“เฉลิม” ยันไม่ได้กลั่นแกล้ง “มาร์ค-เทือก” ให้ติดคุกคดีสลายม็อบแดงเผาเมือง อ้างทำตามกฎหมาย พร้อมอุ้ม “ธาริต” แม้จะอยู่ใน ศอฉ.ก็ไม่มีความผิด เพราะไม่ใช่ผู้สั่งการ ปฏิเสธบินไปสิงคโปร์พบ “นช.แม้ว” แต่ถ้ามีโอกาสเจอจะบอกว่า “คิดถึงใจแทบขาด”
วันนี้ (20 ก.ย.) ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่นายุสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ และอดีตผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) ออกมาท้าทายให้นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เร่งฟ้องในข้อหาเจตนาฆ่าคนตายว่า เรื่องนี้ไม่ต้องมีการท้าทายเพราะทุกอย่างจะเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และคำสั่งศาลก็มีความชัดเจนว่าเจ้าหน้าที่รัฐปฏิบัติตามคำสั่งของ ศอฉ. และประมวลกฎหมายอาญามาตรา 70 ที่ระบุชัดว่า หากเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ชอบก็ไม่ต้องรับผิด และยืนยันว่าตนไม่ได้กลั่นแกล้ง ทุกอย่างต้องเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของกฎหมาย
จากนี้เมื่อพนักงานอัยการทราบคำสั่งศาลแล้ว อัยการจะส่งสำนวนชันสูตรพลิกศพตามที่ศาลมีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนของกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ที่ดำเนินการสอบสวนเบื้องต้น และตำรวจจะส่งการสอบสวนให้ ดีเอสไอ ถึงจะเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมการคดีพิเศษ ซึ่งมีตนเป็นประธาน เพื่อพิจารณาอนุมัติให้ดีเอสไอดำเนินการ ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่มีใบสั่งทางการเมืองและไม่มีการกลั่นแกล้งนายสุเทพและนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และไม่ต้องมาท้าทายเพราะตนเองจะไม่รับการท้าทาย
ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ได้สั่งการให้นายธาริตดำเนินการไปตามหลักเกณฑ์กระบวนการทุกขั้นตอนอย่างเข้มงวดไม่สนว่าจะเป็นนักการเมืองหรือไม่ ทั้งนี้คาดว่าจะดำเนินการให้เรียบร้อยในเร็วๆ นี้ ซึ่งเห็นว่าผู้ปฏิบัติ แม่ทัพนายกอง หรือคณะกรรมการ ศอฉ.ไม่จำเป็นต้องรับผิด แต่ผู้ที่สั่งการจะต้องรับผิด
“คนสั่งการไปไม่ได้ หนีไม่พ้น ต้องรับผิดซึ่งแนะนำให้ไปสู่คดีในศาล ไม่ใช้คดีการเมืองทั้งหมดนี้ไม่มีใครมุ่งเอาผิดใครอยู่บนข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายและพยานหลักฐานที่มีอยู่ และมีการร้องทุกข์มาตั้งแต่สมัยรัฐบาลที่แล้วไม่ใช่มาร้องทุกข์ในสมัยนี้ อย่าทำให้สังคมสับสน”
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายอภิสิทธิ์ได้ระบุว่านายธาริตก็อยู่ในส่วนการตัดสินใจของ ศอฉ.ด้วย ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า โดยหลักผู้สั่งการจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ นายธาริตไม่ได้เป็นผู้สั่งการแต่เป็นผู้รับคำสั่งและอยู่ใน ศอฉ. ก็อยู่ในฝ่ายกฎหมายไม่ใช่หน่วยกำลัง ไม่ต้องรับผิดชอบอะไร แม่ทัพนายกองก็ไม่ใช่คนออกคำสั่ง ยันคนออกคำสั่งต้องรับผิดชอบ และตนจะไม่พูดรื่องนี้อีกแล้วเพราะเกรงจะถูกกล่าวหาว่าแทรกแซง ใครทำเวรกรรมไว้ก็เตรียมติดคุก ทำดีก็ปลอดโปร่งหน้าตาสดใส ซึ่งยืนยันว่าไม่มีใบสั่งทางการเมืองไม่ใช้ดีเอสไอสอบฝ่ายเดียว จะมีพนักงานอัยการ ตำรวจ ซึ่งอัยการเป็นองค์กรตามรัฐธรรมนูญฝ่ายการเมืองจะไปสั่งการไม่ได้
ส่วนการเดินทางไปประเทศสิงคโปร์ในวันที่ 23 กันยายนนี้ ยอมรับว่าจะเดินทางไปจริง แต่จะไปดูการแข่งขันรถฟอร์มูลาวัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองและไม่มีการนัดพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร แต่อย่างใด สิงคโปร์เกาะใหญ่คงไม่บังเอิงพบกัน ทั้งนี้ ตนเคยลี้ภัยในสิงคโปร์ทำให้เดินทางไปพักผ่อนบ่อยครั้ง ซึ่งส่วนตัวอยากพบกับ พ.ต.ท.ทักษิณ แต่ไม่มีนัดหมาย
“อยากเจอท่านทักษิณใจจะขาด แต่ไม่ได้มีนัดหมายท่าน แต่ไปสิงคโปร์ล้านเปอร์เซ็นต์ และถ้ามีโอกาสได้พบและพูดคุยกับทักษิณจะบอกท่านว่าคิดถึงใจแทบขาด”
ส่วนที่ทีดีอาร์ไอออกมาบอกว่า นโยบายการรับจำนำข้าวของรัฐบาลเป็นการซื้อขาดทำให้กลไกการตลาดเสียหายนั้น รองนายกฯ กล่าวว่า ตนไม่เคยฟังและไม่เชื่อถือทีดีอาร์ไอชุดนี้ เพราะเห็นว่าทำหน้าที่ฝ่ายค้านนอกสภามาตลอด ส่วนจะไปยื่นศาลปกครองก็เชิญทำได้ตามสบายเถอะพ่อคุณ