บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด พาคณะสื่อมวลชนบินลัดฟ้าสู่สิงคโปร์ เพื่อร่วมพิสูจน์ความแรงของน้ำมันสูตรใหม่ “เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร พลัส” ผ่านประสบการณ์ตรงจากทีมแข่งม้าลำพอง และการทดลองใช้จริงของแชมป์ซิ่งฟอร์มูลา วัน
เรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย ผู้จัดการโครงการพิเศษ และผู้จัดการฝ่ายการตลาดค้าปลีก-ประเทศไทย เปิดเผยว่า เชลล์และเฟอร์รารี่เป็นพันธมิตรร่วมกันในการพัฒนาประสิทธิภาพรถและน้ำมันมามากกว่า 60 ปี และสำหรับการแข่งขันที่สิงคโปร์ กรังด์ปรีซ์ จะนับเป็นความร่วมมือด้านเทคนิคในฟอร์มูลา วัน ครบ 500 รายการ จึงเป็นโอกาสอันดีที่ทั้งสองบริษัทได้จัดฉลองความสำเร็จดังกล่าว
สำหรับการร่วมมือด้านเทคนิคของเชลล์กับเฟอร์รารี่ เริ่มต้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1920 เป็นต้นมา และนับเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อพัฒนาน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งการร่วมกันทดสอบน้ำมัน เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร พลัส ในสภาพแวดล้อมและการใช้งานที่ทรหดที่สุด จึงทำให้เข้าใจตัวแปรต่างๆ ที่จะช่วยเพิ่มสมรรถนะและประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ได้ดียิ่งขึ้น
โดยเฉพาะสูตรใหม่ล่าสุดนี้ใช้เทคโนโลยีฟริคชั่น โมดิฟายเออร์ เดียวกันกับน้ำมันที่เชลล์พัฒนาขึ้นเพื่อรถสูตร 1 ของทีมเฟอร์รารี่ ในศึกชิงจ้าวความเร็วระดับโลก
“เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร พลัส เกิดจากประสบการณ์อันยาวนานของเชลล์มากกว่า 100 ปี ในการพัฒนาน้ำมันที่เปี่ยมประสิทธิภาพ โดยนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันเชื้อเพลิงกว่า 120 คนทั่วโลก ที่ทุ่มเทคิดค้นและวิจัยนวัตกรรมน้ำมัน เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอยู่เสมอ” รัชตพงษ์ บุญวัตรสกุล วิศวกรผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำมันเชื้อเพลิงของเชลล์ หนึ่งในผู้ร่วมคิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ กล่าวและว่า
“เพราะเราเชื่อว่าน้ำมันมีความแตกต่าง ด้วยคุณสมบัติที่โดดเด่นในการทำงานได้ทันทีเมื่อเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ช่วยลดแรงเสียดทาน และชะล้างคราบสกปรกที่ติดอยู่ในเครื่องยนต์ ซึ่งตามกฎของสหพันธ์ยานยนต์นานาชาติ หรือ FIA ระบุว่า น้ำมันเชื้อเพลิงที่เติมอยู่ในรถแข่งฟอร์มูลา วัน ส่วนประกอบ 99% ต้องเป็นน้ำมันที่มีจำหน่ายบนท้องถนนด้วย”
เพื่อตอกย้ำคุณภาพเดียวกับน้ำมันที่ใช้ในสนามแข่งขัน ผ่านระยะเวลาการพัฒนาถึง 21,000 ชั่วโมงต่อปี เชลล์และแบรนด์ดังม้าลำพองจึงพิสูจน์ความแรงด้วยการเติมน้ำมันทั้งสองประเภท และให้ “เฟอร์นันโด อลอนโซ่” นักซิ่งในสังกัดวิ่งเพื่อวัดประสิทธิภาพจากการใช้งานจริง
โดยผลการทดสอบเริ่มจากน้ำมันที่ใช้ในสนามแข่งขัน หลังจากการวิ่ง 4 รอบ อลอนโซ่ทำเวลาได้ดีที่สุด อยู่ที่ 1 นาที 3.95 วินาที จากนั้นจึงเปลี่ยนเติมน้ำมันเชลล์ วี-เพาเวอร์ สำหรับรถยนต์ทั่วไป และนำรถกลับไปวิ่งทดสอบอีกครั้ง โดยทำเวลาได้ดีที่สุด อยู่ที่ 1 นาที 4.85 วินาที ซึ่งช้ากว่าน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับรถแข่งเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สรุปผลลัพธ์ที่ได้ห่างกันเพียงเสี้ยววินาทีจากการวิ่งในแต่ละรอบ
และนี่คือคำยืนยันของอดีตแชมป์โลก 2 สมัย ซึ่งเป็นผู้ขับรถแข่งฟอร์มูลา วัน ทดสอบความแตกต่างกันของชนิดเชื้อเพลิงด้วยตัวเอง
“ผมจะพิสูจน์ให้เห็นว่า เชลล์ วี-เพาเวอร์ ที่ใช้ในสนามแข่ง และเชลล์ วี-เพาเวอร์ที่มีจำหน่ายทั่วไป มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อย เพราะผลที่ออกมาน่าประหลาดใจมากที่น้ำมันจากสถานีบริการทั่วไปให้ท็อปสปีดที่มากกว่า แต่จะให้อัตราการเร่งที่ช้ากว่า ซึ่งเป็นเรื่องที่เราปรับแต่งได้”
“ผมรู้สึกตื่นเต้นมากที่จะไปเติมน้ำมันที่ปั้มเชลล์ และรู้ว่ากำลังเติมน้ำมันเชื้อเพลิงประเภทเดียวกับที่รถเฟอร์รารี่ใช้อยู่ น้ำมันเชื้อเพลิง วี-เพาเวอร์ นี่แหละพิเศษมาก เพราะให้ความเร็วดุจน้ำมันที่ใช้ในสนามแข่งฟอร์มูลาวันเลยทีเดียว”
เรืองศักดิ์ ศรีธนวิบุญชัย กล่าวปิดท้ายว่า “หลังเปิดตัวมาร่วม 3 เดือน เชลล์ วี-เพาเวอร์ ไนโตร พลัส มียอดขายมากกว่าสูตรเดิมประมาณ 40% แสดงให้เห็นว่าผู้บริโภคชาวไทยซึ่งเป็น 1 ใน 4 ประเทศแรกของโลกที่ได้ใช้ เริ่มเชื่อมั่นในคุณภาพน้ำมันเกรดพรีเมียมของเชลล์มากยิ่งขึ้น”
คลิปทดสอบโดย เฟอร์นันโด อลอนโซ่ อดีตแชมป์โลก 2 สมัย