“มิตซูบิชิ” เตรียมลงทุนในไทย 1 พันล้านบาท รองรับเพิ่มกำลังการผลิตปีหน้า ยังไม่นับรวมเงินลงทุนประจำอีก 3-4 พันล้านบาท ตั้งเป้าปี 2558 ยกระดับเป็นฐานผลิตใหญ่สุดในโลกแทนญี่ปุ่น ด้วยการผลิตกว่า 5 แสนคันต่อปี พร้อมกับส่งแคมเปญ “มิตซูบิชิจัดให้” กวาดยอดจองตุนไว้ถึงปีหน้า
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า จากการตอบรับอย่างมากของผู้บริโภคต่อรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น รวมถึงตลาดส่งออกที่ขยายตัวเช่นกัน ทำให้ปริมาณการผลิตรถยนต์มิตซูบิชิทั้ง 3 โรงงาน คาดว่าปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 350,000 คัน จากกำลังการผลิตรวม 460,000 คันต่อปี และมีบางส่วนที่รับจ้างผลิตปิกอัพนิสสัน ซึ่งตามสัญญาจะต้องผลิตสูงสุด 60,000 คันต่อปี ทำให้ตอนนี้โรงงานมิตซูบิชิในไทยเกือบเต็มกำลังการผลิต
“โดยเฉพาะโรงงานแห่งที่ 3 ที่ผลิตอีโคคาร์มิตซูบิชิ มิราจ ได้รับการตอบรับดีมาก คาดภายในสิ้นปีนี้จะเต็มกำลังการผลิต 150,000 คันต่อปี แต่ปี 2556 มิตซูบิชิมีเป้าหมายจะผลิตรถในโรงงานแห่งนี้เป็น 200,000 คันต่อปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องลงทุนอีก 1,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตตามเป้าหมาย หลังจากลงทุนตั้งโรงงานนี้ไป 6,500 ล้านบาท และตั้งเป้าภายในปี 2558 มิตซูบิชิจะผลิตรถในไทยกว่า 500,000 คันต่อปี เท่ากับกำลังการผลิตเต็มที่เลย”
ทั้งนี้ปัจจุบันไทยเป็นโรงงานที่ผลิตรถมากที่สุดของมิตซูบิชิ แต่ในส่วนของกำลังการผลิตยังเป็นรองญี่ปุ่นอยู่ แต่เมื่อดำเนินการตามแผนลงทุนเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ จะทำให้มิตซูบิชิในไทยมีกำลังการผลิตมากกว่า 500,000 คันต่อปี และส่งผลให้ไทยกลายเป็นฐานการผลิตใหญ่ที่สุดในโลกทันที ขณะที่บทบาทของบริษัทแม่ มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศญี่ปุ่น ต่อไปจะผลิตรถรองรับตลาดในประเทศ และทำหน้าที่พัฒนาและวิจัยรถยนต์ หรืออาร์แอนด์ดี(R&D) รวมถึงผลิตรถเทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างรถไฟฟ้าปลั๊กอิน หรือไฮบริด เป็นต้น
นายมูราฮาชิเปิดเผยว่า นอกจากการลงทุนใหม่เพิ่ม 1,000 ล้านบาท ปกติจะมีการลงทุนประจำทุกปีเช่นกัน เพื่อใช้ในการปรับปรุงซ่อมแซม หรือลงเครื่องจักรใหม่ทดแทน รวมถึงรองรับการผลิตรถรุ่นใหม่ โดยในปี 2556 จะมีการลงทุนในส่วนนี้อีกประมาณ 3,000-4,000 ล้านบาทต่อปี ส่วนรถใหม่ยังไม่สามารถบอกได้ แต่จะมีแนะนำรถสู่ตลาดเพิ่มแน่นอน
“ในส่วนของกิจกรรมการตลาด ล่าสุดเราได้เปิดแคมเปญ ‘มิตซูบิชิจัดให้’ เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคมาจองรถให้มากที่สุด โดยเฉพาะรถยนต์ในโครงการรถคันแรกของรัฐบาล ที่จะสิ้นสุดการจองภายในสิ้นปี 2555 นี้ ซึ่งไม่เพียงผู้บริโภคจะได้สิทธิคืนเงินภาษีสูงสุด 1 แสนบาท ยังได้รับสิทธิประโยชน์จากแคมเปญของมิตซูบิชิเพิ่มด้วย และจากกิจกรรมนี้หวังว่าจะผลักดันให้ยอดจองรถมิตซูบิชิเพิ่มไม่ต่ำกว่า 50% หรือเป็นเดือนละประมาณ 2 หมื่นคัน จากปัจจุบัน 1.2 หมื่นคันต่อเดือน และเชื่อว่าถึงสิ้นปีนี้จะมียอดขาย 1.2 แสนคัน ครองส่วนแบ่งการตลาด 10% และตั้งเป้าปี 2558 จะเพิ่มเป็น 15%”
ส่วนรายละเอียดแคมเปญ “มิตซูบิชิจัดให้” มอบทันทีประกันภัยชั้นหนึ่งฟรี และฟรีค่าบำรุงรักษา 30,000 กิโลเมตร กับอะไหล่ 3 รายการ มูลค่า 3,000 - 4,500 บาท รวมจำนวน 3 ครั้ง ซึ่งปกติจะฟรีเพียงค่าแรงเท่านั้น จึงถือเป็นแคมเปญพิเศษให้กับผู้ที่ซื้อรถยนต์มิตซูบิชิทุกรุ่น ตั้งแต่เดือนตุลาคม - 27 พฤศจิกายน 2555 นี้เท่านั้น และนอกจากนี้ยังจะมีการจัดกิจกรรมหลากหลายทั่วประเทศ และเร็วๆ นี้จะจัดกิจกรรม “มิตซูบิชิ เฟสติวัล” ที่โชว์รูมกว่า 80 แห่งทั่วประเทศ
สำหรับการเร่งส่งมอบรถให้กับผู้จองรถมิตซูบิชิ โดยเฉพาะอีโคคาร์รุ่นมิราจที่มียอดจองอยู่ประมาณ 20,000 คัน ในเดือนนี้จะดึงโควตารถเพื่อการส่งออก มาให้กับลูกค้าในไทยเพิ่มเดือนละ 2,000 คัน หรือรวม 6,000 คันต่อเดือน ดังนั้นถึงสิ้นปีจะสามารถส่งมอบรถให้กับลูกค้าไม่ต่ำกว่า 18,000 คัน ส่วนที่เหลือและยอดจองที่จะเข้ามาช่วง 3 เดือนจากนี้ จะพยายามเร่งส่งมอบให้หมดภายในช่วงต้นปีหน้า ขณะที่รุ่นอื่นๆ อื่นจะมีการเร่งเพิ่มกำลังการผลิตเช่นกัน
