“เฉลิม” เผยเพิ่งโทร.คุย “นช.แม้ว” ยันนายใหญ่แข็งแรง จ่อเข้าสิงคโปร์ดูเอฟวัน 23 ก.ย.ไม่พูดได้กลับไทยปีนี้หรือไม่ ซัด คอป.แนะวางมือละเมิดสิทธิ จวกผู้ตรวจฯ ไร้สาระฟัน กต.คืนพาสปอร์ต “ทักษิณ” ขู่ยุบแน่ เผย “เพรียวพันธ์” ยังไม่ชัวร์ลงผู้ว่าฯ กทม. โวชนะแน่
วันนี้ (14 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตอบผู้สื่อข่าวกรณีที่เคยระบุจะพา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กลับประเทศไทย แต่เวลานี้ใกล้จะสิ้นปี 55 แล้วว่าไม่บอก แต่เมื่อคืนวันที่ 13 ก.ย.ได้โทรศัพท์คุยกันก็คิดถึงกัน คุยเรื่องทั่วไป แต่ไม่ใช่เรื่องการเมือง ซึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณยังแข็งแรงและห่วงประเทศชาติทุกเรื่อง ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางไปชมการแข่งขันรถสูตรหนึ่ง (ฟอร์มูลาวัน) ที่ประเทศสิงคโปร์ ในวันที่ 23 ก.ย.นี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า พ.ต.ท.ทักษิณอยากกลับบ้านแล้วหรือยัง ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ล้านเปอร์เซ็นต์ใครจะไม่อยากกลับ ส่วนจะเป็นปีนี้หรือไม่ขอไม่บอก เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการอิสระตรวจสอบค้นหาความจริงเพื่อความปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ระบุว่าหากอยากให้ประเทศชาติสงบต้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ วางมือ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตรงนี้ก็ไปละเมิดสิทธิขั้นพื้นฐานส่วนบุคคล
รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวถึงกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งหนังสือให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาการคืนพาสปอร์ตให้ พ.ต.ท.ทักษิณว่า ไร้สาระ ตนพูดมาตลอดว่าหากแก้รัฐธรรมนูญ หน่วยแรกที่ต้องยุบคือผู้ตรวจการแผ่นดิน ต่อมาคือปรับจากศาลคู่ให้เป็นศาลเดี่ยว จากนั้นปรับปรุงคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ไม่มีอะไรน่ากลัว มีแต่เราไปกลัวมันเอง ความกลัวทำให้เสื่อม ซึ่งสำหรับผู้ตรวจการแผ่นดินไม่รู้จะเอาไว้ทำไม เพราะออกมาแต่ละเรื่อง
นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิมยังกล่าวถึงการคัดเลือกตัวผู้สมัครที่จะลงรับเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครของพรรคเพื่อไทยว่า ตนคนเดียวตัดสินใครไม่ได้ เพราะต้องใช้ 3 โซน คือ 1. โซนของ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร 2. โซนของนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.คมนาคม และ 3. โซนฝั่งธนฯ มาพิจารณาหารือกันว่าจะสนับสนุนผู้ใดลงสมัคร หลังจากโซนเห็นชอบแล้วก็ต้องนำไปประชุมกรรมการบริหารพรรค ซึ่งขณะนี้มีผู้สมัครเยอะ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ ดามาพงศ์ ผบ.ตร. แล้วมีท่าทีอย่างไร ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ยิ้มๆ ยังไม่ตัดสินใจ ขณะที่พรรคเองก็มีตัวเลือกที่น่าสนใจเยอะ แต่ตนมองว่าใครชนะ ซึ่ง พล.ต.อ.เพรียวพันธ์มีคุณสมบัติครบทั้ง 5 ประการ คือ 1. ประชาชนรู้จัก 2. ไม่มีประวัติด่างพร้อยเรื่องทุจริต 3. ปราบปรามยาเสพติดเก่ง 4. สามารถประสานแก้ไขปัญหาจราจรได้ และ 5. แก้ปัญหาอาชญากรรม ถือว่าครบเพราะเป็นปัญหาหลักที่คนกรุงเทพฯ ต้องการ แค่ประกาศชื่อก็โดนแล้ว
เมื่อถามว่าจะสามารถกล่อม พล.ต.อ.เพรียวพันธ์ให้มาลงสมัครรับเลือกตั้งได้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่กล้ากล่อม แต่ถามว่าทำไมจึงจะสนับสนุนก็เพราะว่าลงแล้วชนะ ตนไม่ชอบอุ้มไก่แพ้ ชอบอุ้มไก่ชนะ เมื่อถามย้ำว่าคุณสมบัติที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการคือตำรวจใช่หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ไม่เคยคุยกับตนเรื่องนี้ มีแต่ตนกับ พล.ต.อ.เพรียวพันธ์