ข่าวในประเทศ - “มาสด้า” เดินหน้าสร้างประวัติศาสตร์ ยอดขายพุ่งแรง จนปรับเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 7 หมื่นคัน เผยเทงบการตลาดเพิ่มกว่า 33% เน้นกลยุทธ์เชิงลึกสร้างความชัดเจนในแบรนด์ยิ่งขึ้น ผ่านกิจกรรมและตัวผลิตภัณฑ์ รวมถึงเครือข่ายการขาย พร้อมทำความเข้าใจเทคโนโลยีใหม่ ที่จะนำเข้ามาเร็วๆ นี้ หวังปูฐานให้แข็งแกร่งในอนาคต
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาสด้าในไทยประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถทำยอดขายจากเดือนละไม่ถึง 1 พันคันในอดีต แต่ปัจจุบันมีระดับมากกว่า 5 พันคันต่อเดือน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของมาสด้าในไทย นั่นเป็นผลมาจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง การลงทุนในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน, สินค้า, พัฒนาบุคลากร หรืองบการตลาด รวมถึงนโยบายการบริหารเครือข่าย ให้ครอบคลุมเขตสำคัญทั่วประเทศ
“จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจดังกล่าว ประกอบเศรษฐกิจไทยที่เติบโต และผลดีจากโครงการรถคันแรก ทำให้จบครึ่งแรกของปีนี้มาสด้ามียอดขายกว่า 3 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 51% และจากปัจจัยที่กล่าวมาเชื่อว่าจะทำให้ถึงสิ้นปี มาสด้าจะมียอดขาย 7 หมื่นคัน ปรับเพิ่มจากเป้าหมายเดิมเมื่อต้นปีที่ 6 หมื่นคัน หรือหากเทียบกับปีที่แล้วมาเพิ่มขึ้น 67% ขณะที่ตลาดรถยนต์ไทยรวมทุกยี่ห้อในปีนี้ จากเดิมคาดไม่เกิน 1.2 ล้านคัน แต่ล่าสุดน่าจะทะลุแน่นอน”
สำหรับในช่วง 6 เดือนที่เหลือจะมีการแข่งขันรุนแรง และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว มาสด้าจะคงเน้นสร้างการรับรู้ตัวตนของแบรนด์ โดยเฉพาะพันธุกรรมรถสปอร์ตในเชิงลึกขึ้น ขณะเดียวกันจะเร่งส่งมอบรถยนต์ให้เร็วขึ้น จากปัจจุบันยอดค้างส่งมอบในรุ่นมาสด้า 2 ประมาณ 1.2 หมื่นคัน และปิกอัพบีที-50 โปร จำนวน 6-7 พันคัน หรือลูกค้าจะต้องรอเฉลี่ย 3-4 เดือน พร้อมกันนี้เพื่อสร้างความแตกต่าง จะมีการแนะนำรถรุ่นพิเศษสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นมาสด้า 2 และ 3 รวมถึงปิกอัพบีที-50 โปร ขณะเดียวกันจะมีการเน้นในเรื่องของการใช้งบการตลาดเพิ่มด้วย
นอกจากนี้จะขยายเครือข่ายการขาย เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามาสด้ามีผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ 130 แห่ง ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 150 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะการปิดช่องว่างในพื้นที่สำคัญๆ ในเขตกรุงเทพฯ อย่างแถบสุขุมวิท รามอินทรา บางแค และบางใหญ่ รวมถึงครอบคลุมเขตสำคัญๆ ทั่วประเทศ
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากตลาดรถยนต์ปีนี้มีการเติบโตดีอยู่แล้ว กลยุทธ์ของมาสด้าในช่วงครึ่งปีหลัง จะเน้นการทำตลาดในเชิงลึกมากขึ้น โดยเฉพาะการตอกย้ำแบรนด์ และสร้างความแตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆ
“ในปีนี้มาสด้าได้รับงบการตลาดกว่า 600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ 33% แต่เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง จึงไม่ได้เน้นไปที่การจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย แต่จะมุ่งกิจกรรมที่สร้างความเข้าใจในแบรนด์ และความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงการรับรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสกายแอคทีฟ ที่จะถูกนำเข้ามาในอนาคตเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับมาสด้าในระยะยาว”
ทั้งนี้จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่จะมีรุ่นพิเศษออกมา อย่างรุ่นเรซซิ่งซีรี่ส์ที่มีขายเพียงไม่กี่ร้อยคัน แต่มาสด้าทำกิจกรรมและโฆษณาออกมา เพราะต้องการย้ำให้เห็นตัวตนของแบรนด์ และมีความแตกต่างชัดเจน รวมถึงการร่วมงานออโตซาลอน หรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนสร้างกับรับรู้ในแบรนด์ และตำแหน่งของรถมาสด้าที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความสปอร์ต และมีดีไซน์ที่โดดเด่น ตลอดจนกล้าที่จะแตกต่างอย่างปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ขณะเดียวกันได้ทำการปรับมาตรฐานเครือข่ายและบริการหลังขายให้ดียิ่งขึ้นด้วย
โชอิชิ ยูกิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มาสด้า เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า มาสด้าในไทยประสบความสำเร็จอย่างก้าวกระโดด โดยสามารถทำยอดขายจากเดือนละไม่ถึง 1 พันคันในอดีต แต่ปัจจุบันมีระดับมากกว่า 5 พันคันต่อเดือน ซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดของมาสด้าในไทย นั่นเป็นผลมาจากการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อเนื่อง การลงทุนในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโรงงาน, สินค้า, พัฒนาบุคลากร หรืองบการตลาด รวมถึงนโยบายการบริหารเครือข่าย ให้ครอบคลุมเขตสำคัญทั่วประเทศ
“จากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจดังกล่าว ประกอบเศรษฐกิจไทยที่เติบโต และผลดีจากโครงการรถคันแรก ทำให้จบครึ่งแรกของปีนี้มาสด้ามียอดขายกว่า 3 หมื่นคัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา 51% และจากปัจจัยที่กล่าวมาเชื่อว่าจะทำให้ถึงสิ้นปี มาสด้าจะมียอดขาย 7 หมื่นคัน ปรับเพิ่มจากเป้าหมายเดิมเมื่อต้นปีที่ 6 หมื่นคัน หรือหากเทียบกับปีที่แล้วมาเพิ่มขึ้น 67% ขณะที่ตลาดรถยนต์ไทยรวมทุกยี่ห้อในปีนี้ จากเดิมคาดไม่เกิน 1.2 ล้านคัน แต่ล่าสุดน่าจะทะลุแน่นอน”
สำหรับในช่วง 6 เดือนที่เหลือจะมีการแข่งขันรุนแรง และเพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว มาสด้าจะคงเน้นสร้างการรับรู้ตัวตนของแบรนด์ โดยเฉพาะพันธุกรรมรถสปอร์ตในเชิงลึกขึ้น ขณะเดียวกันจะเร่งส่งมอบรถยนต์ให้เร็วขึ้น จากปัจจุบันยอดค้างส่งมอบในรุ่นมาสด้า 2 ประมาณ 1.2 หมื่นคัน และปิกอัพบีที-50 โปร จำนวน 6-7 พันคัน หรือลูกค้าจะต้องรอเฉลี่ย 3-4 เดือน พร้อมกันนี้เพื่อสร้างความแตกต่าง จะมีการแนะนำรถรุ่นพิเศษสู่ตลาด ไม่ว่าจะเป็นมาสด้า 2 และ 3 รวมถึงปิกอัพบีที-50 โปร ขณะเดียวกันจะมีการเน้นในเรื่องของการใช้งบการตลาดเพิ่มด้วย
นอกจากนี้จะขยายเครือข่ายการขาย เพื่อรองรับการเติบโตของยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเมื่อปีที่ผ่านมามาสด้ามีผู้แทนจำหน่ายหรือดีลเลอร์ 130 แห่ง ในปีนี้คาดว่าจะเพิ่มเป็น 150 แห่งทั่วประเทศ โดยเฉพาะการปิดช่องว่างในพื้นที่สำคัญๆ ในเขตกรุงเทพฯ อย่างแถบสุขุมวิท รามอินทรา บางแค และบางใหญ่ รวมถึงครอบคลุมเขตสำคัญๆ ทั่วประเทศ
นางสาวสุรีทิพย์ ละอองทอง โฉมทองดี ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท มาสด้า เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า เนื่องจากตลาดรถยนต์ปีนี้มีการเติบโตดีอยู่แล้ว กลยุทธ์ของมาสด้าในช่วงครึ่งปีหลัง จะเน้นการทำตลาดในเชิงลึกมากขึ้น โดยเฉพาะการตอกย้ำแบรนด์ และสร้างความแตกต่างจากยี่ห้ออื่นๆ รวมถึงกิจกรรมการตลาดต่างๆ
“ในปีนี้มาสด้าได้รับงบการตลาดกว่า 600 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมาประมาณ 33% แต่เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง จึงไม่ได้เน้นไปที่การจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขาย แต่จะมุ่งกิจกรรมที่สร้างความเข้าใจในแบรนด์ และความสัมพันธ์กับลูกค้า รวมถึงการรับรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ อย่างสกายแอคทีฟ ที่จะถูกนำเข้ามาในอนาคตเร็วๆ นี้ เพื่อเป็นการสร้างความแข็งแกร่งให้กับมาสด้าในระยะยาว”
ทั้งนี้จะเห็นว่าผลิตภัณฑ์ที่จะมีรุ่นพิเศษออกมา อย่างรุ่นเรซซิ่งซีรี่ส์ที่มีขายเพียงไม่กี่ร้อยคัน แต่มาสด้าทำกิจกรรมและโฆษณาออกมา เพราะต้องการย้ำให้เห็นตัวตนของแบรนด์ และมีความแตกต่างชัดเจน รวมถึงการร่วมงานออโตซาลอน หรือกิจกรรมต่างๆ ซึ่งล้วนสร้างกับรับรู้ในแบรนด์ และตำแหน่งของรถมาสด้าที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นความสปอร์ต และมีดีไซน์ที่โดดเด่น ตลอดจนกล้าที่จะแตกต่างอย่างปิกอัพมาสด้า บีที-50 โปร ขณะเดียวกันได้ทำการปรับมาตรฐานเครือข่ายและบริการหลังขายให้ดียิ่งขึ้นด้วย