ข่าวในประเทศ-“ฟอร์ด” ขยับกลยุทธ์รับเป้าหมายการเติบโต ปรับผลตอบแทนดีลเลอร์ใหม่ จูงใจให้เพิ่มเครือข่ายการขายและบริการ โดยยอมทุ่มเม็ดเงิน 1,000 ล้านบาท ยกระดับภาพลักษณ์แบรนด์ โชว์รูมและศูนย์บริการรูปแบบใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ Brand@Retail ให้ครอบคลุม 140 แห่งทั่วประเทศในปีหน้า ฟุ้งค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าคู่แข่ง 10-76%
ยุคลธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์ One Ford นอกจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งภายในปี 2558 จะมีการเปิดตัวรถใหม่ 8 รุ่นสู่ตลาดไทย โดยรุ่นแรกเป็นปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ และล่าสุดรถยนต์นั่งรุ่น ฟอร์ด โฟกัส โฉมใหม่ โดยยังเหลือผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวอีก 6 รุ่น พร้อมกันนี้ฟอร์ดยังได้มีการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ในไทยมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ด้วยการผลิตรุ่นโฟกัสเป็นโมเดลแรก
“ปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับฟอร์ดดีมาก คาดถึงสิ้นปีจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 50,000 คัน จากปีที่ผ่านมา 29,000 คัน และหลังปี 2556 ส่วนตัวมุ่งหวังผลักดันแบรนด์ฟอร์ด ให้ติด 1 ใน 5 ตลาดรถยนต์ไทย จากขณะนี้อยู่อันดับ 7 แต่การที่จะเติบโตได้ไม่ใช่เพียงแค่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ เหตุนี้จึงได้มีการยกระดับแบรนด์ฟอร์ด ด้วยการปรับภาพลักษณ์ ตลอดจนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Brand@Retail ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ”
ทั้งนี้ในการพัฒนาและปรับภาพลักษณ์โชว์รูม เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับโลก ตามกลยุทธ์ One Ford ซึ่งมีการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ให้ความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการโชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ด และที่สำคัญยังได้มีการยกระดับมาตรฐานงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นก่อนและหลังการขาย เพื่อรองรับลูกค้าในปัจจุบันและที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ณรงค์ สีตลายน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่าย บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับจากปี 2551 ฟอร์ดมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 80 แห่ง และจะครบ 118 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ โดยฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายการขายและบริการ ให้ครอบคลุมความต้องการลูกค้าทั่วประเทศมากขึ้น ดังนั้นตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี 2556 ที่จะถึงนี้
“ล่าสุดฟอร์ดได้บรรลุข้อตกลงสัญญากับดีลเลอร์ ในการปรับผลตอบแทนการจำหน่ายรถฉบับใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศ ได้ลงทุนปรับโชว์รูมและศูนย์บริการตามคอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งจะดำเนินการครบทั้ง 140 แห่งภายในสิ้นปีหน้า และคาดจะใช้เงินลงทุนตามนโยบายดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท”
ในส่วนของบุคลากรฟอร์ดยังสนับสนุนทุกส่วน ด้วยการจัดตั้ง Academy เพื่อให้การอบรมและพัฒนาบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ บริการก่อนและหลังการขาย ขณะเดียวกันได้มีการเพิ่มช่องทางการให้ความรู้กับลูกค้า ผ่านรูปแบบ E-Learning ไม่ว่าจะเป็นในเว็บไซต์ หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่าน iPad และยังได้ทำแอพพลิเคชั่นระบบ SYNC ของฟอร์ดด้วย
อดิศักดิ์ หวังพงษ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริการลูกค้า ฟอร์ด อาเซียน เปิดเผยว่า โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ปัจจุบัน 118 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับรถยนต์ฟอร์ดกว่า 40,000 คัน และเมื่อมีการเพิ่มเครือข่ายในปีหน้าเป็น 140 แห่ง มั่นใจว่าจะรองรับการเติบโตของฟอร์ดในอนาคตได้แน่นอน ขณะเดียวกันในเรื่องบริการหลังการขาย ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด
“จะเห็นว่าค่าบำรุงรักษารถฟอร์ด ตามระยะ 100,000 กิโลเมตร หรือ 5 ปี หากเทียบกับรถยนต์คู่แข่งแล้ว ฟอร์ดจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าชัดเจน อย่างรถซับคอมแพกต์ ฟอร์ด เฟียสต้า ต่ำกว่าสูงสุดถึง 76% และ 43% สำหรับรถยนต์รุ่นโฟกัสใหม่ หรือในปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ต่ำกว่า 10%”
นอกจากนี้ฟอร์ดยังได้มีการเพิ่มความสะดวก ให้กับลูกค้าในการเข้ารับบริการ ด้วยการจัดบริการเร่งด่วน และล่าสุดเปิดโมบาย เซอร์วิส ยูนิต หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ นำปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จำนวน 84 คัน สำหรับผู้แทนจำหน่ายในการให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้าในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงเพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ลูกค้าฟอร์ด ไม่เพียงเท่านั้นฟอร์ดยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการบริการ เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดให้กับลูกค้า ผ่านโปรแกรมบำรุงรักษษรถยต์ตามระยะ และโปรแกรมขับขี่อุ่นใจ เป็นต้น
ยุคลธร วิเศษโกสิน รองประธานฝ่ายการตลาด การขาย และการบริการ ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า ภายใต้กลยุทธ์ One Ford นอกจากเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ ซึ่งภายในปี 2558 จะมีการเปิดตัวรถใหม่ 8 รุ่นสู่ตลาดไทย โดยรุ่นแรกเป็นปิกอัพ ฟอร์ด เรนเจอร์ และล่าสุดรถยนต์นั่งรุ่น ฟอร์ด โฟกัส โฉมใหม่ โดยยังเหลือผลิตภัณฑ์ที่จะเปิดตัวอีก 6 รุ่น พร้อมกันนี้ฟอร์ดยังได้มีการลงทุนตั้งโรงงานแห่งใหม่ในไทยมูลค่า 1.4 หมื่นล้านบาท ด้วยการผลิตรุ่นโฟกัสเป็นโมเดลแรก
“ปัจจุบันลูกค้าให้การตอบรับฟอร์ดดีมาก คาดถึงสิ้นปีจะมียอดขายไม่ต่ำกว่า 50,000 คัน จากปีที่ผ่านมา 29,000 คัน และหลังปี 2556 ส่วนตัวมุ่งหวังผลักดันแบรนด์ฟอร์ด ให้ติด 1 ใน 5 ตลาดรถยนต์ไทย จากขณะนี้อยู่อันดับ 7 แต่การที่จะเติบโตได้ไม่ใช่เพียงแค่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ เหตุนี้จึงได้มีการยกระดับแบรนด์ฟอร์ด ด้วยการปรับภาพลักษณ์ ตลอดจนขยายโชว์รูมและศูนย์บริการหลังการขาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Brand@Retail ครอบคลุมพื้นที่ทั่วประเทศ”
ทั้งนี้ในการพัฒนาและปรับภาพลักษณ์โชว์รูม เพื่อให้ได้มาตรฐานระดับโลก ตามกลยุทธ์ One Ford ซึ่งมีการจัดวางและตกแต่งพื้นที่ให้ความสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศอย่างเป็นกันเอง สำหรับลูกค้าที่มาใช้บริการโชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ด และที่สำคัญยังได้มีการยกระดับมาตรฐานงานบริการ ไม่ว่าจะเป็นก่อนและหลังการขาย เพื่อรองรับลูกค้าในปัจจุบันและที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต
ณรงค์ สีตลายน ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาผู้จำหน่าย บริษัท ฟอร์ด ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับจากปี 2551 ฟอร์ดมีโชว์รูมและศูนย์บริการ 80 แห่ง และจะครบ 118 แห่งทั่วประเทศภายในสิ้นปีนี้ โดยฟอร์ดยังคงมุ่งมั่นที่จะขยายเครือข่ายการขายและบริการ ให้ครอบคลุมความต้องการลูกค้าทั่วประเทศมากขึ้น ดังนั้นตั้งเป้าจะเปิดให้ครบ 140 แห่งภายในสิ้นปี 2556 ที่จะถึงนี้
“ล่าสุดฟอร์ดได้บรรลุข้อตกลงสัญญากับดีลเลอร์ ในการปรับผลตอบแทนการจำหน่ายรถฉบับใหม่ เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ดีลเลอร์ทั่วประเทศ ได้ลงทุนปรับโชว์รูมและศูนย์บริการตามคอนเซ็ปต์ใหม่ ซึ่งจะดำเนินการครบทั้ง 140 แห่งภายในสิ้นปีหน้า และคาดจะใช้เงินลงทุนตามนโยบายดังกล่าวไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท”
ในส่วนของบุคลากรฟอร์ดยังสนับสนุนทุกส่วน ด้วยการจัดตั้ง Academy เพื่อให้การอบรมและพัฒนาบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์ บริการก่อนและหลังการขาย ขณะเดียวกันได้มีการเพิ่มช่องทางการให้ความรู้กับลูกค้า ผ่านรูปแบบ E-Learning ไม่ว่าจะเป็นในเว็บไซต์ หรือนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ่าน iPad และยังได้ทำแอพพลิเคชั่นระบบ SYNC ของฟอร์ดด้วย
อดิศักดิ์ หวังพงษ์สวัสดิ์ ผู้อำนวยการฝ่ายปฏิบัติการบริการลูกค้า ฟอร์ด อาเซียน เปิดเผยว่า โชว์รูมและศูนย์บริการฟอร์ปัจจุบัน 118 แห่งทั่วประเทศ สามารถรองรับรถยนต์ฟอร์ดกว่า 40,000 คัน และเมื่อมีการเพิ่มเครือข่ายในปีหน้าเป็น 140 แห่ง มั่นใจว่าจะรองรับการเติบโตของฟอร์ดในอนาคตได้แน่นอน ขณะเดียวกันในเรื่องบริการหลังการขาย ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงให้ได้มาตรฐานระดับโลก เพื่อให้ลูกค้าได้ประโยชน์สูงสุด
“จะเห็นว่าค่าบำรุงรักษารถฟอร์ด ตามระยะ 100,000 กิโลเมตร หรือ 5 ปี หากเทียบกับรถยนต์คู่แข่งแล้ว ฟอร์ดจะมีค่าบำรุงรักษาต่ำกว่าชัดเจน อย่างรถซับคอมแพกต์ ฟอร์ด เฟียสต้า ต่ำกว่าสูงสุดถึง 76% และ 43% สำหรับรถยนต์รุ่นโฟกัสใหม่ หรือในปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ต่ำกว่า 10%”
นอกจากนี้ฟอร์ดยังได้มีการเพิ่มความสะดวก ให้กับลูกค้าในการเข้ารับบริการ ด้วยการจัดบริการเร่งด่วน และล่าสุดเปิดโมบาย เซอร์วิส ยูนิต หรือหน่วยบริการเคลื่อนที่ นำปิกอัพฟอร์ด เรนเจอร์ ใหม่ จำนวน 84 คัน สำหรับผู้แทนจำหน่ายในการให้บริการตรวจเช็คขั้นพื้นฐานแก่ลูกค้าในพื้นที่ห่างไกล รวมถึงเพื่อให้บริการช่วยเหลือฉุกเฉินแก่ลูกค้าฟอร์ด ไม่เพียงเท่านั้นฟอร์ดยังนำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการบริการ เพื่อความสะดวกสบายและประหยัดให้กับลูกค้า ผ่านโปรแกรมบำรุงรักษษรถยต์ตามระยะ และโปรแกรมขับขี่อุ่นใจ เป็นต้น