ข่าวในประเทศ-ตงฟง มอเตอร์ส เล็งตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กในไทยรุ่ง ยอมทุ่ม 500 ล้านบาท สร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ตงฟง รวม 3 รุ่น คือ “ตงฟง มินิทรั๊ค”, “ตงฟง มินิแวน” และ “ตงฟง V-Series” โดยรถทั้งหมดจะใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเป็นหลัก คาดยอดขายปีนี้ 3,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 90% จากปี 2554
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ ฉิน ปังซยู ตัวแทนจาก บริษัท ตงฟง หยวน วีฮิเคิล จำกัด พร้อมด้วย พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมลงนามเพื่อการสนับสนุนทางการเงิน แก่ บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ตงฟง ขึ้นในประเทศไทย
โดยการสร้างโรงงานแห่งใหม่นี้ทาง บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจาก ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแก่บริษัทมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางด้านการเงินในการก่อสร้างโรงงานไปจนถึงการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สำหรับลูกค้าในการซื้อรถยนต์จากผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศโดยผ่านทาง บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
ทั้งนี้ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศที่มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับความต้องการรถยนต์ ตงฟง ของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 3,000 คัน ทำให้บริษัทตัดสินใจก่อตั้งโรงงานดังกล่าวขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ตงฟง หยวน วีฮิเคิล จำกัด ในการสร้างโรงงานดังกล่าว
“โรงงานแห่งใหม่จะทำการประกอบรถยนต์ภายใต้ตราสินค้า ตงฟง (DFSK) ทั้งหมด 3 รุ่นประกอบไปด้วย รถกระบะขนาดเล็ก “ตงฟง มินิทรั๊ค” รถตู้เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก “ตงฟง มินิแวน” และ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “ตงฟง V-Series” โดยจะเน้นที่การใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเป็นหลักเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพสินค้าของบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้ดียิ่งขึ้น”
ขณะที่มุมมองต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยปี 2555ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมหลัก 4 อันดับแรกของประเทศไทยโดยคิดเป็นสัดส่วนที่ 10 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ในปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 794,000 คัน โดยเป็นการปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้า (2553) .78% อันเนื่องมาจากการเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปลายปี และการเกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นปี ซึ่งกระทบต่อกำลังการผลิตของอุตสาหกรมยานยนต์เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดีในปี 2555 นี้ ทาง ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวมในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 คัน หรือมีการเติบโตที่ 26% เมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องมาจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น, การเปิดตัวรถใหม่รุ่นต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ในส่วนของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายหลักของ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ในปีที่ผ่านมา ปี 2554 ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 คัน หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 74% โดยในส่วนของยอดขายรถยนต์ ตงฟง เองนั้นมียอดขายทั้งสิ้นกว่า 2,000 คัน และมีการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 127% ซึ่งในปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายรถยนต์ของ ตงฟง จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 90% จากปี 2554
ปัจจัยที่จะสนับสนุนการขายให้ได้ตามเป้านั้นบริษัทได้มุ่งเน้นที่การปรับเปลี่ยนภาพลักษ์ของสินค้าจีนในความคิดของผู้บริโภคไปสู่คุณภาพที่ได้มาตราฐานและบริการที่ดี เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าจีนในความรู้สึกของผู้บริโภค โดยจะมุ่งเน้นที่การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายเป็นหลักเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้แนวคิดของ “การต้อนรับด้วยพรหมแดง” หรือ “Red Carpet” เพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในโชว์รูม ตงฟง รู้สึกว่าตนเองเป็นเสมือนหนึ่งคนพิเศษของ ตงฟง และเดินกลับออกไปพร้อมด้วยความรู้สึกประทับใจในตราสินค้า ตงฟง
นอกจากนั้น บริษัท ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยทางบริษัทได้ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นในประเทศกว่า 40 % ของชิ้นส่วนทั้งหมดเพื่อใช้ในการประกอบรถยนต์ที่โรงงานประกอบแห่งใหม่นี้ รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ให้หลากหลายและครอบคลุมถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่นการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “ตงฟง V-Series” เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไปและกลุ่มลูกค้าแบบครอบครัวที่กำลังมองหารถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน
สำหรับเหตุผลหลักที่มั่นใจและเลือกใช้บริการของธนาคารกสิกรไทยนั้น นอกจากธนาคารกสิกรไทยจะเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่มีความมั่งคงทางการเงินสูงแล้วนั้น ธนาคารกสิกรไทยยังมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและศักยภาพของธุรกิจยานยนต์จากจีนเป็นอย่างดี, การให้บริการและการสนับสนุนแก่ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ, การประสานงานที่ดีจากทีมงานบริการของธนาคารที่ทำให้ทุกขั้นตอนการทำงานของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรที่เข้าใจและมีความรู้สึกร่วมกันในการที่จะช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆและพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันเสมอมา
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด และ ฉิน ปังซยู ตัวแทนจาก บริษัท ตงฟง หยวน วีฮิเคิล จำกัด พร้อมด้วย พัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย ได้ร่วมลงนามเพื่อการสนับสนุนทางการเงิน แก่ บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ในการสร้างโรงงานประกอบรถยนต์ ตงฟง ขึ้นในประเทศไทย
โดยการสร้างโรงงานแห่งใหม่นี้ทาง บริษัท ตงฟง ออโต้โมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงินจาก ธนาคารกสิกรไทย ซึ่งถือเป็นพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนอย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำยันปลายน้ำแก่บริษัทมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นการสนับสนุนทางด้านการเงินในการก่อสร้างโรงงานไปจนถึงการให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์สำหรับลูกค้าในการซื้อรถยนต์จากผู้แทนจำหน่ายทั่วประเทศโดยผ่านทาง บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด
ทั้งนี้ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส ได้เล็งเห็นถึงศักยภาพในการเติบโตของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กในประเทศที่มีการเติบโตขึ้นอย่างมาก ประกอบกับความต้องการรถยนต์ ตงฟง ของลูกค้าที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยมียอดขายรวมทั้งสิ้นแล้วกว่า 3,000 คัน ทำให้บริษัทตัดสินใจก่อตั้งโรงงานดังกล่าวขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท ตงฟง หยวน วีฮิเคิล จำกัด ในการสร้างโรงงานดังกล่าว
“โรงงานแห่งใหม่จะทำการประกอบรถยนต์ภายใต้ตราสินค้า ตงฟง (DFSK) ทั้งหมด 3 รุ่นประกอบไปด้วย รถกระบะขนาดเล็ก “ตงฟง มินิทรั๊ค” รถตู้เพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็ก “ตงฟง มินิแวน” และ รถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “ตงฟง V-Series” โดยจะเน้นที่การใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศเป็นหลักเพื่อเป็นการพัฒนาคุณภาพสินค้าของบริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ให้ดียิ่งขึ้น”
ขณะที่มุมมองต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยปี 2555ซึ่งจัดเป็นอุตสาหกรรมหลัก 4 อันดับแรกของประเทศไทยโดยคิดเป็นสัดส่วนที่ 10 % ของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศไทย (GDP) ในปีที่ผ่านมายอดจำหน่ายรถยนต์ในประเทศทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 794,000 คัน โดยเป็นการปรับตัวลดลงจากปีก่อนหน้า (2553) .78% อันเนื่องมาจากการเกิดน้ำท่วมใหญ่ในปลายปี และการเกิดสึนามิที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อต้นปี ซึ่งกระทบต่อกำลังการผลิตของอุตสาหกรมยานยนต์เป็นอย่างมาก แต่อย่างไรก็ดีในปี 2555 นี้ ทาง ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด คาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายรถยนต์โดยรวมในประเทศจะอยู่ที่ประมาณ 1,000,000 คัน หรือมีการเติบโตที่ 26% เมื่อเทียบกับปี 2554 เนื่องมาจากความต้องการรถยนต์ที่เพิ่มสูงขึ้น, การเปิดตัวรถใหม่รุ่นต่างๆ รวมถึงการสนับสนุนจากภาครัฐบาลเพื่อให้ประเทศไทยยังคงเป็นศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้
ในส่วนของตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายหลักของ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด นั้น ในปีที่ผ่านมา ปี 2554 ตลาดรถเพื่อการพาณิชย์ขนาดเล็กมียอดขายรวมทั้งสิ้นกว่า 6,000 คัน หรือเติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้าประมาณ 74% โดยในส่วนของยอดขายรถยนต์ ตงฟง เองนั้นมียอดขายทั้งสิ้นกว่า 2,000 คัน และมีการเติบโตที่สูงขึ้นจากปีก่อนหน้าถึง 127% ซึ่งในปีนี้ บริษัทคาดว่ายอดขายรถยนต์ของ ตงฟง จะอยู่ที่ประมาณ 3,000 คัน หรือเติบโตขึ้น 90% จากปี 2554
ปัจจัยที่จะสนับสนุนการขายให้ได้ตามเป้านั้นบริษัทได้มุ่งเน้นที่การปรับเปลี่ยนภาพลักษ์ของสินค้าจีนในความคิดของผู้บริโภคไปสู่คุณภาพที่ได้มาตราฐานและบริการที่ดี เพื่อเป็นการยกระดับสินค้าจีนในความรู้สึกของผู้บริโภค โดยจะมุ่งเน้นที่การสร้างความประทับใจให้แก่ลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายเป็นหลักเพื่อให้ลูกค้าเกิดความพึงพอใจสูงสุด ภายใต้แนวคิดของ “การต้อนรับด้วยพรหมแดง” หรือ “Red Carpet” เพื่อให้ลูกค้าทุกคนที่เข้ามาในโชว์รูม ตงฟง รู้สึกว่าตนเองเป็นเสมือนหนึ่งคนพิเศษของ ตงฟง และเดินกลับออกไปพร้อมด้วยความรู้สึกประทับใจในตราสินค้า ตงฟง
นอกจากนั้น บริษัท ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพสินค้าให้ดียิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า โดยทางบริษัทได้ใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้นในประเทศกว่า 40 % ของชิ้นส่วนทั้งหมดเพื่อใช้ในการประกอบรถยนต์ที่โรงงานประกอบแห่งใหม่นี้ รวมไปถึงการเปิดตัวสินค้าใหม่ให้หลากหลายและครอบคลุมถึงความต้องการของลูกค้ากลุ่มต่างๆ ให้มากยิ่งขึ้น เช่นการเปิดตัวรถอเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง “ตงฟง V-Series” เพื่อเป็นการเสนอทางเลือกใหม่ให้แก่กลุ่มลูกค้าบุคคลทั่วไปและกลุ่มลูกค้าแบบครอบครัวที่กำลังมองหารถยนต์อเนกประสงค์ 7 ที่นั่ง สำหรับการใช้ในชีวิตประจำวัน
สำหรับเหตุผลหลักที่มั่นใจและเลือกใช้บริการของธนาคารกสิกรไทยนั้น นอกจากธนาคารกสิกรไทยจะเป็นธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่อันดับต้นๆ ของประเทศไทยที่มีความมั่งคงทางการเงินสูงแล้วนั้น ธนาคารกสิกรไทยยังมีความโดดเด่นในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญและศักยภาพของธุรกิจยานยนต์จากจีนเป็นอย่างดี, การให้บริการและการสนับสนุนแก่ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส (ประเทศไทย) อย่างครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำไปจนถึงปลายน้ำ, การประสานงานที่ดีจากทีมงานบริการของธนาคารที่ทำให้ทุกขั้นตอนการทำงานของบริษัทเป็นไปอย่างราบรื่น รวมไปถึงการเป็นพันธมิตรที่เข้าใจและมีความรู้สึกร่วมกันในการที่จะช่วยกันฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆและพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกัน ซึ่งนี่เป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้เป็นพันธมิตรที่ดีต่อกันเสมอมา
