ตีนแมวตระเวนงัดบ้านตามหมู่บ้านดังย่านตลิ่งชัน แล้วเข้าไปยกตู้เซฟ รื้อค้นทรัพย์สินมีค่า กวาดเรียบกว่าล้านบาท ตำรวจเร่งตามล่ารถมาสด้า 2 ต้องสงสัย ที่คาดว่าอาจเป็นพาหนะของคนร้ายในการก่อเหตุ
วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 09.30 น. พ.ต.ต.จิระพันธุ์ รุจิระกุล สวป.สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุพบตู้เซฟไม่มีประตูล็อกถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าข้างทางกลางซอยทวีวัฒนา 31 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุบริเวณป่ารก ห่างจากถนนประมาณ 3 เมตร พบตู้เซฟขนาด 1 ฟุต คูณ 1.5 ฟุต ยี่ห้อไทโย จำนวน 1 ตู้ ถูกนำมาทิ้งไว้ โดยจากการตรวจสอบภายในพบสมุดบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเดอะมอลล์บางแค ของนายสุวัฒน์ หิรัญวัฒน์วนิช มีเงินฝากในบัญชี มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน, กล่องใส่ทองคำจำนวนหลายกล่อง และเหรียญสะสมต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้โทรศัพท์ติดต่อนายสุวัฒน์ เพื่อสอบถามถึงที่มาของตู้เซฟ ซึ่งนายสุวัฒน์ ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนกับครอบครัวเดินทางไปพักผ่อน ที่จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. และกำลังจะเดินทางกลับมาบ้านในวันนี้ (23 เม.ย.) ช่วงเย็น โดยขณะที่กำลังเดินทางออกจากบ้านมานั้น สังเกตเห็นว่ามีคนงานก่อสร้างทำงานอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าคนงานดังกล่าวจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนตู้เซฟที่พบนั้นปกติจะอยู่ในห้องนอน ชั้น 2 ของบ้าน ภายในมีอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก สร้อยคอทองคำ พร้อมด้วยพระเลี่ยมทองน้ำหนักรวมหลายสิบบาท ธนบัตรเก่า เหรียญสะสม โฉนดที่ดิน และสมุดธนาคาร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 63/103 ภายในหมู่บ้านภาณุแลนด์ ซอยภาณุ 19/3 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายสุวัฒน์ พบว่าคนร้ายใช้คีมตัดห่วงประตูอัลลอยด้านหน้าและใช้ชะแลงงัดประตูไม้ด้านหลังของบ้านพร้อมเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินบนชั้น 2 โดยคนร้ายรื้อค้นทั้ง 3 ห้อง จนเครื่องใช้ต่างๆ ถูกรื้อค้นเสียหายกระจัดกระจายทั่วบ้าน จึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายตามจุดต่างๆ
จากนั้นผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายศุราช บุญโตมาตลอด อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 64/108 ซอยภาณุ 36 /4 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุของนายสุวัฒน์ ประมาณ 500 เมตร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ของเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ตนพร้อมครอบครัวได้ขับรถกลับมาบ้าน สังเกตเห็นรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีเทาดำ ทะเบียน ญญ- 5344 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่หน้าปากซอยภาณุ 36/4 ซึ่งติดกับกำแพงด้านข้างของบ้านตน ช่วงระหว่างที่กำลังจะเข้าบ้าน พบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวขับออกจากซอยไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบเข้าไปในบ้าน พบว่ามีการรื้อค้นบริเวณชั้น 2 ทั้ง 3 ห้อง สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้น คือ อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก นาฬิกา 6 เรือน กระเป๋า 2 ใบ แว่นตา 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท ที่อยู่ในห้องนอนของตน จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายเข้าไปก่อเหตุทางด้านหลังของบ้านโดยใช้คีมตัดเหล็กดัดและเข้าไปรื้อข้าวของภายในบ้านและได้ทรัพย์สินไปจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ตรวจสอบที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน พบรถยนต์มาสด้า 2 ทะเบียน ญญ -5344 กรุงเทพมหานคร ออกจากหมู่บ้านไปช่วง 2 ทุ่มเศษ พร้อมประสานขอกล้องวงจรปิดหน้าปากซอยทวีวัฒนา 31 และจาก สน.ธรรมศาลา เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ สำหรับพฤติกรรมคนร้ายแก๊งนี้จะฉวยโอกาสเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับรถที่จะเข้าในหมู่บ้านพร้อมๆ กัน 2-3 คัน โดยไม่ต้องแลกบัตร และเข้าไปกดกริ่งหน้าบ้าน ถ้ามีคนอยู่ก็จะบอกว่ามาผิดบ้าน แต่ถ้าไม่มีคนอยู่จึงลงมือก่อเหตุ และออกมาพร้อมกับรถที่จะออกจากหมู่บ้านเช่นเดิม
วันนี้ (23 เม.ย.) เวลา 09.30 น. พ.ต.ต.จิระพันธุ์ รุจิระกุล สวป.สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุพบตู้เซฟไม่มีประตูล็อกถูกนำมาทิ้งไว้ที่ป่าข้างทางกลางซอยทวีวัฒนา 31 แขวงและเขตทวีวัฒนา กทม. จึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน และกองพิสูจน์หลักฐาน
ที่เกิดเหตุบริเวณป่ารก ห่างจากถนนประมาณ 3 เมตร พบตู้เซฟขนาด 1 ฟุต คูณ 1.5 ฟุต ยี่ห้อไทโย จำนวน 1 ตู้ ถูกนำมาทิ้งไว้ โดยจากการตรวจสอบภายในพบสมุดบัญชีธนาคารอาคารสงเคราะห์ สาขาเดอะมอลล์บางแค ของนายสุวัฒน์ หิรัญวัฒน์วนิช มีเงินฝากในบัญชี มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท, โฉนดที่ดิน, กล่องใส่ทองคำจำนวนหลายกล่อง และเหรียญสะสมต่างๆ เจ้าหน้าที่จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน
ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้โทรศัพท์ติดต่อนายสุวัฒน์ เพื่อสอบถามถึงที่มาของตู้เซฟ ซึ่งนายสุวัฒน์ ให้ข้อมูลเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าตนกับครอบครัวเดินทางไปพักผ่อน ที่จังหวัดเพชรบุรี ตั้งแต่วันที่ 21 เม.ย. และกำลังจะเดินทางกลับมาบ้านในวันนี้ (23 เม.ย.) ช่วงเย็น โดยขณะที่กำลังเดินทางออกจากบ้านมานั้น สังเกตเห็นว่ามีคนงานก่อสร้างทำงานอยู่บริเวณหน้าบ้าน แต่ไม่แน่ใจว่าคนงานดังกล่าวจะมีส่วนรู้เห็นหรือไม่ ส่วนตู้เซฟที่พบนั้นปกติจะอยู่ในห้องนอน ชั้น 2 ของบ้าน ภายในมีอาวุธปืนขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก สร้อยคอทองคำ พร้อมด้วยพระเลี่ยมทองน้ำหนักรวมหลายสิบบาท ธนบัตรเก่า เหรียญสะสม โฉนดที่ดิน และสมุดธนาคาร
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ธรรมศาลา ได้ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน เดินทางไปตรวจสอบบ้านเลขที่ 63/103 ภายในหมู่บ้านภาณุแลนด์ ซอยภาณุ 19/3 แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายสุวัฒน์ พบว่าคนร้ายใช้คีมตัดห่วงประตูอัลลอยด้านหน้าและใช้ชะแลงงัดประตูไม้ด้านหลังของบ้านพร้อมเข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินบนชั้น 2 โดยคนร้ายรื้อค้นทั้ง 3 ห้อง จนเครื่องใช้ต่างๆ ถูกรื้อค้นเสียหายกระจัดกระจายทั่วบ้าน จึงให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหารอยนิ้วมือแฝงของคนร้ายตามจุดต่างๆ
จากนั้นผู้สื่อข่าวรับแจ้งจากนายศุราช บุญโตมาตลอด อายุ 58 ปี เจ้าของบ้านเลขที่ 64/108 ซอยภาณุ 36 /4 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านที่เกิดเหตุของนายสุวัฒน์ ประมาณ 500 เมตร กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณ 2 ทุ่มกว่า ของเมื่อวานนี้ (22 เม.ย.) ตนพร้อมครอบครัวได้ขับรถกลับมาบ้าน สังเกตเห็นรถยนต์ยี่ห้อมาสด้า 2 สีเทาดำ ทะเบียน ญญ- 5344 กรุงเทพมหานคร จอดติดเครื่องอยู่หน้าปากซอยภาณุ 36/4 ซึ่งติดกับกำแพงด้านข้างของบ้านตน ช่วงระหว่างที่กำลังจะเข้าบ้าน พบรถต้องสงสัยคันดังกล่าวขับออกจากซอยไปอย่างรวดเร็ว จึงรีบเข้าไปในบ้าน พบว่ามีการรื้อค้นบริเวณชั้น 2 ทั้ง 3 ห้อง สำหรับทรัพย์สินที่หายไปนั้น คือ อาวุธปืนขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก นาฬิกา 6 เรือน กระเป๋า 2 ใบ แว่นตา 1 อัน โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง เงินสดประมาณ 1 หมื่นบาท ที่อยู่ในห้องนอนของตน จากการตรวจสอบพบว่าคนร้ายเข้าไปก่อเหตุทางด้านหลังของบ้านโดยใช้คีมตัดเหล็กดัดและเข้าไปรื้อข้าวของภายในบ้านและได้ทรัพย์สินไปจำนวนดังกล่าว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ตลิ่งชัน ได้ตรวจสอบที่ป้อมยามหน้าหมู่บ้าน พบรถยนต์มาสด้า 2 ทะเบียน ญญ -5344 กรุงเทพมหานคร ออกจากหมู่บ้านไปช่วง 2 ทุ่มเศษ พร้อมประสานขอกล้องวงจรปิดหน้าปากซอยทวีวัฒนา 31 และจาก สน.ธรรมศาลา เพื่อตรวจสอบว่าเป็นคนร้ายรายเดียวกันหรือไม่ สำหรับพฤติกรรมคนร้ายแก๊งนี้จะฉวยโอกาสเข้าไปในหมู่บ้านพร้อมกับรถที่จะเข้าในหมู่บ้านพร้อมๆ กัน 2-3 คัน โดยไม่ต้องแลกบัตร และเข้าไปกดกริ่งหน้าบ้าน ถ้ามีคนอยู่ก็จะบอกว่ามาผิดบ้าน แต่ถ้าไม่มีคนอยู่จึงลงมือก่อเหตุ และออกมาพร้อมกับรถที่จะออกจากหมู่บ้านเช่นเดิม
