xs
xsm
sm
md
lg

เปิดวิชัน “วิเชียร” เอ็มดีป้ายแดงบางจาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อวันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา “บางจากปิโตรเลียม” ได้ผู้นำองค์กรคนใหม่ “วิเชียร อุษณาโชติ” ลูกหม้อคนหนึ่งที่ก้าวมานั่งตำแหน่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ หลังจาก “ดร.อนุสรณ์ แสงนิ่มนวล” ผู้ซึ่งสร้างการเปลี่ยนแปลงและความมั่นคงให้กับบางจาก แต่ยังคงสืบทอดวัฒนธรรมองค์กรที่ดีต่อไป ได้ครบกำหนดดำรงตำแหน่ง 2 วาระ ดังนั้นจึงน่าจับตามองเอ็มดีคนใหม่ ว่าจะสามารถสานงานต่อและทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนหรือไม่? ดังนั้นลองมาฟังวิสัยทัศน์ของเอ็มดีป้ายแดงคนนี้ดู…

นโยบายบางจากนับจากนี้ไป

บางจากยังคงสานงานต่อนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมและสังคม ซึ่งเป็นวัฒนธรรมของบางจากฯ ที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เมื่อปี 2528 ขณะเดียวกันก็ต้องดำเนินธุรกิจให้เติบโตต่อเนื่องและมั่นคง ด้วยการพัฒนาธุรกิจหลักในปัจจุบันให้มีศักยภาพและประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมกับขยายธุรกิจใหม่เพื่อสร้างโอกาสเสริมรายได้ให้กับบริษัท ช่วยพัฒนาชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคมไทย

ทิศทางแผนงานดำเนินธุรกิจ

บางจากยังคงดำเนินธุรกิจหลักด้านพลังงาน แต่การจะให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน จะต้องมีการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ และมีความพร้อมต่อการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วในปัจจุบัน อย่างการปรับปรุงพัฒนาเพื่อเพิ่มศักยภาพโรงกลั่นให้ดีขึ้น เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และลดการใช้พลังงานในกระบวนการผลิต รวมถึงศึกษาการลงทุนโรงงานผลิตไบโอดีเซลเฟส 2 เพราะมีความต้องการใช้มาก ตลอดจนการลงทุนโรงกลั่นแห่งใหม่รองรับความต้องการในอนาคต

นอกจากนี้ยังศึกษาถึงความเป็นไปได้ของพลังงานอื่นๆ นอกเหนือจากการผลิตไฟฟ้าจากเซลส์แสงอาทิตย์ ที่เมื่อรวมทุกเฟสจะสร้างรายได้ไม่ต่ำกว่า 1,400 ล้านบาท รวมถึงการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC

แนวทางการจำหน่ายน้ำมัน

ธุรกิจการตลาดบางจากยังคงยึดนโยบายสนับสนุนพลังงานทดแทนต่อเนื่อง และจะไม่กลับไปจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 95 อย่างแน่นอน เพราะไม่ต้องการนำเข้าสาร MTBE (สารเพิ่มออกเทนที่ผสมในน้ำมันเบนซิน 95) เพื่อรักษาสิ่งแวดล้อม และจะขยายสถานีบริการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 ทั่วประเทศ และ E85 เพิ่มเป็น 100 แห่งภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับปริมาณรถยนต์รุ่นใหม่ที่ออกสู่ตลาดมากขึ้น

ปั๊มบางจากและธุรกิจ Non Oil

จะมีการพัฒนารูปแบบของปั๊มบางจากและสร้างความพึงพอใจสูงสุดแก่ลูกค้า เพื่อรักษาความเป็น Top 2 Brand of Choice และจะเปิดสถานีบริการน้ำมันในรูปแบบ Green Station เพิ่มอีก 2 แห่ง พร้อมกับขยายร้านสะดวกซื้อมินิบิ๊กซีเพิ่มเป็น 100 แห่ง และเพิ่มความหลากหลายของธุรกิจเสริม เพื่อตอบสนองความสะดวกสบายของวิถีชีวิตคนรุ่นใหม่มากขึ้น

เป้าหมายทางธุรกิจในปี 2556

บางจากคาดว่าจะมีรายได้ก่อนหักดอกเบี้ยภาษีและค่าเสื่อม (EBITDA) ประมาณ 1 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 30% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา จากการเพิ่มปริมาณการกลั่นน้ำมันเฉลี่ยทั้งปีระดับ 1.1 แสนบาร์เรลต่อวัน เพราะในปีนี้ไม่ต้องหยุดซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้สามารถกลั่นน้ำมันจำหน่ายได้เพิ่มขึ้น โดยมีค่าการกลั่นเฉลี่ย 7 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล

น้ำมันเครื่องบางจากจะเติบโต 20%

บางจากเป็นค่ายน้ำมันอีกราย ที่ต่อยอดธุรกิจด้วยการทำผลิตภัณฑ์น้ำมันหล่อลื่น หรือน้ำมันเครื่อง แม้หากเทียบกับรายอื่นๆ อาจจะใหม่ แต่ได้รับการยอมรับจากบริษัทรถยนต์ระดับโลก ให้เป็นผู้ผลิตน้ำมันเครื่องติดกับรถยนต์ที่ออกจากโรงงาน จึงไม่แปลกที่จะมีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทุกปี และปีนี้บางจากจะเป็นอย่างไร? “อิทธิคุณ สีห์โสภณ” ผู้อำนวยการสายตลาดอุตสาหกรรมฯ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) จะมาให้คำตอบ…

การดำเนินงานที่ผ่านมาและปีนี้

น้ำมันเครื่องบางจากมีการเติบโตต่อเนื่องทุกๆ ปี และปีที่ผ่านมาเติบโต 20% มากกว่าตลาดรวมที่ขยายตัว 6% อยู่อันดับ 4 และ 5 สลับกับคู่แข่งในกลุ่มผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 (ผู้ค้าน้ำมันเชื้อเพลิงรายใหญ่ปีละหนึ่งแสนเมตริกตันขึ้นไป) โดยอันดับหนึ่งเป็นของ ปตท. หรือ PTT ที่มียอดขายเฉลี่ยกว่า 10 ล้านลิตรต่อเดือน ขณะที่บางจากเฉลี่ยประมาณกว่า 3 ล้านลิตรต่อเดือน สำหรับในปี 2556 นี้ บางจากยังคงตั้งเป้าเติบโตประมาณ 20% เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา

ผลิตภัณฑ์ใหม่แนะนำสู่ตลาด

ในช่วงนี้ยังจะไม่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา เพราะตลาดโลกยังไม่ออกมาตรฐานใหม่ แต่น้ำมันเครื่องบางจากจะมีการโปรโมตการได้รับมาตรฐาน Dexos ไม่ว่าจะเป็น Dexos 1(เบนซิน) และ 2 (ดีเซล) ซึ่งเป็นค่ามาตรฐานเฉพาะที่ใช้กับรถยนต์เชฟโรเลตของเจนเนอรัล มอเตอร์ส หรือจีเอ็ม (GM) เพราะปัจจุบันบางจากเป็นผู้ผลิตน้ำมันเครื่องส่งให้กับรถยนต์เชฟโรเลตที่ออกจากโรงงาน ซึ่งจะเห็นว่าการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องของรถยนต์เชฟโรเลตจะมีอายุยาวนานกว่าทั่วๆ ไป หรือเปลี่ยนที่ 15,000 กิโลเมตร

แผนการตลาดที่จะนำมาใช้

ปีนี้บางจากจะขยายผลิตภัณฑ์สู่กลุ่มลูกค้าตรงมากขึ้น โดยการขายตรงสู่ร้านค้าต่างๆ จะพยายามลดขั้นตอนผ่านผู้ค้าส่งน้อยลง จากปัจจุบันสัดส่วนยอดขายจากกลุ่มนี้จะอยู่ที่ประมาณ 30% นอกจากนี้จะรุกตลาดฟลีต หรือกลุ่มลูกค้าองค์กรมากขึ้น รวมถึงตลาดโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งตรงนี้จะทำให้มั่นใจสามารถเพิ่มยอดขายสูงขึ้นตามเป้า 20% และมาอยู่อันดับ 4 ของผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 ได้อย่างมั่นคง

กำลังโหลดความคิดเห็น