xs
xsm
sm
md
lg

อลัน มูลัลลี“ฟอร์ดต้องประหยัดน้ำมันที่สุดในคลาส”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ค่าย“ฟอร์ด”ยึดงานบางกอกมอเตอร์โชว์2013 เผยทีเด็ดซึ่งเป็นทิศทางของโปรดักต์ที่กำลังจะทำตลาดในเมืองไทย ทั้งเอสยูวีขนาดเล็ก “เอคโคสปอร์ต” ที่เตรียมวางเครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ประกบเกียร์อัตโนมัติเพาเวอร์ชิฟท์ 6 สปีด พร้อมผลิตที่โรงงาน FTM ปลายปีนี้ก่อนมีคิวขายจริงต้นปี 2557 และอีกหนึ่งรุ่นคือเก๋ง“เฟียสต้า ไมเนอร์เชนจ์” พร้อมวางเครื่องยนต์อีโคบูสต์ 1.0 ลิตร มีกำหนดทำตลาดปลายปีนี้

ในโอกาสนี้ “อลัน มูลัลลี”ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี ยังเดินทางมาร่วมในงานดังกล่าว พร้อมให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวชาวไทยสั้นๆ ถึงทิศทางที่ฟอร์ดกำลังจะมุ่งไปในตลาดเอเชียแปซิฟิกซึ่งมีไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญ
อลัน มูลัลลี
- ฟอร์ดกับการลงทุนในไทย

ฟอร์ดนับเป็นแบรนด์ที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดในเมืองไทย ที่ผ่านมาเรานำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆในทุกเซกเมนต์ รวมถึงมอบมาตรฐานของโชว์รูม-ศูนย์บริการ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้สูงสุด

ไม่เพียงเท่านั้นฟอร์ดยังเป็นหนึ่งในบริษัทที่ลงทุนสูงที่สุดในเมืองไทย ด้วยการลงทุนกว่า 1.4 หมื่นล้านบาทสร้างโรงงานผลิตรถยนต์ระดับโลก “ฟอร์ด ไทยแลนด์ แมนูแฟคเจอริ่ง” (FTM) จังหวัดระยอง พร้อมขยายการจ้างงานได้มากกว่า 10,000 อัตรา (รวมทางตรงโดย FTM และผ่านเครือข่ายผู้ผลิตชิ้นส่วน) แน่นอนว่าประเทศไทยนับเป็นฐานการผลิตรถยนต์ที่สำคัญแห่งหนึ่งของฟอร์ดในภูมิภาคนี้

“ไทยและอาเซียนเป็นตลาดที่มีโอกาสในการเติบโตอย่างมากสำหรับธุรกิจของฟอร์ดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซึ่งแผนงานและการพลิกโฉมทางธุรกิจโดยใช้รถรุ่นใหม่ในการเบิกทางนั้นช่วยให้เรานำเสนอรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่เป็นผู้นำในแต่ละเซกเมนต์ได้มากขึ้น อย่างเช่น เอคโคสปอร์ต ใหม่ และเฟียสต้า ใหม่ ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าที่ตระหนักถึงความคุ้มค่าจริงๆ”


- จากกลยุทธ์ One Ford สู่แผนพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ

เราประสบความสำเร็จกับนโยบาย One Ford โดยสามารถสร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจของฟอร์ดทั่วโลก เช่นเดียวกับการพัฒนาโปรดักต์ใหม่ๆ ทั้งในเรื่องของการพัฒนาระบบขับเคลื่อนให้มีประสิทธิภาพสูง พร้อมการประหยัดน้ำมันและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในอนาคตเรามองไปถึงรถไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถไฟฟ้า(EV)

อย่างไรก็ตามปัจจุบันฟอร์ดมีเทคโนโลยีอย่างเครื่องยนต์อีโคบูสต์ ที่ให้สมรรถถนะการขับขี่อันยอดเยี่ยมและกินน้ำมันน้อย ควบคู่กับประสิทธิภาพของระบบส่งกำลัง หรือจะต้องมีเกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด และ 8 สปีด มานำเสนอในรถยนต์รุ่นใหม่ๆต่อไป
***เครื่องยนต์อีโคบูสต์ 1.0 ลิตร
- เมื่อไหร่คนไทยจะได้ใช้รถไฮบริดของฟอร์ด

มีความเป็นไปได้สูง และแน่นอนว่ารถไฮบริดจะต้องมาก่อนปลั๊กอินไฮบริด แต่ทั้งนี้การจะทำตลาดได้ต้องพิจารณาความพร้อมของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานของประเทศนั้นๆ ซึ่งรัฐบาลต้องเป็นผู้ลงทุน

- ภาพลักษณ์ฟอร์ดกับการเป็นรถซดน้ำมันกำลังจะหายไป

ฟอร์ดถือเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมยานยนต์ของโลก เรามีรถยนต์หลายรุ่นหลายขนาด ทำตั้งแต่รถเล็ก,กลาง,ใหญ่ หรืออย่างรถปิกอัพในอเมริกามี F150 ที่ได้รับความนิยมมาก แต่ด้วยขนาดและเครื่องยนต์ที่พร้อมรองรับการใช้งานหลากหลาย อาจต้องแลกด้วยการกินน้ำมันบ้าง แต่เชื่อเถอะว่าF150 ของเราไม่ได้กินน้ำมันมากไปกว่าปิกอัพในขนาดเดียวกันหรืออาจจะกินน้อยกว่าด้วยซ้ำ

เราตระหนักว่าอัตราบริโภคน้ำมันเป็นเหตุผลอันดับต้นๆในการเลือกซื้อรถ ดังนั้นเราจึงพัฒนาให้ฟอร์ดเป็นรถที่กินน้ำมันน้อยที่สุดในโลก โดยรถรุ่นใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวหรือกำลังจะเปิดตัวในอนาคต จะต้องกินน้ำมันน้อยกว่าคู่แข่งในเซกเมนต์เดียวกัน (อลัน มูลัลลี ใช้คำว่าMost fuel efficient in the class)

- นโยบายของรัฐบาลไทยกับอุตฯยานยนต์

แต่ละประเทศมีนโยบายคล้ายๆกัน โดยเน้นไปที่เรื่องสิ่งแวดล้อมหรือการลดไอเสียที่ออกมาจากรถยนต์ให้ได้มากที่สุด ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีมาก และทำให้ฟอร์ดสามารถพัฒนาเทคโนโลยียานยนต์ใหม่ๆมานำเสนอต่อลูกค้าได้อย่างสอดคล้องกัน

***หมายเหตุำ : สำหรับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.0 ลิตร 3 สูบ 125 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 170 นิวตันเมตร เป็นเครื่องยนต์รุ่นเล็กที่สุดในตระกูลอีโคบูสต์ภายใต้สิทธิบัตรของฟอร์ด ด้วยการผสานระบบการจ่ายน้ำมันแบบไดเร็กอินเจ็กชั่นเข้ากับระบบเทอร์โบชาร์จและระบบวาล์วแปรผัน เพื่อให้เครื่องยนต์ขนาดเล็กช่วยประหยัดน้ำมันได้สูงสุดถึง 20% ขณะเดียวกันยังมีพละกำลังและประสิทธิภาพในการทำงานเทียบได้กับเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.6 ลิตร

ปัจจุบันเครื่องยนต์อีโคบู๊สต์ของฟอร์ดมีทั้งแบบ 4 สูบ ขนาด 1.6 และ 2.0 ลิตร และเครื่องยนต์ วี6 ขนาด 3.5 ลิตร

กำลังโหลดความคิดเห็น