ข่าวในประเทศ - “ฮอนด้า” เปิดเกมรุกตลาดรถไทย ส่งเก๋งคอมแพ็กต์ “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ เคาะราคาเริ่มต้น 7.73 แสนบาท ขยับปรับราคาขึ้นเล็กๆ บางรุ่นลดสูงสุด 1.4 หมื่นบาท จากการบริหารจัดการต้นทุน และอาศัยช่องภาษี เช่นเดียวกับรุ่น “ฟรีด” ที่หั่นราคาลงเป็นแสนมาแล้ว ประกาศถือเป็นนโยบายสำคัญ ภายใต้ภาวะต้นทุนปัจจุบันพุ่งแรง
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถยนต์นั่งฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่สู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ถือเป็นความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ เพื่อมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ออกแบบใหม่หมด สมรรถนะที่ดีเยี่ยม เรื่องของการประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม
“ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัย คุ้มค่ากับราคาที่แนะนำออกมา โดยบางรุ่นปรับราคาลงจากเดิมสูงสุด 14,000 บาท และมีปรับขึ้นสูงสุดเพียง 19,000 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุน ขณะเดียวกันซีวิคใหม่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีลดลง”
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันสภาวะต้นทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุดิบ ค่าแรง หรือน้ำมัน ล้วนต่างปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลต่อการต้นทุนการผลิตโดยตรง แต่ก่อนที่จะโยนภาระตรงนี้ให้กับผู้บริโภค ฮอนด้าจะดูภายในบริษัทก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารประสิทธิภาพองค์กร เรื่องของการลดต้นทุนการผลิต แต่อยู่ภายใต้ประสิทธิภาพ หรือคุณภาพสินค้าต้องดีขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องจัดการควบคุมให้ได้ ก่อนที่จะนำเสนอราคาสุดท้ายให้กับผู้บริโภค
นายพิทักษ์กล่าวว่า เช่นเดียวกันรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฮอนด้า ฟรีด ซึ่งได้มีการปรับราคาลงเป็นแสนบาท เพราะในช่วงเปิดตัวแนะนำสู่ตลาดครั้งแรก ฟรีดที่นำเข้าจากโรงงานในประเทศอินโดนีเซียมีต้นทุนที่ยังสูงมาก แต่ปัจจุบันได้มีการบริหารจัดการประสิทธิภาพการผลิต และการร่วมมือกับฮอนด้าในไทย ทำให้สามารถปรับลดต้นทุนลง ประกอบกับลดอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถปรับลดราคาลงได้ และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
“ทุกวันนี้ต้นทุนมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ฮอนด้ายังมุ่งที่จะบริหารจัดการต้นทุนไม่ให้สูงมาก และหากเป็นไปได้การปรับราคาขึ้น จะเป็นช่องทางสุดท้ายของฮอนด้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค”
ในส่วนของฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการออกแบบให้เป็นรถระดับท็อปคลาสของเก๋งคอมแพ็กต์ ด้วยรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นทันสมัย อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูล i-MID ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้สมบูรณ์แบบ ระบบ Eco Assist ช่วยแนะนำการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน และยังติดตั้งระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง รวมถึงระบบควบคุมการทรงตัว เบรกเอเบีเอส และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบใหม่
สำหรับซีวิคใหม่มี 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ที่สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 คือรุ่น 2.0 ลิตร i-VTEC 155 แรงม้า ราคา 1.124 ล้านบาท และรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC 141 แรงม้า มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่น 1.8S เกียร์อัตโนมัติราคา 8.28 แสนบาท และรุ่นเกียร์ธรรมดา 7.73 แสนบาท และรุ่น 1.8E เกียร์อัตโนมัติราคา 9.09 แสนบาท และรุ่นมีระบบนำทางราคา 9.64 แสนบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าการขายไว้ประมาณ 3.5 หมื่นคัน ซึ่งนับตั้งแต่เผยโฉมมาตั้งแต่ในงานมอเตอร์โชว์มียอดจอง 5 พันคัน และได้มีการผลิตในสต็อกปัจจุบัน 3-4 พันคัน
นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวรถยนต์นั่งฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่สู่ตลาดอย่างเป็นทางการ ถือเป็นความสมบูรณ์แบบในทุกมิติ เพื่อมอบให้กับผู้บริโภคชาวไทย ไม่ว่าจะเป็นรูปลักษณ์ออกแบบใหม่หมด สมรรถนะที่ดีเยี่ยม เรื่องของการประหยัดพลังงาน และรักษาสิ่งแวดล้อม
“ฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์ทันสมัย คุ้มค่ากับราคาที่แนะนำออกมา โดยบางรุ่นปรับราคาลงจากเดิมสูงสุด 14,000 บาท และมีปรับขึ้นสูงสุดเพียง 19,000 บาท ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการต้นทุน ขณะเดียวกันซีวิคใหม่สามารถใช้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 ทำให้ได้รับสิทธิประโยชน์ภาษีลดลง”
ทั้งนี้แม้ปัจจุบันสภาวะต้นทุนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวัตถุดิบ ค่าแรง หรือน้ำมัน ล้วนต่างปรับตัวสูงขึ้น และส่งผลต่อการต้นทุนการผลิตโดยตรง แต่ก่อนที่จะโยนภาระตรงนี้ให้กับผู้บริโภค ฮอนด้าจะดูภายในบริษัทก่อน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการบริหารประสิทธิภาพองค์กร เรื่องของการลดต้นทุนการผลิต แต่อยู่ภายใต้ประสิทธิภาพ หรือคุณภาพสินค้าต้องดีขึ้นด้วย ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะต้องจัดการควบคุมให้ได้ ก่อนที่จะนำเสนอราคาสุดท้ายให้กับผู้บริโภค
นายพิทักษ์กล่าวว่า เช่นเดียวกันรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ฮอนด้า ฟรีด ซึ่งได้มีการปรับราคาลงเป็นแสนบาท เพราะในช่วงเปิดตัวแนะนำสู่ตลาดครั้งแรก ฟรีดที่นำเข้าจากโรงงานในประเทศอินโดนีเซียมีต้นทุนที่ยังสูงมาก แต่ปัจจุบันได้มีการบริหารจัดการประสิทธิภาพการผลิต และการร่วมมือกับฮอนด้าในไทย ทำให้สามารถปรับลดต้นทุนลง ประกอบกับลดอุปกรณ์บางอย่างที่ไม่จำเป็น ทำให้สามารถปรับลดราคาลงได้ และได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี
“ทุกวันนี้ต้นทุนมีการปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง แต่ฮอนด้ายังมุ่งที่จะบริหารจัดการต้นทุนไม่ให้สูงมาก และหากเป็นไปได้การปรับราคาขึ้น จะเป็นช่องทางสุดท้ายของฮอนด้า เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบกับผู้บริโภค”
ในส่วนของฮอนด้า ซีวิค ใหม่ ได้รับการออกแบบให้เป็นรถระดับท็อปคลาสของเก๋งคอมแพ็กต์ ด้วยรูปลักษณ์และฟังก์ชั่นทันสมัย อาทิ หน้าจอแสดงข้อมูล i-MID ที่ผู้ขับขี่สามารถควบคุมได้สมบูรณ์แบบ ระบบ Eco Assist ช่วยแนะนำการขับขี่แบบประหยัดน้ำมัน และยังติดตั้งระบบความปลอดภัย ไม่ว่าจะเป็นถุงลมนิรภัยคู่หน้า และด้านข้าง รวมถึงระบบควบคุมการทรงตัว เบรกเอเบีเอส และระบบบังคับเลี้ยวพร้อมระบบช่วยผ่อนแรงแบบใหม่
สำหรับซีวิคใหม่มี 2 ทางเลือกเครื่องยนต์ ที่สามารถรองรับน้ำมันแก๊สโซฮอล์ อี85 คือรุ่น 2.0 ลิตร i-VTEC 155 แรงม้า ราคา 1.124 ล้านบาท และรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตร i-VTEC 141 แรงม้า มีทั้งหมด 4 รุ่นย่อย แบ่งเป็นรุ่น 1.8S เกียร์อัตโนมัติราคา 8.28 แสนบาท และรุ่นเกียร์ธรรมดา 7.73 แสนบาท และรุ่น 1.8E เกียร์อัตโนมัติราคา 9.09 แสนบาท และรุ่นมีระบบนำทางราคา 9.64 แสนบาท โดยปีนี้ตั้งเป้าการขายไว้ประมาณ 3.5 หมื่นคัน ซึ่งนับตั้งแต่เผยโฉมมาตั้งแต่ในงานมอเตอร์โชว์มียอดจอง 5 พันคัน และได้มีการผลิตในสต็อกปัจจุบัน 3-4 พันคัน
