ข่าวต่างประเทศ-จากสภาวะเงินเยนแข็งตัวทำให้ผู้ผลิตรถยนต์ญี่ปุ่นหลายราย ตัดสินใจเก็บข้าวของย้ายฐานการผลิตออกจากบ้านตัวเอง แต่สำหรับ FHI หรือ ฟูจิเฮฟวี่ อินดัสตรี้ ผู้ผลิตรถยนต์ซูบารุกลับไม่ยี่หระ และประกาศยืนยันว่าจะยังยึดโรงงานในญี่ปุ่นเป็นไลน์ผลิตหลัก แถมยังประกาศเพิ่มกำลังการผลิตอีกด้วย
FHI เปิดเผยผ่านทางบลูมเบิร์ก บิสซิเนสวีคว่า ทางซูบารุวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ของตัวเองจากโรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตในช่วงปีธุรกิจนี้ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2013 กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีธุรกิจที่แล้วถึง 78% โดยทาง FHI ยืนยันว่าเหตุผลที่เลือกเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานในญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นสหรัฐอเมริกา เพราะเมื่อมองในภาพรวมแล้วมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนถูกกว่า
“การเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาแบบมีจำนวนการผลิตมากๆ นั้น ต้นทุนแพงกว่าแน่นอน เพราะว่าเราจะต้องสร้างโรงงานใหม่ที่นั่นขึ้นมารองรับกับกำลังการผลิตขนาดนี้ เราไม่ใช่โตโยต้า, ฮอนด้า หรือนิสสัน ดังนั้น การที่จะต้องลงทุนด้วยการเทงบประมาณก้อนโตลงไปจึงถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้” มิตซึรุ ทาคาฮาชิ CFO ของ FHI กล่าว
การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ FHI กลายเป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเพียงไม่กี่รายที่มีสัดส่วนการผลิตจากโรงงานในญี่ปุ่นมากกว่าโรงงานนอกดินแดนอาทิตย์อุทัย โดยจากการประกาศเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้จะทำให้ FHI มียอดการผลิตจากโรงงานในประเทศอยู่ที่ 598,000 คัน ส่วนกำลังการผลิตของโรงงานจากอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกามีเพียงแค่ 169,000 คัน เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางซูบารุก็วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานแห่งนี้เป็น 200,000 คัน ภายในปีหน้า
FHI เปิดเผยผ่านทางบลูมเบิร์ก บิสซิเนสวีคว่า ทางซูบารุวางแผนเพิ่มกำลังการผลิตรถยนต์ของตัวเองจากโรงงานในญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่ากำลังการผลิตในช่วงปีธุรกิจนี้ซึ่งจะสิ้นสุดในเดือนมีนาคม 2013 กำลังการผลิตจะเพิ่มขึ้นจากปีธุรกิจที่แล้วถึง 78% โดยทาง FHI ยืนยันว่าเหตุผลที่เลือกเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานในญี่ปุ่น แทนที่จะเป็นสหรัฐอเมริกา เพราะเมื่อมองในภาพรวมแล้วมีค่าใช้จ่ายและต้นทุนถูกกว่า
“การเพิ่มกำลังการผลิตในสหรัฐอเมริกาแบบมีจำนวนการผลิตมากๆ นั้น ต้นทุนแพงกว่าแน่นอน เพราะว่าเราจะต้องสร้างโรงงานใหม่ที่นั่นขึ้นมารองรับกับกำลังการผลิตขนาดนี้ เราไม่ใช่โตโยต้า, ฮอนด้า หรือนิสสัน ดังนั้น การที่จะต้องลงทุนด้วยการเทงบประมาณก้อนโตลงไปจึงถือเป็นเรื่องที่ไม่สามารถทำได้” มิตซึรุ ทาคาฮาชิ CFO ของ FHI กล่าว
การตัดสินใจครั้งนี้ทำให้ FHI กลายเป็นบริษัทรถยนต์สัญชาติญี่ปุ่นเพียงไม่กี่รายที่มีสัดส่วนการผลิตจากโรงงานในญี่ปุ่นมากกว่าโรงงานนอกดินแดนอาทิตย์อุทัย โดยจากการประกาศเพิ่มกำลังการผลิตครั้งนี้จะทำให้ FHI มียอดการผลิตจากโรงงานในประเทศอยู่ที่ 598,000 คัน ส่วนกำลังการผลิตของโรงงานจากอินเดียนา ประเทศสหรัฐอเมริกามีเพียงแค่ 169,000 คัน เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ทางซูบารุก็วางแผนเพิ่มกำลังการผลิตของโรงงานแห่งนี้เป็น 200,000 คัน ภายในปีหน้า
