ข่าวในประเทศ - ค่าย “มิตซูบิชิ” จับตาวิกฤตยุโรป-สหรัฐอเมริกา หลังประเทศจีนเริ่มได้รับผลกระทบ กังวลไทยจะรับมือได้หรือไม่ เผยเรื่องนี้น่ากลัวกว่าปัญหาการเมืองเสียอีก หากเอาไม่อยู่ทุบอุตสาหกรรมรถไทยร่วงแน่ แม้ปัจจุบันจะยังดูสดใส จนทุกยี่ห้อแทบจะผลิตไม่พอขายและส่งออก
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิ และบริษัทรถยนต์ทุกราย มีปัญหาในการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ แม้จะเร่งเต็มกำลังการผลิตแล้วก็ตาม โดยเฉลี่ยลูกค้าต้องรถรถนาน 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งเมื่อรวมภาพการส่งออกที่ดีขึ้น จึงคาดว่ายอดการผลิตรถรวมในไทยทุกยี่ห้อบรรลุ 2 ล้านคันในปีนี้แน่นอน
“ตอนนี้รถทุกรุ่นของมิตซูบิชิได้รับการตอบรับดีมาก และอีโคคาร์รุ่นมิราจจะเริ่มส่งออกไปอาเซียนและญี่ปุ่นในเดือนหน้า ในปีนี้รุ่นมิราจน่าจะผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคัน และคาดว่าจะเป็น 1.5 แสนคันในปีหน้า แต่นี่เป็นการประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน อนาคตอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และอเมริกา ที่อาจจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ประเทศจีนเริ่มมีปัญหาแล้ว”
ทั้งนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทย จะเติบโตมากน้อยแค่ไหน คงต้องคำนึงถึงปัญหาเศรษฐกิจยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศจีน แม้มิตซูบิชิหรืออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย จะไม่ได้ส่งออกไปยังจีน แต่เมื่อประเทศเหล่านี้มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั่วโลกย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย ตรงนี้จึงรู้สึกกังวลพอสมควร เพราะอีโคคาร์รุ่นมิราจไม่เพียงส่งออกอาเซียนและญี่ปุ่น แต่จะมีการส่งออกไปยุโรป ออสเตรเลีย และประมาณต้นปีหน้าจะออกไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการส่งออกจากไทย
“มิตซูบิชิไม่ได้วิตกเรื่องปัญหาการเมืองในไทยเท่าไหร่ เพราะเคยผ่านมาแล้ว แต่รู้สึกกังวลเป็นเรื่องเศรษฐกิจของยุโรป และอเมริกาที่ไม่ดีนัก และประเทศจีนเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว เราเลยไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะยังแข็งแกร่ง ในสภาวะเช่นนี้ได้หรือไม่”
นายมูราฮาชิกล่าวว่า อย่างไรก็ตามในปีนี้มิตซูบิชิยังคงเป้าหมายยอดขาย 1 แสนคัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 10% ซึ่งที่ผ่านมาจะขายอยู่ที่ประมาณ 8 พันคันต่อเดือน แต่เชื่อว่าภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า จะบรรลุเป้าหมาย 1 หมื่นคันต่อเดือนแน่นอน เนื่องจากรถทุกรุ่นของมิตซูบิชิ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก ตอนนี้มียอดค้างส่งมอบเฉลี่ย 3 เดือน โดยเฉพาะอีโคคาร์มิตซูบิชิ มิราจ ที่ปัจจุบันมียอดจอง 2.5 หมื่นคัน ทำให้ต้องเร่งกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ โดยสูงสุดทำได้เฉลี่ยเดือนละ 3,500 คัน เพื่อรองรับตลาดในประเทศ
ดังนั้นคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถจำนวนนี้ ให้กับลูกค้าได้หมดภายในเดือนพฤศจิกายน หรือลูกค้าที่จองมิตซูบิชิ มิราจ จะต้องรอรถนานประมาณ 5 เดือน เรื่องนี้จึงอยากจะให้รัฐบาลเลื่อนโครงการรถคันแรกออกไปอีก 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อจะไม่เกิดปัญหาในการซื้อรถภายใต้โครงการรถคันแรก และต้องการให้รัฐบาลประกาศเลื่อนโครงการล่วงหน้า 4-6 เดือน สำหรับให้บริษัทรถบริหารการผลิตได้อย่างเหมาะสม
นายโนบุยูกิ มูราฮาชิ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ปัจจุบันมิตซูบิชิ และบริษัทรถยนต์ทุกราย มีปัญหาในการผลิตไม่เพียงพอกับความต้องการ แม้จะเร่งเต็มกำลังการผลิตแล้วก็ตาม โดยเฉลี่ยลูกค้าต้องรถรถนาน 3 เดือนขึ้นไป ซึ่งเมื่อรวมภาพการส่งออกที่ดีขึ้น จึงคาดว่ายอดการผลิตรถรวมในไทยทุกยี่ห้อบรรลุ 2 ล้านคันในปีนี้แน่นอน
“ตอนนี้รถทุกรุ่นของมิตซูบิชิได้รับการตอบรับดีมาก และอีโคคาร์รุ่นมิราจจะเริ่มส่งออกไปอาเซียนและญี่ปุ่นในเดือนหน้า ในปีนี้รุ่นมิราจน่าจะผลิตไม่ต่ำกว่า 1 แสนคัน และคาดว่าจะเป็น 1.5 แสนคันในปีหน้า แต่นี่เป็นการประเมินจากสถานการณ์ปัจจุบัน อนาคตอาจจะไม่เป็นเช่นนั้นก็ได้ เนื่องจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจในยุโรป และอเมริกา ที่อาจจะส่งผลกระทบไปทั่วโลก ซึ่งตอนนี้ประเทศจีนเริ่มมีปัญหาแล้ว”
ทั้งนี้อุตสาหกรรมรถยนต์ในไทย จะเติบโตมากน้อยแค่ไหน คงต้องคำนึงถึงปัญหาเศรษฐกิจยุโรป สหรัฐอเมริกา และประเทศจีน แม้มิตซูบิชิหรืออุตสาหกรรมรถยนต์ไทย จะไม่ได้ส่งออกไปยังจีน แต่เมื่อประเทศเหล่านี้มีความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ทั่วโลกย่อมได้รับผลกระทบตามไปด้วย ตรงนี้จึงรู้สึกกังวลพอสมควร เพราะอีโคคาร์รุ่นมิราจไม่เพียงส่งออกอาเซียนและญี่ปุ่น แต่จะมีการส่งออกไปยุโรป ออสเตรเลีย และประมาณต้นปีหน้าจะออกไปยังสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการส่งออกจากไทย
“มิตซูบิชิไม่ได้วิตกเรื่องปัญหาการเมืองในไทยเท่าไหร่ เพราะเคยผ่านมาแล้ว แต่รู้สึกกังวลเป็นเรื่องเศรษฐกิจของยุโรป และอเมริกาที่ไม่ดีนัก และประเทศจีนเริ่มได้รับผลกระทบแล้ว เราเลยไม่แน่ใจว่าประเทศไทยจะยังแข็งแกร่ง ในสภาวะเช่นนี้ได้หรือไม่”
นายมูราฮาชิกล่าวว่า อย่างไรก็ตามในปีนี้มิตซูบิชิยังคงเป้าหมายยอดขาย 1 แสนคัน หรือมีส่วนแบ่งการตลาด 10% ซึ่งที่ผ่านมาจะขายอยู่ที่ประมาณ 8 พันคันต่อเดือน แต่เชื่อว่าภายในเดือนนี้หรือเดือนหน้า จะบรรลุเป้าหมาย 1 หมื่นคันต่อเดือนแน่นอน เนื่องจากรถทุกรุ่นของมิตซูบิชิ ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคดีมาก ตอนนี้มียอดค้างส่งมอบเฉลี่ย 3 เดือน โดยเฉพาะอีโคคาร์มิตซูบิชิ มิราจ ที่ปัจจุบันมียอดจอง 2.5 หมื่นคัน ทำให้ต้องเร่งกำลังการผลิตอย่างเต็มที่ โดยสูงสุดทำได้เฉลี่ยเดือนละ 3,500 คัน เพื่อรองรับตลาดในประเทศ
ดังนั้นคาดว่าจะสามารถส่งมอบรถจำนวนนี้ ให้กับลูกค้าได้หมดภายในเดือนพฤศจิกายน หรือลูกค้าที่จองมิตซูบิชิ มิราจ จะต้องรอรถนานประมาณ 5 เดือน เรื่องนี้จึงอยากจะให้รัฐบาลเลื่อนโครงการรถคันแรกออกไปอีก 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ เพื่อจะไม่เกิดปัญหาในการซื้อรถภายใต้โครงการรถคันแรก และต้องการให้รัฐบาลประกาศเลื่อนโครงการล่วงหน้า 4-6 เดือน สำหรับให้บริษัทรถบริหารการผลิตได้อย่างเหมาะสม
