งต่อการตัดสินใจของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ)1 ที่ได้ออกกฎข้อบังคับใหม่ดังกล่าวที่ทั้งท้าทายและกระตุ้นให้ผู้ผลิตรถยนต์ต่างมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น รวมทั้งฟอร์มูล่าวัน กรุ๊ป2 ที่ได้พัฒนารถเอฟวันให้เป็นรถแข่งชั้นเลิศและคุ้มค่าสูงสุด ทั้งยังตอบโจทย์ความต้องการของแฟนเอฟวันได้อย่างครบถ้วน
นอกจากนี้ ฮอนด้าขอขอบคุณ นาย ฌอง ท็อดท์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) และมร.เบอร์นี่ เอคเคิลสโตน ซีอีโอ เอฟวัน กรุ๊ป2 ที่เข้าใจและร่วมมือสนับสนุนการเข้าร่วมการแข่งรถเอฟวันของฮอนด้าจนบรรลุผลสำเร็จ จาก “พลังแห่งความฝัน” ซึ่งเป็นปณิธานของฮอนด้าที่มุ่งสานต่อและขับเคลื่อนความฝันของเราร่วมกับลูกค้าและแฟนฮอนด้าให้บรรลุเป็นความจริงได้ จนถึงการผนึกกำลังร่วมกับแม็คลาเรน ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท ผู้ผลิตรถเอฟวันที่ได้รับการยอมรับสูงสุด เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงการเริ่มต้นใหม่ของฮอนด้าในการเผชิญความท้าทายเพื่อพัฒนารถเอฟวันให้เป็นรถแข่งที่ทรงพลังและมีประสิทธิภาพสูงสุด”
นายมาร์ติน วิทมาร์ช ซีอีโอ แม็คลาเรน กรุ๊ป ลิมิเต็ด กล่าวว่า “ชื่อของแม็คลาเรนและฮอนด้า คือนิยามแห่งความสำเร็จในการพัฒนารถฟอร์มูล่าวัน และความสำเร็จร่วมกันที่ผ่านมาในอดีตเป็นภารกิจอันยิ่งใหญ่ที่พนักงานทุกคนทั้งของแม็คลาเรนและฮอนด้าต้องร่วมมือกันสานต่ออย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งยังถือเป็นปณิธานร่วมกันในการมุ่งมั่นนำทีมแม็คลาเรน ฮอนด้าสร้างความสำเร็จสูงสุดอีกครั้งในสนามแข่งฟอร์มูลาวัน และนี่คือพันธสัญญาอันยิ่งใหญ่ที่สืบทอดต่อกันมาที่แม็คลาเรนและฮอนด้าจะร่วมมือกันดำเนินการให้บรรลุผลสำเร็จ”
นายฌอง ท็อดท์ ประธานสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ (เอฟไอเอ) เผยว่า “ผมรู้สึกยินดีอย่างยิ่งที่ทราบว่า ฮอนด้าตัดสินใจหวนกลับคืนสนามแข่งฟอร์มูล่าวันร่วมกับแม็คลาเรนอีกครั้ง โดยจะเริ่มตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นไป การเปิดตัวระบบส่งกำลังใหม่ในปีหน้าด้วยรูปแบบของเครื่องยนต์ หัวฉีด V6 1.6 ลิตร พร้อมระบบอัดอากาศเทอร์โบชาร์จเจอร์และระบบสำรองพลังงาน ถือเป็นความท้าทายอันน่าตื่นเต้น และตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์เพื่ออนาคตของกีฬามอเตอร์สปอร์ต ผมมั่นใจว่า ฮอนด้าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวในอนาคต”
นายเบอร์นี่ เอคเคิลสโตน ซีอีโอ ฟอร์มูล่าวัน กรุ๊ป กล่าวว่า “เป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ฮอนด้าหวน กลับคืนสู่สนามฟอร์มูล่าวันอีกครั้ง ด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีเครื่องยนต์สุดล้ำ ผนวกกับความชื่นชอบในกีฬามอเตอร์สปอร์ตจะทำให้ฮอนด้าเป็นคู่ต่อสู้ในสนามฟอร์มูล่าวันที่ใครจะประมาทมิได้”
ประวัติการเข้าร่วมการแข่งขันเอฟวันของฮอนด้า
-2507 - 2511 เข้าร่วมในฐานะทีม “ฮอนด้า” ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบและผลิตเครื่องยนต์และแชสซีส์
-2526 - 2535 เข้าร่วมในฐานะผู้จัดหาเครื่องยนต์ (ครองตำแหน่งชนะเลิศทั้งประเภทนักแข่งและผู้ผลิตติดต่อกัน 4 ปีซ้อนตั้งแต่ปี 2531 - 2534)
-2543 - 2548 เข้าร่วมในฐานะผู้จัดหาเครื่องยนต์และผู้พัฒนาร่วมแชสซีส์
-2549 - 2551 เข้าร่วมในฐานะทีม “ฮอนด้า” ซึ่งทำหน้าที่ออกแบบและผลิตเครื่องยนต์และแชสซีส์