ข่าวในประเทศ - มินิ เปิดตัวรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล คูเปอร์ ดี และคูเปอร์ เอสดี บน 3 ตัวถังแฮทซ์แบ็ก คันทรีแมน และคูเป้ รวม 5 รุ่นย่อย มั่นใจได้โควต้าจากบริษัทแม่เพิ่ม คาดยอดขายเกิน 400 คัน/ปี
จตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิประเทศไทย กล่าวว่า ผ่านครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2555)มินิทำยอดขายได้รวม 214คัน และมั่นใจว่าปีนี้จะขายได้มากกว่าปีที่แล้วที่ปิดยอดไป385 คันได้แน่นอน ซึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ประสบความเร็จคือการเพิ่มโปรดักต์ให้หลากหลาย ล่าสุดได้เปิดตัวมินิเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ภายใต้รหัส คูเปอร์ ดี และคูเปอร์ เอสดี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทั้งตัวถังแฮทซ์แบ็ก 3 ประตู คันทรีแมน และคูเป้
“นอกจากในรุ่นแฮ็ทช์แบค 3 ประตูที่ได้รับความนิยมสูงสุดของมินิแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ยังได้รับการติดตั้งในรุ่นมินิคันทรี่แมน ภายใต้ชื่อ มินิ คูเปอร์ ดี คันทรี่แมน และมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรี่แมน รวมทั้งในรุ่นมินิ คูเป้ ภายใต้ชื่อ มินิ คูเปอร์ เอสดี คูเป้ ทำให้มินิมีรุ่นต่างๆในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ให้เลือกถึง 5 รุ่นด้วยกัน”
โดยเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของมินิ ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันที่ให้กำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกช่วงของรอบเครื่องยนต์ และประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
“เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะได้การตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆจากลูกค้ามินิ ซึ่งในอนาคตน่าจะมีสัดส่วนขาย 50/50เท่ากับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ที่สำคัญ มินิประเทศไทย จะได้โควต้านำเข้ารถมาจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นด้วย”นายจตุพล กล่าว
สำหรับมินิ คูเปอร์ ดี ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด112 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 19.6 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นคูเปอร์ เอสดี ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,700รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 18.9 กิโลเมตร / ลิตร
ราคามินิเครื่องยนต์ดีเซล
จตุพล พุทธวิบูลย์ ผู้จัดการทั่วไป มินิประเทศไทย กล่าวว่า ผ่านครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.2555)มินิทำยอดขายได้รวม 214คัน และมั่นใจว่าปีนี้จะขายได้มากกว่าปีที่แล้วที่ปิดยอดไป385 คันได้แน่นอน ซึ่งกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ประสบความเร็จคือการเพิ่มโปรดักต์ให้หลากหลาย ล่าสุดได้เปิดตัวมินิเครื่องยนต์ดีเซลใหม่ ภายใต้รหัส คูเปอร์ ดี และคูเปอร์ เอสดี เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ทั้งตัวถังแฮทซ์แบ็ก 3 ประตู คันทรีแมน และคูเป้
“นอกจากในรุ่นแฮ็ทช์แบค 3 ประตูที่ได้รับความนิยมสูงสุดของมินิแล้ว เครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่นี้ ยังได้รับการติดตั้งในรุ่นมินิคันทรี่แมน ภายใต้ชื่อ มินิ คูเปอร์ ดี คันทรี่แมน และมินิ คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ คันทรี่แมน รวมทั้งในรุ่นมินิ คูเป้ ภายใต้ชื่อ มินิ คูเปอร์ เอสดี คูเป้ ทำให้มินิมีรุ่นต่างๆในกลุ่มเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ให้เลือกถึง 5 รุ่นด้วยกัน”
โดยเครื่องยนต์ดีเซลเจนเนอเรชั่นใหม่ของมินิ ได้รับการพัฒนาเทคโนโลยีมาจากพื้นฐานของเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตรที่ผลิตจากวัสดุอลูมิเนียมน้ำหนักเบาพร้อมด้วยเทคโนโลยีอัดอากาศแบบเทอร์โบแปรผันที่ให้กำลังได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกช่วงของรอบเครื่องยนต์ และประหยัดน้ำมันเป็นเลิศ
“เรามั่นใจว่าเครื่องยนต์ดีเซลจะได้การตอบรับดีขึ้นเรื่อยๆจากลูกค้ามินิ ซึ่งในอนาคตน่าจะมีสัดส่วนขาย 50/50เท่ากับรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน ที่สำคัญ มินิประเทศไทย จะได้โควต้านำเข้ารถมาจากบริษัทแม่เพิ่มขึ้นด้วย”นายจตุพล กล่าว
สำหรับมินิ คูเปอร์ ดี ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด112 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 270 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,250 รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 19.6 กิโลเมตร/ลิตร ส่วนรุ่นคูเปอร์ เอสดี ดีเซลคอมมอนเรล 4 สูบ 2.0 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 143 แรงม้าที่ 4,000 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 305 นิวตันเมตรที่ 1,750-2,700รอบต่อนาที ให้อัตราการประหยัดเชื้อเพลิงเฉลี่ย 18.9 กิโลเมตร / ลิตร
ราคามินิเครื่องยนต์ดีเซล
ตัวถัง | รุ่น | ราคา(บาท) |
แฮ็ทช์แบค 3 ประตู | คูเปอร์ ดี | 2,490,000 |
คูเปอร์ เอสดี | 3,140,000 | |
คูเป้ | คูเปอร์ เอสดี | 3,190,000 |
คันทรี่แมน 4 ประตู | คูเปอร์ ดี | 2,840,000 |
คูเปอร์ เอสดี ออลโฟร์ | 3,290,000 |