xs
xsm
sm
md
lg

“เวสป้า GTS300ie” ค่าตัว3แสน แรงได้แค่ไหน?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ประโยคคำถามข้างต้นไม่ได้ตั้งใจตีหน้ามึน หรือมีเจตนาร้ายอันใดที่จะสร้างรอยแปดเปื้อนให้กับแบรนด์คลาสสิกชื่อดังก้องโลก ซึ่งมีประวัติยาวนานตั้งแต่ปี 1946 เพราะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ความเร็วแรงไม่ใช่จุดขายของสกู๊ตเตอร์สัญชาติอิตาเลียนอย่าง “เวสป้า”

แต่ในเมื่อปัจจุบันกระแสความนิยมสองล้อสไตล์บิดอย่างเดียว ในบ้านเรากำลังร้อนแรงแซงหน้ารถมีเกียร์ไปแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงโมเดลในตลาด มีให้เลือกเล่นมากมายหลายรุ่น และคงไม่พ้นต้องถูกพูดคุยหยิบยกเป็นประเด็นเชิงเปรียบเทียบในวงสนทนาของนักขี่หรือผู้ที่กำลังสนใจจะซื้อแน่ๆ

อย่างไรก็ตาม ก่อนจะมีกลุ่มเด็กแว้นที่เสพติดความเร็วแบบผิดๆ โดยไม่รู้ความแตกต่างและประเภทของรุ่นรถ จึงต้องให้นิยามคำว่า “แรง” ในที่นี้ ขออนุญาตหมายรวมถึงสมรรถนะการใช้งาน คุณภาพของอุปกรณ์ติดรถ รวมถึงความคุ้มค่าและจุดเด่นของสกู๊ตเตอร์รุ่นท้อปไลน์ สำหรับ “เวสป้าGTS300ie” ซึ่งต้องแลกด้วยราคาค่าตัวเป็นจำนวนเงินถึง 310,000 บาท


อันดับแรกสำรวจการออกแบบหน้าตา เห็นแว่บเดียวก็รู้ว่าต้องเป็นแบรนด์อมตะจากแดนมักกะโรนี ด้วยโครงสร้างตัวถังเหล็กอันเป็นเอกลักษณ์ โคมไฟหน้าดวงกลมโต มีไฟเลี้ยวสองฝั่งฝังอยู่บนบังลมด้านหน้า เบาะนั่งขนาดใหญ่ตอนเดียวทรงขนมปัง ตัดเย็บให้มีส่วนโค้งเว้าตามสมัยนิยม เรือนวัดความเร็วแบบอนาล็อกมีหน่วยเป็นกิโลเมตรและไมล์ควบคู่กัน พร้อมเกจ์แสดงระดับน้ำมันเชื้อเพลิงและอุณหภูมิความร้อนเครื่องยนต์

โดยรวมให้กลิ่นอายความคลาสสิกลงตัวแล้ว แต่จะแปลกตาก็เพียงการมีนาฬิกาดิจิตอลขนาดจิ๋วแปะเพิ่มเข้ามา ทำให้ดูขัดเขินชอบกล


ขณะที่การวางตำแหน่งควบคุมระบบไฟต่างๆ ใช้งานได้สะดวก แฮนด์บังคับฝั่งซ้ายประกอบด้วยไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว และแตร ฝั่งขวาสวิตซ์ออฟ-รัน และปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์ โดยมีลูกเล่นการตกแต่งใช้สีทูโทนขาวและดำ สลับอุปกรณ์บางส่วนเป็นโคมเมียมเงาวับ เช่น ปลอกแฮนด์ กระจกมองข้าง มือจับหลัง และขอบคิ้วบังลมรอบคัน

สำหรับมิติตัวรถสังเกตุว่ามีขนาดใหญ่กว่าสกู๊ตเตอร์แบบออโตเมติกที่เห็นบนท้องถนน ทั้งความกว้าง ยาว และสูง เช่นเดียวกับระยะฐานล้อ แต่ก็ยังไม่มากมายนัก เมื่อหันไปดูที่น้ำหนักตัวรถทะลุ 150 กก. ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าการเข็นขณะจอดต้องเกร็งแขนออกแรงกว่าปกติแน่นอน


ส่วนฟังก์ชันการใช้งานที่ให้มาเป็นมาตรฐานติดรถ เริ่มจากกุญแจแบบฝังชิพอิมโมบิไลเซอร์ ตะขอเกี่ยวสัมภาระอยู่เหนือเก๊ะใส่ของแบบเปิด-ปิดได้ ตลอดจนความจุใต้เบาะขนาดคิงไซส์สามารถยัดหมวกกันน็อกแบบเต็มใบได้เลยทีเดียว แต่อย่าเผลอไปวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะโทรศัพท์มือถือ เพราะอาจเกิดความเสียหายจากความร้อนของเครื่องยนต์ที่ส่งทะลุผ่านขึ้นมาได้

มาถึงท่าทางการขับขี่มีความสะดวกสบายเป็นจุดเด่นที่ชัดเจน เบาะชิ้นเดียวหนานุ่ม แบ่งระดับความสูง-ต่ำสำหรับผู้ขับขี่และคนซ้อน โดยนั่งใช้งานจริงเป็นระยะเวลานานกว่าชั่วโมง ยืนยันว่าไม่มีอาการล้าหรือเมื่อยที่แก้มก้นแต่อย่างใด ส่วนช่วงการเหยียดแขนองศาการบังคับไม่ต่างจากสกู๊ตเตอร์ทั่วไปเท่าไรนัก รวมถึงการวางขาบนพักเท้ามีพื้นที่เหลือเฟือ จะวางตามแนวดิ่งหรือขยับกึ่งยันไปด้านหน้าก็ยังพอมีส่วนโค้งรองรับอยู่เล็กน้อย

การวิ่งซ่อกแซ่กในเมืองทำได้คล่องตัว แม้ว่ามิติตัวรถจะใหญ่กว่าสกู๊ตเตอร์ที่เคยสัมผัส ซึ่งพอปรับตัวให้ชินได้แล้ว การกะขนาดกว้างยาวรอบคันเพื่อลอดช่องรถติดในช่วงเวลาเร่งด่วนทำได้อย่างสบายๆ หรือบางช่วงต้องจอดติดไฟแดงก็ไม่ต้องกังวลเรื่องอุณหภูมิความร้อน เพราะพัดลมระบายอากาศจะติดเครื่องทำงานโดยอัตโนมัติ

ด้านอัตราเร่งต้องยอมรับตามตรงว่า ขุมพลังเครื่องยนต์สูบเดียว 4 จังหวะ 4 วาล์ว SOHC ขนาด 278 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้กำลังสูงสุด 22 แรงม้าที่ 7,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 22.3 นิวตัน-เมตรที่ 5,000 รอบ/นาที ขับเคลื่อนด้วยสายพานโดยใช้ชุดคลัทช์แบบแรงเหวี่ยงอัตโนมัติ ช่วงต้นการออกตัวไม่พุ่งอย่างอย่าที่คิด ค่อนข้างอืดไปนิดนึงด้วยซ้ำหากเทียบกับรถออโต้ที่ใช้เครื่องยนต์ 100 ซีซีกว่าๆ

แต่กระนั้นพอความเร็วช่วงกลางแตะระดับ 60-100 กม./ชม. จะเริ่มรู้สึกถึงความแตกต่าง เพราะแรงบิดติดมือสามารถเร่งแซงได้อย่างมั่นใจ ส่วนความเร็วปลายได้ลองทำท้อปสปีด เข็มวัดบนหน้าปัดชี้ไปเกือบถึงตัวเลข 130 กม./ชม. ใกล้เคียงกับสเปกบนเว็บต่างประเทศซึ่งเคลมว่าทำได้อยู่ที่ 129 กม./ชม.

ส่วนระบบเบรกใช้ดิสก์เดี่ยวทั้งหน้าและหลัง แม้ว่าจะไม่มี ABS ติดตั้งมาให้ด้วยเหมือนรถสมัยใหม่ในกลุ่มเครื่องยนต์ที่แรงกว่ารถเล็กทั่วไป แต่ประสิทธิภาพการห้ามล้อไม่มีอะไรต้องกังวล ขณะที่ช่วงล่างใช้โช้คอัพเดี่ยวเหมือนกันทั้งสองล้อ น้ำหนักที่เซตออกมาจากโรงงานแข็งโป๊ก ใช้ซิ่งวิ่งโค้งแน่นหนึบดีมากๆ แต่พอวิ่งบนทางขรุขระเพียงเล็กน้อยหรือในช่วงขึ้นลงคอสะพาน ขี่คนเดียวรู้สึกแรงสะเทือนมาถึงแฮนด์ ลองซ้อนสองอาการดีขึ้น แต่ก็ยังรู้สึกว่าแข็งเกินอยู่ดี

ปิดท้ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เฉลี่ยทำได้ 18 กม./ลิตร หาค่าโดยเติมน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 95 เต็มถัง วิ่งไปประมาณ 115 กม. และเติมเต็มถังอีกครั้งด้วยน้ำมันจำนวน 6.45 ลิตร

บทสรุปของ “เวสป้าGTS300ie” สนนราคา 310,000 บาท ผลลัพธ์การทดสอบคงไม่ได้อยู่ที่การค้นหาคำตอบว่า เครื่องยนต์มีความแรงขนาดไหน หากสิ่งสำคัญกว่าคือ ได้สัมผัสพัฒนาการของแบรนด์คลาสสิกสัญชาติอิตาเลียน ซึ่งคงไว้ด้านการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ ผสานเทคโนโลยีสมัยใหม่เข้ามาตอบโจทย์การใช้งานหรือช่วยหนุนด้านสมรรถนะให้ดีขึ้น ทั้งสามารถบ่งบอกรสนิยม(อาจรวมถึงเงินในกระเป๋า)ของผู้ขับขี่ และแน่นอนย่อมสะท้อนว่าเป็นคนใช้อารมณ์เหนือเหตุผลในการตัดสินใจซื้อด้วย

ข้อมูลสเปก เวสป้าGTS300ie : บริษัท เวสปิอาริโอ (ประเทศไทย) จำกัด
ภาพ : พชร แดงเหลือบ






กำลังโหลดความคิดเห็น