xs
xsm
sm
md
lg

ส.ค.ดัน 2 โครงการ วงเงิน 400 ลบ.ช่วยเอสเอ็มอีเปิดตลาดใหม่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ส.ค.)
อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ส.ค.) เตรียม 2 โครงการเพิ่มศักยภาพ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี SMEs Pro-Active วงเงิน 300 ล้านบาท และโครงการเร่งด่วนและจำเป็นส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ 100 ล้านบาท โดยใช้งบเงินต้นของกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ทั้ง 2 โครงการเน้นการขยายการส่งออกไปตลาดใหม่

นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ส.ค.) เปิดเผยว่า ในเดือนเมษายนนี้ กรมฯ จะเปิดโครงการ “SMEs Pro-Active” หรือ โครงการส่งเสริมและเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อมวงเงิน 300 ล้านบาท และโครงการสำคัญเร่งด่วนและจำเป็นในการเพิ่มประสิทธิภาพการพัฒนาและส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ วงเงิน 100 ล้านบาท (ในปีงบประมาณ 2557-2558 ปีละ 50 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการนำเงินต้นของกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จำนวน 400 ล้านบาท มาใช้ในการดำเนิน ตามมติคณะกรรมการบริหารกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ครั้งที่ 1/2556 เมื่อ 8 กุมภาพันธ์ 2556 ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอให้ ครม.รับทราบไปแล้ว

โครงการนี้เดิมเน้นขยายการส่งออกไปตลาดใหม่ ได้ปรับให้ขยายครอบคลุมประเทศต่างๆ ในวงกว้างมากขึ้นไม่จำกัดเฉพาะตลาดใหม่ รวมทั้งเพิ่มวงเงินสนับสนุนรายบริษัทด้วย เพื่อสอดรับกับการรวมตัวกันเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน การเปิดตลาดและการขยายตัวทางการค้าและการลงทุนจะมีการแข่งขันที่รุนแรงยิ่งขึ้น จากสถิติในปี 2554-2555 มีวิสาหกิจไทยที่ดำเนินธุรกิจส่งออกรวมกว่า 33,000 ราย เป็นวิสาหกิจที่มีมูลค่าการส่งออกไม่เกิน 200 ล้านบาท หรือเอสเอ็มอีประมาณ 31,000 ราย คิดเป็นสัดส่วน 92% ของเอสเอ็มอีที่ดำเนินธุรกิจส่งออกรวมทั้งหมด” นางศรีรัตน์กล่าว

ในสภาวะปัจจุบัน เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงการปรับเปลี่ยนในเชิงโครงสร้าง ประกอบกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศที่มีบทบาทสำคัญและถือเป็นตลาดดั้งเดิมของไทย ได้ส่งผลกระทบต่อไทยและประเทศอื่นๆ ที่เป็นตลาดศักยภาพสูง เช่น จีนและอินเดีย นับว่าเป็นปรากฏการณ์ซ้อนที่สร้างความท้าทายจากภาวะตลาดหดตัว การแข่งขันที่รุนแรง และความซับซ้อนจากความเปลี่ยนแปลงในตลาดส่งออกของไทยในเศรษฐกิจยุคใหม่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จึงได้ปรับยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนการค้าและส่งออก โดยให้ความสำคัญลำดับต้นต่อการกระจายตลาดการส่งออกของไทยสู่ตลาดใหม่ บนพื้นฐานของการเสริมสร้างความร่วมมืออย่างบูรณาการระหว่างภาครัฐและเอกชน การดำเนินการในเชิงลึกมากกว่าเชิงกว้าง โดยปรับแนวทางดำเนินงานในกรอบภารกิจของกรมฯ เป็นกลุ่มธุรกิจสินค้าและบริการ (Cluster) เพื่อให้มีการร่วมดำเนินการกับภาคเอกชนอย่างใกล้ชิดในอุตสาหกรรมเดียวกันตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

* * * คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “SME ผู้จัดการออนไลน์” รับข่าวสารในแวดวงธุรกิจเอสเอ็มอีที่สมบูรณ์แบบที่สุด และร่วมสนุกกับกิจกรรมลุ้นรับของรางวัลมากมาย คลิกที่นี่เลย!! * * *

กำลังโหลดความคิดเห็น