หลังทำตลาดด้วยตัวถังแบบแฮทช์แบ็กที่เลือกได้ระหว่าง 3 หรือ 5 ประตูมาตั้งแต่เจนเนอเรชั่นแรก (แต่ก็มีตัวถังเปิดประทุนวางขายเป็นอีกทางเลือกเฉพาะรุ่นที่ 2) ในที่สุดออดี้ก็จัดการเพิ่มตัวถังใหม่ให้กับรถยนต์ระดับหรูไซส์คอมแพ็กต์อย่างรุ่น A3 ออกมาแล้ว และก็เป็นตัวถังแบบ 4 ประตูซีดานตามที่คาดเอาไว้
ที่เป็นนเช่นนั้นก็เพราะก่อนที่ A3 รุ่นปัจจุบันจะเปิดตัวออดี้เคยนำตัวต้นแบบมาจัดแสดงยั่วน้ำลายแฟนๆ กันก่อน และตอนนั้น A3 มากับตัวถังซีดาน ไม่ใช่แฮทช์แบ็กในแบบที่ควรจะเป็น ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ก็เลยเกิดคำถามขึ้นมาว่า A3 จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไหม แต่สุดท้ายเมื่อถึงเวลาที่รุ่นขายจริงเปิดตัว ก็ไม่มีอะไรใหม่ออกมาเซอร์ไพรส์จนกระทั่งถึงตอนนี้
A3 ซีดานมากับตัวถังแบบ 4 ประตูที่มีความยาวในระดับ 4,460 มิลลิเมตร กว้าง 1,800 มิลลิเมตร หรือมากกว่ารุ่นสปอร์ตแบ็คของ A3 อยู่ราวๆ 11 มิลลิเมตร และสูง 1,420 มิลลิเมตร เตี้ยกว่ารุ่นสปอร์ตแบ็ค 9 มิลลิเมตร
ส่วนในเรื่องรายละเอียดการออกแบบภายนอกนั้น ไม่ต่างจากรถยนต์สายพันธุ์เดียวกันแต่ต่างตัวถัง รายละเอียดการออกแบบของชิ้นส่วนตัวถังใช้ร่วมกัน ซึ่งก็รวมถึงไฟหน้าแบบ Full-LED Technology มาใช้ จะมีต่างออกไปก็ตรงกันชนหน้าซึ่งมีการออกแบบตรงช่องสปอตไลท์เป็นแบบใหม่
ทางเลือกของเครื่องยนต์ไม่แตกต่างจากรุ่นแฮทช์แบ็กมากนัก เริ่มต้นกับเครื่องยนต์ 4 สูบ 1,400 ซีซี TFSI 140 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. ตามด้วย 1,800 ซีซี TFSI ที่มีกำลัง 180 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 25.5 กก.-ม. สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 235 กิโลเมตร/ชั่วโมง และรุ่นเทอร์โบดีเซล 4 สูบ 2,000 ซีซี 150 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 32.6 กก.-ม. ให้ความประหยัดในระดับ 4.7 ลิตร/100 กิโลเมตร หรือ 21.3 กิโลเมตร/ลิตร ทุกรุ่นขับเคลื่อนล้อหน้า เลือกส่งกำลังผ่านทั้งเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะหรืออัตโนมัติ 6 จังหวะก็ได้
ออดี้เผยว่า A3 ซีดานจะเริ่มขายในเยอรมนีกลางปีนี้ และมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 25,000 ยูโร หรือเกือบๆ 1 ล้านบาท