ภัยสังคมคนมีรถแต่ผ่อนไม่ไหวรายนี้ เปิดเผยขึ้นหลังชายวัยกลางคนโร่เข้าแจ้งความกองปราบปราม ดำเนินคดี “ไฟแนนซ์ผี” หลอกซื้อรถ ตุ๋นเหยื่อไปแล้ว 9 ราย แฉ! ตำรวจคลองตันฉาวอีกไม่รับแจ้งความ!!!
วันนี้ (16 ก.ค.) ที่กองปราบปราม เมื่อเวลา 13.00 น. นายรณยุทธ เจริญวัน อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 61 หมู่ที่ 8 ต.ทุ่งนาเลา อ.คอนสาร จ.ชัยภูมิ เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ณรงค์ อำภาภัย พนักงานสอบสวน (สบ 3) กก.1 บก.ป. เพื่อแจ้งความดำเนินคดีต่อนายนนท์กาญจน์ เรืองทรัพย์อนันต์ และนายนิกูล แสงรวม ผู้จัดการและพนักงานบริษัท ดราก้อน ซิเคียวริคอร์ (ประเทศไทย ) จำกัด ตั้งอยู่ที่อาคารปรีชากรุ๊ป ชั้น 6 ซ.พัฒนาการ 41 เขตสวนหลวง กทม. ในข้อหาฉ้อโกง และลักทรัพย์
นายรณยุทธให้การว่า ตนมีอาชีพเปิดร้านขายของชำและทำธุรกิจขายตรง เมื่อธุรกิจไปได้ดีจึงไปดาวน์รถมิตซูบิชิ รุ่นไทรทัน สีขาว ทะเบียน กย 5049 ขอนแก่น ในราคา 1 แสนบาท เมื่อเดือนกันยายน 2554 โดยต้องผ่อนจ่ายค่างวดเดือนละ 12,000 บาท จำนวน 70 งวด ซึ่งตนผ่อนไปได้ 4-5 งวด ธุรกิจก็มาขาดทุนทำให้ไม่มีเงินจ่ายค่างวด จึงบอกขายดาวน์กับเพื่อนๆและญาติๆ แต่ก็ไม่มีใครซื้อ จากนั้นตนจึงนำรถไปโพสต์ขายในเว็บไซต์ตลาดรถดอตคอม ไม่ทันไรก็มี นายนิกูล แสงรวม โทร.มาขอซื้อว่าจะนำไปใช้เอง ตนจึงตกลงขายในราคา 5 หมื่นบาท และขับรถมาที่ บริษัท ดราก้อน ซิเคียวริคอร์ (ประเทศไทย ) จำกัด ในเดือนกุมภาพันธ์ 2555
นายรณยุทธกล่าวต่อว่า จากนั้นนายนิกูลบอกว่าจะจ่ายเงินให้ตนจำนวน 2.6 หมื่นบาท และจะจ่ายค่างวดที่ตนค้างไฟแนนซ์จำนวน 2 งวด เป็นเงิน 2.4 หมื่นบาทให้ และให้ตนไปรับเงินที่ภรรยานายนนท์กาญจน์ จำนวน 2.6 หมื่นบาท เมื่อตนตกลงจึงทำสัญญาซื้อขายรถกันแบบขายดาวน์ และคนซื้อจะต้องผ่อนต่อจนกว่าจะครบ 12 งวดแล้วจะเปลี่ยนสัญญาซื้อขายกับไฟแนนซ์ แต่เมื่อตนขึ้นไปรับเงินบนออฟฟิซ ปรากฏว่าภรรยานายนนท์กาญจน์อ้างว่าเงินสดในบริษัทมีเพียง 1 หมื่นบาทเท่านั้น จึงนัดให้ตนมารับเงินที่เหลือ 1.6 หมื่นในวันหลัง นอกจากนี้ นายนิกูลได้ชวนตนทำงานเป็น รปภ.ที่บริษัทดังกล่าวอีกด้วย โดยจะให้ตนขับรถของตนเองที่ขายดาวน์ให้ไป ตนจึงยอมทำงานเพราะถือว่าได้ขับรถตัวเองด้วย
นายรณยุทธกล่าวอีกว่า จากนั้นเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2555 นายนิกูลบอกว่านายนนท์กาญจน์ ชอบรถคันนี้และจะนำรถไปให้เอง กระทั่งปลายเดือนเมษายน บริษัทไฟแนนซ์ได้โทรศัพท์มาทวงเงินค่างวดที่ตนติดค้างมาหลายเดือนแล้ว ตนจึงไปแจ้งให้นายนนท์กาญจน์ทราบ แต่เขาก็อ้างว่าลืม เดี๋ยวพรุ่งนี้จะไปจ่าย ต่อมาตนได้ทราบความจริงจากพนักงานว่าบริษัทดังกล่าวมีพฤติกรรมหลอกซื้อดาวน์รถยนต์นำไปขายต่อ มีผู้ตกเป็นเหยื่อมาทวงรถที่บริษัท 9 ราย มูลค่าความเสียหาย 8 ล้านบาท ตนจึงเดินทางเข้าแจ้งความที่ สน.คลองตัน แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกว่าต้องมีใบรับมอบอำนาจจากบริษัทไฟแนนซ์มาก่อน จากนั้นตนไปขอใบรับมอบอำนาจ ทางไฟแนนซ์ก็อ้างว่าต้องมีใบแจ้งความจากเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อน ซึ่งตนไม่รู้จะพึ่งใคร จึงเข้าแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามช่วยดำเนินการให้ด้วย
“ใครที่คิดจะขายดาวน์รถให้คิดดูให้ดี ถ้าไม่อยากเดือดร้อน เว้นเสียแต่เปลี่ยนสัญญาเป็นชื่อคนขายทันทีก่อนส่งมอบรถ ถ้าเปลี่ยนสัญญาไม่ได้ห้ามขายเด็ดขาด และจะต้องรับเงินสดเท่านั้นห้ามรับเช็ค ถ้ายังค้างค่างวดอยู่จะต้องรับเงินเพื่อไปจ่ายค่างวดที่ค้างให้เรียบร้อย อย่าให้คนซื้อต่อจากเราเอาไปจ่าย ถ้าจะขายให้ทำสัญญาให้รัดกุมอย่าคิดแบบง่ายๆ อย่าให้กุณแจรถหมดทุกดอกให้เก็บกุณแจตัวจริงไว้กับเรา เอากุณแจสำรองให้เขาไปจนกว่าจะเปลี่ยนสัญญา อย่างผมให้เขาหมดเลย ถ้าขายดาวน์ผ่านอินเทอร์เน็ต 99% จะถูกซื้อด้วยแก๊งดาวน์รถ อย่าหลงชื่อกับคำพูดของพวกนี้ พวกมันแต่งตัวดี เปิดบริษัทบังหน้า” นายรณยุทธกล่าว
ด้าน พ.ต.ท.ณรงค์กล่าวว่า ได้มีผู้เสียหายที่ตกเป็นเหยื่อเข้าแจ้งความที่กองปราบปรามแล้ว 6 ราย ซึ่งทางกองปราบปรามได้สอบปากคำไว้ก่อนเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณารับคดีมาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้ หากประชาชนท่านใดเคยถูกหลอกลวงสามารถเข้าแจ้งความเพิ่มเติมที่กองปราบปรามได้ตลอดเวลา