ถ้ายังจำกันได้ เอสยูวี (และอาจจะรวมถึงเก๋งบางรุ่น) ของเปอโยต์ และบริษัทในเครือ PSA อย่างซีตรอง เป็นโปรเจกต์ที่เกิดจากความร่วมมือกับทางมิตซูบิชิ มอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จากญี่ปุ่น ซึ่งทั้งคู่จับมือร่วมกันทำงานมานานหลายปี และเพิ่งจะมีการขยายสัญญาความร่วมมือกันต่อไปอีก
โดยที่ค่ายสิงห์ผยองก็เริ่มเดินหน้าลุยตลาดเอสยูวีครั้งใหม่กับพันธมิตรหน้าเดิม และคราวนี้เปิดตัวโฉมใหม่ของเอสยูวีในรหัส 400X กับรุ่น 4008 อย่างไรก็ตาม งานนี้ไม่ใช่การเข้ามาแทนที่ 4007 ซึ่งวางขายมาตั้งแต่ปี 2007 แต่เป็นการเสริมทัพในตลาด
ความจริงแล้วนี่ไม่ใช่ของที่เพิ่งเปิดตัว แต่น่าจะเรียกว่าเพิ่งทำตลาดมากกว่า เพราะเปอโยต์นำคันจริงของ 4008 ออกเปิดตัวครั้งแรกในงานแฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ 2010 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แต่ในตอนนั้นเป็นแค่คันโชว์ซึ่งยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดออกมามากนัก จนกระทั่งถึงตอนนี้ เปอโยต์พร้อมส่ง 4008 ออกขายในตลาดยุโรปแล้ว
แม้ว่า 4008 จะมีรหัสคล้ายกับ 4007 แถมตัวเลขด้านหลังยังมากกว่าจนโดนสงสัยว่าเป็นตัวแทนหรือเปล่า? แต่ในแง่ของพื้นฐานทางวิศวกรรมแล้วกลับไม่ได้เกี่ยวข้องกันอย่างสิ้นเชิง และไม่ได้เกี่ยวข้องกันเลยในความต่อเนื่องของโมเดลที่ทำตลาด นั่นเป็นเพราะในรุ่น 4007 (รวมถึง C-Crooser เมื่อแปะโลโก้ของซีตรอง) ตัวรถเป็นการพัฒนาอยู่บนพื้นฐานของเอาท์แลนเดอร์ เรียกว่ายกมาทั้งคัน และเปลี่ยนรูปลักษณ์ด้านหน้าและหลังใหม่ ส่วนในรุ่น 4008 การพัฒนาไม่ได้มาจากเอาท์แลนเดอร์อีกต่อไป แต่เป็นการยกเอาเอสยูวีที่มีตำแหน่งทางการตลาดต่ำกว่าอย่าง RVR หรือ ASX มาปรับหน้าตาใหม่ขายในตลาดแทน
ในแง่ของตัวรถสำหรับ 4008 (และจะเปลี่ยนมาเป็น C4-Crosser สำหรับค่ายซีตรอง) ต้องบอกว่าแม้จะเป็นการยกรถยนต์รุ่นนี้มาขายทั้งคัน แต่ก็ไม่ได้เป็นแบบยกมาแล้วเปลี่ยนแค่โลโก้กับรุ่นรถเท่านั้น แต่ทางเปอโยต์และซีตรองยังลงทุนออกแบบตัวถังด้านหน้าและหลังใหม่เพื่อให้เกิดความแตกต่าง เช่นเดียวกับรายละเอียดภายในห้องโดยสาร
สำหรับ 4008 ถูกส่งออกสู่ตลาดเพื่อเจาะกลุ่มลูกค้าในยุโรปและจีน โดยมุ่งเน้นไปที่รัสเซีย ซึ่งถือว่าเป็นตลาดใหญ่ของเอสยูวีในยุโรป โดย 20% ของตลาดแห่งนี้จะเป็นกลุ่มของเอสยูวี และส่วนใหญ่เป็นตลาดเอสยูวีแบบคอมแพกต์
งานนี้ทางเปอโยต์มีการปรับหน้าตาของตัวรถหลายจุด โดยเฉพาะตัวถังด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนสไตล์การออกแบบให้สอดคล้องกับบุคลิกของรถยนต์รุ่นใหม่ๆ จากค่ายนี้ เช่นเดียวกับด้านท้าย มีการเปลี่ยนทั้งไฟท้าย กันชนท้าย และฝากระโปรงท้ายใหม่หมด
ในด้านมิติตัวถังมีความยาว 4,340 มิลลิเมตร กว้าง 1,768 มิลลิเมตร สูง 1,625 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,670 มิลลิเมตร โดยรุ่นที่จำหน่ายมีแต่แบบตัวถัง 5 ประตูเท่านั้น ส่วนเครื่องยนต์ที่ทำตลาดมีให้เลือก 4 แบบ คือ เบนซิน 1600 ซีซี 115 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และ 2000 ซีซี 150 แรงม้า เลือกได้ระหว่างเกียร์ธรรมดา หรืออัตโนมัติ CVT และดีเซลมีอีก 2 รุ่น คือ 1600 ซีซี 115 แรงม้า จับคู่กับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ และ 1800 ซีซี 150 แรงม้า ที่ใช้เกียร์แบบเดียวกัน อีกทั้งยังมีระบบ Auto Start/Stop ให้เลือกใช้งานด้วย โดยจะสามารถดับเครื่องยนต์อัตโนมัติเมื่อจอดติดอยู่กับที่เพื่อความประหยัดน้ำมัน และจะมีขายกับรุ่นดีเซลทั้ง 2 แบบ และเบนซิน 1600 ซีซี เท่านั้น
ระบบขับเคลื่อนมีขายทั้งแบบ 2 ล้อหน้า และแบบ 4 ล้ออัตโนมัติที่มีโหมด Lock ให้เลือกใช้ด้วย โดยเมื่อเข้าโหมดนี้แล้วแรงบิดของเครื่องยนต์ 50-82% จะถูกถ่ายทอดไปยังล้อหลัง ส่วนในโหมด 4WD ธรรมดาจะมีการกระจายแรงบิดระหว่างล้อหน้ากับหลัง (แต่เน้นไปที่ล้อหน้ามากกว่า) โดยจะสัมพันธ์กับสภาพพื้นผิวถนน
ในยุโรปเปิดตัวและพร้อมทำตลาดแล้ว แต่ทางเปอโยต์ยังไม่ได้บอกว่าจะเปิดออกมาที่เท่าไร ที่แน่ๆ 4008 จะมีขายในหลายประเทศทั่วโลก รวมแล้วมากกว่า 50 ประเทศ และหนึ่งในนั้นจะมีเมืองไทยรวมอยู่ด้วยไหม ต้องรอติดตามดูกันต่อไป