xs
xsm
sm
md
lg

แผนอุตฯรถยนต์ใหม่ ดันเทคโนโลยีสีเขียว ส่งออกล้านล้านบาท

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ข่าวในประเทศ-เปิดแผนแม่บทอุตฯ ยานยนต์ฉบับใหม่ ชู 4 แนวคิดคอนเซ็ปต์แชมป์เปี้ยน เทคโนโลยีหรือรถยนต์สีเขียว มีน้ำหนักเบา ใช้ไอที และความปลอดภัยสูง วางยุทธศาสตร์ครอบคลุม 5 ด้าน คาดหวังยอดผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ชนิดละไม่ต่ำกว่า 3 ล้านคัน เป็นฐานการผลิตส่งออกขนาดใหญ่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่าปีละ 1 ล้านล้านบาท พร้อมตั้งศูนย์ทดสอบภายในปี 2558

ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสากรรม เปิดเผยว่า จากการดำเนินงานตามแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ฉบับที่ 2 (พ.ศ.2550-2554) ส่งผลให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 10 ของโลก โดยมีโปรดักต์แชมเปียนเป็นปิกอัพ 1 ตัน และอีโคคาร์ ซึ่งคาดว่าปีนี้น่าจะมีการผลิตรถไม่ต่ำกว่า 2.3 ล้านคัน ขณะที่รถจักรยานยนต์ 2.8 ล้านคัน และเพื่อมุ่งสู่วิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยในปี 2564 ที่ต้องการให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์โลก พร้อมด้วยห่วงโซ่อุปทานที่สร้างมูลค่าเพิ่มในประเทศ และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม จึงได้จัดทำแผนแม่บทอุตสาหกรรมยานยนต์ใหม่ หรือฉบับที่ 3 ออกมา

“กระทรวงอุตสาหกรรมเตรียมจะนำแผนแม่บทฯ ต่อนายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรม เพื่อนำเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณา และประกาศใช้ต่อไป ซึ่งเป็นการเจาะลึกถึงแผนปฏิบัติของอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย ในช่วงปี พ.ศ. 2555-2559 โดยมีแนวคิดที่จะผลักดันรถยนต์เทคโนโลยีสีเขียว ที่มุ่งเน้นการใช้พลังงานทางเลือกต่างๆ รถที่มีน้ำหนักเบา แต่มีมาตรฐานสากล เพื่อประหยัดการใช้พลังงาน เน้นการใช้เทคโนโลยีระบบไอที เพื่อเพิ่มความสะดวกในการขับขี่ แก้ปัญหาการจราจร และรถยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง”

นายปฏิมา จีระแพทย์ ผู้อวยการสถาบันยานยนต์ เปิดเผยว่า แนวคิดทั้งหมดจะครอบคลุมยานพาหนะทุกประเภท ทั้งรถยนต์นั่ง รถจักรยานยนต์ และรถขนส่ง เพราะสิ่งเหล่านี้จะเป็นคอนเซปต์แชมเปี้ยนของไทยต่อไป ไม่ใช่รถเป็นคันหรือประเภทเหมือนที่ผ่านมา ที่สำคัญเทคโนโลยียานยนต์สีเขียวเป็นเทรนด์ที่จะได้รับตอบรับในทั่วโลก รวมทั้งไทยมากขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2063 เป็นต้นไป

ทั้งนี้เพื่อรองรับแนวคิดดังกล่าว ได้กำหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ไว้ 5 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ 1. การพัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัย 2. ความเป็นเลิศในด้านกรพัฒนาบุคลากร 3. เสริมสร้างความเข้มแข็งของผู้ประกอบการ 4. การสร้างสภาวะแวดล้อมที่ดี ด้วยปัจจัยโครงสร้างพื้นฐาน 5. การสร้างสภาวะแวดล้อมทางธุรกิจที่ดี ด้วยการบูรณาการนโยบายภาครัฐ โดยจะเสนอให้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับนโยบายอุตสาหกรรมยานยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์แห่งชาติ(กยช.)

“สิ่งคาดหวังจากแผนแม่บทฯ ฉบับ3 ต้องการให้ไทยเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ที่สำคัญของโลก โดยมีการผลิตรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ชนิดละไม่น้อยกว่า 3 ล้านคันต่อปี ภายในปี พ.ศ. 2560 โดยมีมูลค่าเพิ่มจากการใช้ชิ้นส่วนยานยนต์ในประเทศเฉลี่ยเกินกว่า 50% รวมถึงมีมูลค่าเพิ่มการผลิตไม่น้อยกว่า 10% จากขณะนี้อยู่ 6-8% และเป็นฐานการผลิตส่งออกระดับโลก ด้วยการเพิ่มสัดส่วนรถที่ผลิตทั้งหมด จากปัจจุบันส่งออก 45% เป็น 65% และมีมูลค่าการส่งออกมากกว่า 1 ล้านล้านบาท จากปัจจุบัน 7-8 แสนล้านบาท ภายในปีพ.ศ. 2556 พร้อมกับมีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

ขณะเดียวกันภายใต้แผนกำหนดให้มีการจัดตั้งศูนย์ทดสอบมาตรฐานยานยนต์ในเมืองไทย ซึ่งจะเป็นศูนย์ทดสอบของอาเซียน เพื่อให้สอดคล้องกับการที่ไทยได้ไปลงนามข้อตกลงร่วมกับประเทศในอาเซียน โดยตกลงให้ไทยจัดตั้งศูนย์ทดสอบและศูนย์วิจัยพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ขึ้นในประเทศ เพื่อเป็นศูนย์กลางของอาเซียน และขณะนี้ได้มีการศึกษาร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เพื่อผลักดันให้ตั้งศูนย์ทดสอบขึ้นในไทยต่อไป

สำหรับการจัดตั้งศูนย์ทดสอบประมาณมูลค่าการลงทุนเบื้องต้น 8,100 ล้านบาท แบ่ง 2 เฟสการลงทุน ได้แก่ เฟส 1 ศูนย์ทดสอบมาตรฐาน 3,200 ล้านบาท โดยจะใช้พื้นที่ไม่เกิน 200ไร่ มีสถานที่ตั้งไม่ไกลจากท่าเรือน้ำลึก อยู่ในพื้นที่ตั้งของการผลิตยานยนต์และชิ้นส่วนในภาคตะวันออก ซึ่งคงต้องให้รัฐบาลตัดสินใจเป็นผู้เลือก โดยศูนย์ดังกล่าวจะต้องแล้วเสร็จภายในปี 2558 และเฟส 2 สนามทดสอบผลิตภัณฑ์ หรือศูนย์การพัฒนาและวิจัย ชิ้นส่วนยานยนต์ สำหรับผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ในอนาคต มูลค่า 4,900 ล้านบาท โดยเฟส 2 นี้ ยังไม่ระบุแน่นอนว่าต้องลงทุนเมื่อไหร่
กำลังโหลดความคิดเห็น