xs
xsm
sm
md
lg

Jeep Cherokee : กลับมาใหม่ในแบบที่แตกต่าง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


มีอยู่ 2 ประเด็นที่ใครที่เป็นแฟนของ “เชโรกี” อาจจะต้องทำใจสักหน่อยกับรุ่นใหม่ ที่เพิ่งเปิดตัวเมื่อปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมาในงาน นิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2013

อย่างแรกก็คือ หน้าตาและรูปลักษณ์ที่ออกแบบได้อย่างสุดล้ำสมัย และแม้ว่าจะมีการพยายามคงเอกลักษณ์ของแบรนด์จี๊ปอย่างกระจังหน้าแบบ 7-Slot Grill แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ช่วยอะไรได้ในแง่ของความรู้สึกที่มีต่อเอสยูวีคันนี้

และประการที่สอง ซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด คือ เชโรกีใหม่ ซึ่งใช้รหัสรุ่นว่า KL ใช้แพล็ตฟอร์มของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า


ตรงนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องแปลกสำหรับใครหลายคน เพราะนับตั้งแต่เปิดตัวรุ่นใหม่ เพื่อทดแทนการทำตลาดแทนที่รุ่นเดิมซึ่งขายมาตั้งแต่ปี 1984 นั้น เชโรกีในตลาดนอกสหรัฐอเมริกา หรือลิเบอร์ตี้สำหรับตลาดอเมริกาเหนือ แชร์พื้นฐานของรถยนต์นั่งอยู่แล้ว พร้อมกับปรับระดับตลาดลงมา โดยเน้นความสมบุกสมบันลง (เพราะตลาด SUV ในตอนนั้นกำลังอยู่ในช่วงขาลง) และหันมาเอาใจลูกค้าที่ชอบการใช้งานทั้งออนโรดและออฟโรด โดยเน้นไปที่ประเภทแรก ซึ่งลิเบอร์ตี้ หรือเชโรกีก็ใช้แนวทางนี้ทำตลาดมา 2 เจนเนอเรชั่นด้วยกัน ก่อนที่จะถึงเวลาของการเปลี่ยนโฉม และชื่อซึ่งทางแซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ บอสใหญ่จากเฟียตที่มานั่งควบคุมไครสเลอร์ บริษัทแม่ของจี๊ปด้วย เห็นควรว่าควรจะนำชื่อนี้กลับมา

แต่ที่คิดว่าอาจจะทำให้ใครหลายคนไม่ชอบใจคือ การใช้แพล็ตฟอร์มของรถยนต์ขับเคลื่อนล้อหน้า ซึ่งอาจจะทำให้เกิดอาการรับไม่ได้สำหรับพวกฮาร์ดคอร์ แต่ถึงตอนนี้ จี๊ปจำเป็นต้องปรับตัวหากคิดที่จะอยู่รอด

KL หรือเชโรกีใหม่ ใช้พื้นตัวถังแบบขับเคลื่อนล้อหน้ารุ่นใหม่ที่ทางจี๊ปร่วมกับเฟียตพัฒนาขึ้นมา ซึ่งพื้นตัวถังรุ่นนี้ถูกนำไปใช้ก่อนหน้านี้แล้วกับการพัฒนารถยนต์รุ่น จุยเลียตตาของอัลฟา และดอดจ์ ดาร์ทที่กำลังทำตลาดอยู่ในปัจจุบัน


อย่างไรก็ตาม แม้จะแชร์พื้นฐานของเก๋งที่ดูแล้วหน่อมแหน้มไปหน่อยสำหรับแบรนด์จี๊ป แต่ทางผู้บริหารของแบรนด์นี้ก็ยืนยันว่าเชโรกีใหม่ยังคงความสมบุกสมบันในการลุยและตอบสนองการใช้งานโหดๆ ได้เหมือนกับรุ่นที่ผ่านมา โดยในรุ่นที่ทำตลาดก็จะมีให้เลือกทั้งแบบขับเคลื่อนล้อหน้า และแบบ 4 ล้อตลอดเวลา ซึ่งสามารถเลือกติดตั้งชุดเฟืองเกียร์ขับเคลื่อน 4 ล้อได้ 3 แบบ คือ Active I, Active II และ Active Drive Lock ซึ่งแบบแรกก็ใช้ลุยปกติเหมือนกับเอสยูวีทั่วไป ซึ่งระบบจะปรับอัตราส่วนในการกระจายแรงบิดจากเครื่องยนต์ไปยังล้อขับเคลื่อนทั้ง 4 ตามความเหมาะสมของเส้นทางเหมือนกับพวกระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัตโนมัติ

ถ้าเป็น Active II ก็จะมีให้เลือกเกียร์ 4L ด้วย สำหรับลุยโหดๆ ด้วยอัตราทด 2.92:1 และรุ่นที่ติดตั้งระบบขับเคลื่อน 4 ล้อรุ่นนี้จะมีการยกสูงจากปกติอีก 1 นิ้ว ส่วนแบบสุดท้าย มีระบบพื้นฐานแบบเดียวกับ Active II แต่ทว่าสามารถเลือกการทำงานของเพลาท้ายได้

ส่วนของการเลือกใช้งานระบบขับเคลื่อน 4 ล้อก็แสนจะสะดวก เพราะมีระบบที่เรียกว่า Selec-Terrain มาให้ด้วย ไม่ต้องเดาให้ยุ่งยาก แค่เลือกบิดปุ่มให้ตรงกับสภาพพื้นผิวที่เจอ เช่น โคลน/ทราย, อัตโนมัติ, หิมะ, หิน และสปอร์ต เท่านี้ระบบก็จะปรับการทำงานของส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนทุกส่วนเองอัตโนมัติ

สำหรับขุมพลังที่ใช้ในการขับเคลื่อนก็มีการยกชุดเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ SOHC 2,400 ซีซีของค่ายเฟียตมาใช้ด้วย ซึ่งขุมพลังบล็อกนี้มีกำลังสูงสุด 184 แรงม้า ที่ 6,250 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 23.6 กก.-ม. ที่ 4,800 รอบ/นาที แต่ถ้าต้องการบล็อกใหม่ก็พบกับขุมพลังรหัส Pentastar วี6 DOHC 3,200 ซีซี 271 แรงม้า ที่ 6,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 32.2 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที โดยทั้ง 2 รุ่นส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะส่วนระบบกันสะเทือนหน้าเป็นแม็คเฟอร์สันสตรัท และด้านหลังแบบยึด 4 จุด

การทำตลาดจะเริ่มในสหรัฐอเมริกาปลายปีนี้ โดยราคายังไม่เปิดเผยออกมาในตอนนี้

กำลังโหลดความคิดเห็น