ฮอนด้า มอเตอร์ ยังไม่ถอดใจจากการรุกตลาดรถยนต์จีน และยืนยันการแผนการลงทุนที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะยังเหมือนเดิม แม้ว่าสถานการณ์ประท้วงสินค้าญี่ปุ่นในจีนจะยังดำเนินต่อเนื่องแบบไม่มีทีท่าว่าจะยุติ และทำให้ยอดขายรถยนต์ของฮอนด้าในเดือนกันยายนที่ผ่านมาลดลงถึง 41%
นายทาคาโนบุ อีโต้ ประธานของฮอนด้ากล่าวว่า แผนการลงทุนทุกอย่างในจีนที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้จะไม่มีการยกเลิกอย่างแน่นอน และทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง โดยเขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการผลิตรถยนต์ไฮบริดในประเทศจีนให้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ และดูเหมือนปัญหาด้านการเมืองในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อไม่เกิน 6 เดือนนับจากนี้
สำหรับยอดขายของฮอนด้าในเดือนกันยายนที่ผ่านมาถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2011 แต่ถึงกระนั้นนายอีโต้บอกว่าทุกอย่างน่าจะมีการคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และเขายังมองว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็กอย่างฟิต หรือแจ๊ซ น่าจะมีการขยายตัวอย่างมากในประเทศจีนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนั้น นายอีโต้ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานของฮอนด้ามาตั้งแต่ปี 2009 ยังมองว่าในปี 2013-2015 จะถือเป็นปีทองของตลาดรถยนต์ และเชื่อว่าตลาดรถยนต์ทั่วโลกไม่เฉพาะในจีนจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดซับคอมแพ็กต์ ซึ่งฟิต/แจ๊ซจะรับบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
ฮอนด้า ซึ่งคาดหมายว่าจะมียอดขายรถยนต์ในปีนี้รวม 4.3 ล้านคันนั้นเปิดเผยว่า จะเปิดตัวฟิตรุ่นใหม่ในปีหน้า พร้อมกับตัวถังที่หลากหลายทั้งในแบบทรงกล่องเหมือนมินิแวนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ตามด้วยซีดาน และเอสยูวีขนาดเล็กที่มีตลาดระดับต่ำกว่า CR-V โดยตั้งเป้าในการรุกตลาดของฟิตใหม่ไปที่ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ไม่เกินปี 2014 ส่วนตลาดรถยนต์อย่างญี่ปุ่นน่าจะมีการเปิดตัวอย่างช้าที่สุดปลายปี 2013
นายทาคาโนบุ อีโต้ ประธานของฮอนด้ากล่าวว่า แผนการลงทุนทุกอย่างในจีนที่เคยประกาศออกมาก่อนหน้านี้จะไม่มีการยกเลิกอย่างแน่นอน และทุกอย่างต้องเดินหน้าต่อไปไม่เปลี่ยนแปลง โดยเขากล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการพัฒนาอุตสาหกรรมด้านการผลิตรถยนต์ไฮบริดในประเทศจีนให้เป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้ และดูเหมือนปัญหาด้านการเมืองในปัจจุบัน มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อไม่เกิน 6 เดือนนับจากนี้
สำหรับยอดขายของฮอนด้าในเดือนกันยายนที่ผ่านมาถือว่าเลวร้ายที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2011 แต่ถึงกระนั้นนายอีโต้บอกว่าทุกอย่างน่าจะมีการคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น และเขายังมองว่าตลาดรถยนต์ขนาดเล็กอย่างฟิต หรือแจ๊ซ น่าจะมีการขยายตัวอย่างมากในประเทศจีนในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า
นอกจากนั้น นายอีโต้ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานของฮอนด้ามาตั้งแต่ปี 2009 ยังมองว่าในปี 2013-2015 จะถือเป็นปีทองของตลาดรถยนต์ และเชื่อว่าตลาดรถยนต์ทั่วโลกไม่เฉพาะในจีนจะมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในตลาดรถยนต์ขนาดเล็กและขนาดซับคอมแพ็กต์ ซึ่งฟิต/แจ๊ซจะรับบทบาทสำคัญในเรื่องนี้
ฮอนด้า ซึ่งคาดหมายว่าจะมียอดขายรถยนต์ในปีนี้รวม 4.3 ล้านคันนั้นเปิดเผยว่า จะเปิดตัวฟิตรุ่นใหม่ในปีหน้า พร้อมกับตัวถังที่หลากหลายทั้งในแบบทรงกล่องเหมือนมินิแวนอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ตามด้วยซีดาน และเอสยูวีขนาดเล็กที่มีตลาดระดับต่ำกว่า CR-V โดยตั้งเป้าในการรุกตลาดของฟิตใหม่ไปที่ยุโรป และอเมริกาเหนือ ซึ่งจะมีการเปิดตัวรถยนต์รุ่นนี้ไม่เกินปี 2014 ส่วนตลาดรถยนต์อย่างญี่ปุ่นน่าจะมีการเปิดตัวอย่างช้าที่สุดปลายปี 2013
