ข่าวในประเทศ - “ตงฟง” เตรียมลงทุนโรงงานเฟส2 ผลิตรถ “DFSK” ในไทย รองรับเป้าหมายยอดขายพุ่ง 1 หมื่นคัน และเปิดเออีซี(AEC) ในอาเซียน ดันไทยเป็นฐานผลิตหนึ่งเดียวของภูมิภาค ล่าสุดเปิดตัวรถอเนกประสงค์รุ่นใหม่ “V27” เคาะราคาเริ่มต้น 4.99 แสนบาท
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและผลิตรถยนต์ “ดีเอฟเอสเค” (DFSK หรือชื่อเดิม DFM) ของกลุ่มตงฟง มอเตอร์ส จากประเทศจีน เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา รถยนต์ของตงฟงฯ ในไทย ได้รับการตอบรับดี โดยปัจจุบันมียอดจองกว่า 1,500 คัน ซึ่งเกินครึ่งของเป้าหมายการขาย 3,000 ในปีนี้แล้ว และแม้การผลิตรถของโรงงานในไทย จะเพิ่งเริ่มเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับได้แน่นอน โดยตอนนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 400 คันต่อเดือน หรือประมาณ 5,000 คันต่อปี
“ตงฟง มอเตอร์ส ในไทย และบริษัทแม่ที่ประเทศจีน ได้ตั้งเป้าจะต้องมีการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 50% ในช่วง 2-5ปีจากนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าภายในปี 2558 รถยนต์ตงฟง หรือดีเอฟเอสเค จะมียอดขายในไทยไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคัน และเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว รวมถึงการเปิดเสรีในอาเซียน หรือเออีซี(AEC) บริษัทฯ จึงเตรียมพิจารณาที่จะลงทุนโรงงานเฟส 2 ในไทยปีหน้า เพื่อรองรับการเพิ่มยอดขายที่จะมีมากกว่าการผลิตในปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป”
นายพิทยาเปิดเผยว่า ทั้งนี้ยังไม่สรุปว่าจะต้องมีการใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ แต่คาดว่าจะต้องมากกว่าเดิม 2-3 เท่า จากปีที่ผ่านมาได้ลงทุนไปทั้งหมดกว่า 500 ล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนตั้งโรงงาน 109 ล้านบาท ซึ่งไทยเป็นโรงงานผลิตรถของตงฟงฯ 1 ใน 3 แห่ง ที่มีอยู่นอกประเทศจีนทั่วโลก โดยไทยจะเป็นฐานการผลิตรองรับตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบริษัทแม่ในจีนตั้งเป้าจะมียอดขายรวมกว่า 3 หมื่นคัน หลังจากเปิดเสรีอาเซียนภายใน 5 ปี
นอกจากการลงทุนผลิตรถในไทยแล้ว ตงฟงฯ ยังมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายขึ้น จากปัจจุบันจะมีเฉพาะปิกอัพเล็ก และรถตู้เพื่อการพาณิชย์ โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “V27” ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง (Compact MPV) เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 81 แรงม้า ประหยัดน้ำมันด้วยเชื้อเพลิง2 ระบบ น้ำมันเบนซินและก๊าซ LPG ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องเล่นวิทยุ DVD/CD/MP3 จอแอลซีดีฝังหมอนพิงศีรษะเบาะโดยสารคู่หน้าซ้าย/ขวา และสะดวกยิ่งขึ้นด้วยประตูสไลด์ซ้าย-ขวา จึงเหมาะกับคนทั่วไป, กลุ่มธุรกิจ และโรงแรม-รีสอร์ทต่างๆ โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น ราคาตั้งแต่ 4.99-5.43 แสนบาท
พิทยา ธนาดำรงศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตงฟง มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด ผู้แทนจำหน่ายและผลิตรถยนต์ “ดีเอฟเอสเค” (DFSK หรือชื่อเดิม DFM) ของกลุ่มตงฟง มอเตอร์ส จากประเทศจีน เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสแรกที่ผ่านมา รถยนต์ของตงฟงฯ ในไทย ได้รับการตอบรับดี โดยปัจจุบันมียอดจองกว่า 1,500 คัน ซึ่งเกินครึ่งของเป้าหมายการขาย 3,000 ในปีนี้แล้ว และแม้การผลิตรถของโรงงานในไทย จะเพิ่งเริ่มเมื่อต้นปีที่ผ่านมา แต่เชื่อมั่นว่าจะสามารถรองรับได้แน่นอน โดยตอนนี้มีกำลังการผลิตอยู่ที่กว่า 400 คันต่อเดือน หรือประมาณ 5,000 คันต่อปี
“ตงฟง มอเตอร์ส ในไทย และบริษัทแม่ที่ประเทศจีน ได้ตั้งเป้าจะต้องมีการเติบโตปีละไม่ต่ำกว่า 50% ในช่วง 2-5ปีจากนี้ ดังนั้นจึงมั่นใจว่าภายในปี 2558 รถยนต์ตงฟง หรือดีเอฟเอสเค จะมียอดขายในไทยไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นคัน และเพื่อรองรับการเติบโตดังกล่าว รวมถึงการเปิดเสรีในอาเซียน หรือเออีซี(AEC) บริษัทฯ จึงเตรียมพิจารณาที่จะลงทุนโรงงานเฟส 2 ในไทยปีหน้า เพื่อรองรับการเพิ่มยอดขายที่จะมีมากกว่าการผลิตในปัจจุบัน ตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นไป”
นายพิทยาเปิดเผยว่า ทั้งนี้ยังไม่สรุปว่าจะต้องมีการใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ แต่คาดว่าจะต้องมากกว่าเดิม 2-3 เท่า จากปีที่ผ่านมาได้ลงทุนไปทั้งหมดกว่า 500 ล้านบาท และในจำนวนนี้เป็นเงินลงทุนตั้งโรงงาน 109 ล้านบาท ซึ่งไทยเป็นโรงงานผลิตรถของตงฟงฯ 1 ใน 3 แห่ง ที่มีอยู่นอกประเทศจีนทั่วโลก โดยไทยจะเป็นฐานการผลิตรองรับตลาดในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งบริษัทแม่ในจีนตั้งเป้าจะมียอดขายรวมกว่า 3 หมื่นคัน หลังจากเปิดเสรีอาเซียนภายใน 5 ปี
นอกจากการลงทุนผลิตรถในไทยแล้ว ตงฟงฯ ยังมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ให้หลากหลายขึ้น จากปัจจุบันจะมีเฉพาะปิกอัพเล็ก และรถตู้เพื่อการพาณิชย์ โดยล่าสุดได้มีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ “V27” ซึ่งเป็นรถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 7 ที่นั่ง (Compact MPV) เครื่องยนต์ 1.3 ลิตร 81 แรงม้า ประหยัดน้ำมันด้วยเชื้อเพลิง2 ระบบ น้ำมันเบนซินและก๊าซ LPG ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก อาทิ เครื่องเล่นวิทยุ DVD/CD/MP3 จอแอลซีดีฝังหมอนพิงศีรษะเบาะโดยสารคู่หน้าซ้าย/ขวา และสะดวกยิ่งขึ้นด้วยประตูสไลด์ซ้าย-ขวา จึงเหมาะกับคนทั่วไป, กลุ่มธุรกิจ และโรงแรม-รีสอร์ทต่างๆ โดยมีทั้งหมด 3 รุ่น ราคาตั้งแต่ 4.99-5.43 แสนบาท
