ข่าวในประเทศ - บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเรียกคืนรถยนต์อีโคคาร์ “มิราจ” จำนวน 10,300 คัน เพื่อเข้าเปลี่ยนเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง เหตุบางคันแสดงผลคลาดเคลื่อน
โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศ เซอร์วิส แคมเปญ สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งครอบคลุมรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ที่ถูกส่งมอบไปยังลูกค้าก่อนหน้านี้ เนื่องจากตรวจพบว่าเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในรถบางคันแสดงผลปริมาณน้ำมันคงเหลือคลาดเคลื่อน ตามรายละเอียดดังนี้ต่อไปนี้
ทั้งนี้ นับจากต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ทุกท่านจะได้รับจดหมายฉบับที่สอง เพื่อเชิญให้ติดต่อนัดหมายโดยตรงกับผู้จำหน่าย ในการนำรถยนต์เข้ารับบริการตรวจเช็ก และเปลี่ยนอะไหล่เกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ มูราฮาชิ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า “แม้ว่าจะไม่ได้รับรายงานถึงอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากสาเหตุดังกล่าว แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิทุกท่าน เจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ทุกคันที่ได้รับมอบรถแล้ว จะถูกเชิญให้นำรถเข้ามารับการตรวจเช็ก และหากพบว่าเกิดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขทันที”
“อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนอะไหล่ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นอื่นๆ รวมทั้งรถยนต์มิราจที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศแต่อย่างใด โดยล่าสุด บริษัทได้เริ่มส่งออกมิราจ 2 ครั้ง ไปยังประเทศบรูไน และญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคมตามลำดับ”
อนึ่ง จากรายงานล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า เหตุที่รถรุ่นส่งออกไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นล็อตที่ผลิตหลังรถที่ทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งชิ้นส่วนที่มีปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว
โนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศ เซอร์วิส แคมเปญ สำหรับรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ใหม่ ซึ่งครอบคลุมรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ที่ถูกส่งมอบไปยังลูกค้าก่อนหน้านี้ เนื่องจากตรวจพบว่าเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงในรถบางคันแสดงผลปริมาณน้ำมันคงเหลือคลาดเคลื่อน ตามรายละเอียดดังนี้ต่อไปนี้
รุ่นรถ | รถมิตซูบิชิ มิราจ ทุกรุ่น ที่ขายในประเทศไทย จำนวน 10,300 คัน |
หมายเลขแชสซี | รถทุกคันที่มีหมายเลขแชสซีก่อนหมายเลข MMTXTA03ADH012600 (S#50050) |
ปัญหาที่ตรวจพบ | จนถึงปัจจุบัน ตรวจพบรถยนต์มิราจจำนวน 11 คัน จากจำนวนที่ระบุข้างต้นแสดงผลระดับน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือในถังคลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง และรถไม่มีสัญญาณเตือนเมื่อน้ำมันหมดส่งผลให้เครื่องยนต์ดับในขณะขับขี่ |
สาเหตุของปัญหา | เกิดจากการทำงานที่คลาดเคลื่อนของเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิง โดยปัญหาดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีที่ปริมาณน้ำมันในถังเหลือน้อยกว่า 1 ใน 4 ของถังน้ำมัน ซึ่งระบบจะแสดงผลปริมาณน้ำมันคงเหลือคงที่ในระดับประมาณ 1-2 ขีด ถึงแม้ว่าในความเป็นจริงน้ำมันเชื้อเพลิงคงเหลือจะน้อยกว่า หรือจะหมดไปแล้วก็ตาม ทั้งนี้ รถจะสามารถวิ่งได้ตามปกติ ในกรณีที่มีปริมาณน้ำมันในถังมากกว่า 1 ใน 4 ซึ่งเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงจะแสดงสถานะปริมาณน้ำมันคงเหลือได้อย่างถูกต้อง ดังนั้น หากลูกค้ารักษาระดับน้ำมันไม่ให้ต่ำกว่า 1 ใน 4 ของถังก็จะไม่เกิดปัญหาดังกล่าว และสามารถใช้งานรถได้ตามปกติ |
มาตรการในการแก้ไข | 1) ตั้งแต่วันที่ 23 กรกฎาคม เป็นต้นไป บริษัทจะส่งจดหมายให้กับลูกค้าเพื่อแนะนำให้เติมน้ำมันเมื่อเกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงแสดงผลว่าปริมาณน้ำมันคงเหลือในถังมีน้อยกว่าครึ่งถัง เพื่อป้องกันน้ำมันหมดในระหว่างการขับขี่ 2) มิตซูบิชิ มอเตอร์ส ประเทศไทย กำลังอยู่ในระหว่างการจัดเตรียมอะไหล่ที่ได้รับการปรับปรุงคุณภาพแล้ว เพื่อนำมาเปลี่ยนแทนอะไหล่เดิม โดยคาดว่า ภายในเดือนสิงหาคมนี้จะสามารถผลิตอะไหล่ดังกล่าวได้ในจำนวนที่พอเพียงกับความต้องการปรับเปลี่ยน |
ทั้งนี้ นับจากต้นเดือนสิงหาคมเป็นต้นไป ลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ทุกท่านจะได้รับจดหมายฉบับที่สอง เพื่อเชิญให้ติดต่อนัดหมายโดยตรงกับผู้จำหน่าย ในการนำรถยนต์เข้ารับบริการตรวจเช็ก และเปลี่ยนอะไหล่เกจ์วัดระดับน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าว โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
ทั้งนี้ มูราฮาชิ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ว่า “แม้ว่าจะไม่ได้รับรายงานถึงอุบัติเหตุ หรือการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นจากสาเหตุดังกล่าว แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้ารถยนต์มิตซูบิชิทุกท่าน เจ้าของรถยนต์มิตซูบิชิ มิราจ ทุกคันที่ได้รับมอบรถแล้ว จะถูกเชิญให้นำรถเข้ามารับการตรวจเช็ก และหากพบว่าเกิดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขทันที”
“อย่างไรก็ตาม การปรับเปลี่ยนอะไหล่ครั้งนี้ ไม่มีผลกระทบต่อรถยนต์มิตซูบิชิรุ่นอื่นๆ รวมทั้งรถยนต์มิราจที่ส่งออกไปจำหน่ายในต่างประเทศแต่อย่างใด โดยล่าสุด บริษัทได้เริ่มส่งออกมิราจ 2 ครั้ง ไปยังประเทศบรูไน และญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน และ กรกฎาคมตามลำดับ”
อนึ่ง จากรายงานล่าสุด บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด แจ้งว่า เหตุที่รถรุ่นส่งออกไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเป็นล็อตที่ผลิตหลังรถที่ทำตลาดในประเทศไทย ซึ่งชิ้นส่วนที่มีปัญหาได้รับการแก้ไขแล้ว