ทีซีเจ เอเซีย ลุยตลาดรถฟอร์คลิฟท์ เปิดตัวแบรนด์ดัง “STILL” จากเยอรมนี รุกตลาดในไทย โดดเด่นด้วยเทคโนโลยี Hybrid และ Blue Q ที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เจาะกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง และโลจิสติกส์ ที่ต้องการประหยัดพลังงาน ตั้งเป้ายอดขายปีแรก 200 คัน พร้อมโตต่อเนื่องตามอัตราการขยายตัวของตลาดฟอร์คลิฟท์ ไม่ต่ำกว่าปีละ 20 % เผยโฉมครั้งแรกในงาน “อินเตอร์แมค 2012” วันที่ 17-20 พ.ค.นี้ ณ ไบเทค บางนา หวังโชว์สุดยอดนวัตกรรมประหยัดพลังงาน-ลดโลกร้อน
นางสาวอนันญา ฉัตรจุฑามาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.เจ.เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทีซีเจ เอเซีย” หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องจักรกลหนัก เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า ปัจจุบันบริษัทได้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถฟอร์คลิฟท์แบรนด์ "STILL” first in intralogistics โดยเป็นรถยกคุณภาพสูงมาตรฐานยุโรปเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน-เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ “STILL” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์หลักของ KION Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถฟอร์คลิฟท์รายใหญ่อันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นเวลากว่า 90 ปีที่ “STILL” ได้รับการยอมรับ ในด้านผลิตภัณฑ์คุณภาพและบริการ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผู้ให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับ intralogistics
สำหรับรถฟอร์คลิฟท์ แบรนด์ “STILL” บริษัทนำเข้ามาทำตลาดในช่วงแรกจะมีทั้งระบบไฟฟ้า และ ระบบเครื่องยนต์ (ดีเซล และ LPG) โดดเด่นด้วย Hybrid Technology ซึ่งเป็นระบบผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีของ STILL สามารถประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับรถยกทั่วไป อุปกรณ์ที่นำมาเก็บพลังงาน คือ Ultracaps จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมด้วยโหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะ Blue Q ที่สามารถลดการสูญเสียของการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็นสูงสุดถึง 20% โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง STILL ได้รับการพิสูจน์และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบของรถยกที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากที่สุด นอกจากนี้ STILL ได้ออกแบบดีไซน์โดยเน้นคุณภาพ ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาตรฐานสูง ทำให้ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ และถึงแม้จะเป็นสินค้าแบรนด์ยุโรป แต่เมื่อเทียบความคุ้มทุนในระยะยาวแล้ว สามารถแข่งขันกับตลาดรถยกในปัจจุบันได้
ทั้งนี้รถฟอร์คลิฟท์แบรนด์ “STILL” พร้อมตอบรับทุกความต้องการของงานยก เคลื่อนย้ายสินค้า การจัดการระบบโลจิสติกส์ภายใน เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้าที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง 12-24 ชั่วโมง (Heavy Duty) และต้องการประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น การสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น , ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรถยก Diesel and LPG หรือ กลุ่มรถยกที่ใช้ในคลังสินค้า รวมทั้งผนึกกำลังกับ “ทีซีเจ เอเซีย” ที่มีระบบบริหารการจัดการมาตรฐาน ISO 9001:2008 และมีทีมเซอร์วิสที่มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อม และ บริการมานานกว่า 10 ปี โดยคาดว่าในปี 2555 จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 200 คัน และตั้งเป้าหมายการเติบโตตามตลาดฟอร์คลิฟท์ไม่ต่ำกว่า 20 % ต่อปี
ปัจจุบันประเทศไทยมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศในระบบโลจิสติกส์ทั้งภายใน และภายนอก คาดว่าธุรกิจนี้น่าจะเติบโตได้ดี ในขณะที่เรานำเข้ารถยกเข้ามาจำหน่าย มีการรับประกันด้วยมาตรฐานยุโรป สินค้ามีคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานง่าย และที่สำคัญช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่าย และช่วยประหยัดพลังงาน-ลดโลกร้อน ที่สามารถตอบสนองความต้องการตรงกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่น้ำมันมีราคาปรับสูงขึ้น” นางสาวอนันญา กล่าว
ในส่วนของแผนงานด้านการตลาด จะเน้นการเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และที่เกี่ยวข้องกับงานโลจิสติกส์โดยตรง หรือ Direct Marketing นอกจากนี้บริษัทฯ และร่วมออกบูทแสดงสินค้าในงานอินเตอร์แมค 2012 (Intermach 2012) งานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระดับอาเซียน ในระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2555 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทค บางนา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติของรถยกประเภทต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาร่วมงาน ทั้งในและต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ สำหรับงานด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์โดยเฉพาะ ซึ่งภายในงานบริษัทฯได้นำสินค้ารถยกอีกหลายรุ่นเข้ามาร่วมแสดงอีกด้วย
นางสาวอนันญา ฉัตรจุฑามาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.ซี.เจ.เอเซีย จำกัด (มหาชน) หรือ “ทีซีเจ เอเซีย” หนึ่งในผู้นำตลาดเครื่องจักรกลหนัก เปิดเผยถึง แผนการดำเนินงานในปีนี้ว่า ปัจจุบันบริษัทได้เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถฟอร์คลิฟท์แบรนด์ "STILL” first in intralogistics โดยเป็นรถยกคุณภาพสูงมาตรฐานยุโรปเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และพัฒนาขึ้นมาเพื่อช่วยประหยัดพลังงาน-เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ “STILL” ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์หลักของ KION Group ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถฟอร์คลิฟท์รายใหญ่อันดับหนึ่งของยุโรป และเป็นเวลากว่า 90 ปีที่ “STILL” ได้รับการยอมรับ ในด้านผลิตภัณฑ์คุณภาพและบริการ จนกลายเป็นหนึ่งในผู้นำด้านผู้ให้บริการเต็มรูปแบบสำหรับ intralogistics
สำหรับรถฟอร์คลิฟท์ แบรนด์ “STILL” บริษัทนำเข้ามาทำตลาดในช่วงแรกจะมีทั้งระบบไฟฟ้า และ ระบบเครื่องยนต์ (ดีเซล และ LPG) โดดเด่นด้วย Hybrid Technology ซึ่งเป็นระบบผสมผสานระหว่างเครื่องยนต์และไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีของ STILL สามารถประหยัดพลังงานได้เพิ่มขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับรถยกทั่วไป อุปกรณ์ที่นำมาเก็บพลังงาน คือ Ultracaps จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน พร้อมด้วยโหมดประหยัดพลังงานอัจฉริยะ Blue Q ที่สามารถลดการสูญเสียของการใช้พลังงานโดยไม่จำเป็นสูงสุดถึง 20% โดยไม่ทำให้ประสิทธิภาพการใช้งานลดลง STILL ได้รับการพิสูจน์และเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่าเป็นต้นแบบของรถยกที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ได้มากที่สุด นอกจากนี้ STILL ได้ออกแบบดีไซน์โดยเน้นคุณภาพ ผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาตรฐานสูง ทำให้ทนทาน มีอายุการใช้งานยาวนาน มีค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาต่ำ และถึงแม้จะเป็นสินค้าแบรนด์ยุโรป แต่เมื่อเทียบความคุ้มทุนในระยะยาวแล้ว สามารถแข่งขันกับตลาดรถยกในปัจจุบันได้
ทั้งนี้รถฟอร์คลิฟท์แบรนด์ “STILL” พร้อมตอบรับทุกความต้องการของงานยก เคลื่อนย้ายสินค้า การจัดการระบบโลจิสติกส์ภายใน เหมาะสำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและคลังสินค้าที่มีการใช้งานอย่างต่อเนื่อง 12-24 ชั่วโมง (Heavy Duty) และต้องการประสิทธิภาพสูงสุด รวมถึงต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ เช่น การสูญเสียพลังงานโดยไม่จำเป็น , ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มรถยก Diesel and LPG หรือ กลุ่มรถยกที่ใช้ในคลังสินค้า รวมทั้งผนึกกำลังกับ “ทีซีเจ เอเซีย” ที่มีระบบบริหารการจัดการมาตรฐาน ISO 9001:2008 และมีทีมเซอร์วิสที่มีความเชี่ยวชาญในงานซ่อม และ บริการมานานกว่า 10 ปี โดยคาดว่าในปี 2555 จะสามารถทำยอดขายได้ประมาณ 200 คัน และตั้งเป้าหมายการเติบโตตามตลาดฟอร์คลิฟท์ไม่ต่ำกว่า 20 % ต่อปี
ปัจจุบันประเทศไทยมีการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมค่อนข้างสูง และการให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศในระบบโลจิสติกส์ทั้งภายใน และภายนอก คาดว่าธุรกิจนี้น่าจะเติบโตได้ดี ในขณะที่เรานำเข้ารถยกเข้ามาจำหน่าย มีการรับประกันด้วยมาตรฐานยุโรป สินค้ามีคุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานง่าย และที่สำคัญช่วยผู้ประกอบการลดค่าใช้จ่าย และช่วยประหยัดพลังงาน-ลดโลกร้อน ที่สามารถตอบสนองความต้องการตรงกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันที่น้ำมันมีราคาปรับสูงขึ้น” นางสาวอนันญา กล่าว
ในส่วนของแผนงานด้านการตลาด จะเน้นการเจาะเข้าหากลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มองค์กรขนาดใหญ่ กลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม และที่เกี่ยวข้องกับงานโลจิสติกส์โดยตรง หรือ Direct Marketing นอกจากนี้บริษัทฯ และร่วมออกบูทแสดงสินค้าในงานอินเตอร์แมค 2012 (Intermach 2012) งานแสดงอุตสาหกรรมรับช่วงการผลิตเพื่อการจัดซื้อชิ้นส่วนอุตสาหกรรมระดับอาเซียน ในระหว่างวันที่ 17-20 พฤษภาคม 2555 ณ ศูนย์การแสดงสินค้าและนิทรรศการ ไบเทค บางนา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และคุณสมบัติของรถยกประเภทต่าง ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายที่เข้ามาร่วมงาน ทั้งในและต่างประเทศซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีรูปแบบใหม่ๆ สำหรับงานด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์โดยเฉพาะ ซึ่งภายในงานบริษัทฯได้นำสินค้ารถยกอีกหลายรุ่นเข้ามาร่วมแสดงอีกด้วย