ส.ว.แฉรถถูกน้ำท่วมนับหมื่นคัน เตรียมทะลักเข้าสู่ตลาดรถมือสอง จากจำนวนทั้งหมดที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมกว่า 5 หมื่นคัน เผยบริษัทประกันภัยนำรถเหล่านี้มาเปิดประมูลขาย ปล่อยให้นำไปย้อมแมวซ่อมให้มีสภาพดี ก่อนส่งไปขายในท้องตลาด ตอนนี้มีประชาชนผู้ซื้อรถมือสองถูกหลอกให้ซื้อแล้ว ปรากฏอาการรถสามวันดีสี่วันเสีย จี้รัฐบาลและสคบ.หาทางควบคุมและแก้ปัญหาด่วน ด้านบริษัทประกันยันเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ ที่มีการนำรถคืนทุนประกันจากลูกค้าออกประมูลขายซากรถ ไม่ว่าจะเป็นจากกรณีเกิดอุบัติเหตุหรือถูกน้ำท่วม เพื่อให้อู่ซ่อมหรือเต้นท์รถ นำไปซ่อมแซมกลับสู่สภาพใกล้เคียงเดิม ขายเป็นรถมือสอง หรือแยกชิ้นส่วนขาย เชื่อมั่นรถจมน้ำยังดีกว่ารถอุบัติเหตุยับทั้งคัน ขณะที่หลายหน่วยงานเตือนประชาชนให้ระวัง พร้อมแนะนำวิธีดูรถมือสองที่ถูกน้ำท่วม
สถานการณ์มหาอุทกภัยในไทย ปัจจุบันคลี่คลายไปมากแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของย่านที่อยู่อาศัย ขณะที่ความเสียหายของทรัพย์สิน ยังคงเหลือร่องรอยและใช้เวลาสักพัก ในการฟื้นฟูซ่อมแซมและเปลี่ยนใหม่ แต่บางอย่างก็เป็นปัญหาตามหา อย่างเรื่องของรถยนต์ที่ถูกน้ำท่วม หรือจมในน้ำเป็นเวลานาน จนไม่สามารถรับภาระซ่อมได้ ต้องยอมขายซากทิ้ง รวมถึงรถที่คืนทุนประกันภัยชั้น 1 ว่ากันว่ารถยนต์ที่ถูกน้ำท่วมเหล่านี้มีหลายหมื่นคัน และถูกนำมาซ่อมแซมใหม่ เพื่อเข้าสู่วงจรตลาดรถมือสอง โดยเฉพาะในช่วงเวลาหลังจากน้ำลด 2-3 เดือนจากนี้ไป โอกาสที่ผู้ซื้อรถมือสองจะถูกหลอกให้ซื้อรถจมน้ำ จะกลายเป็นอีกปัญหาใหญ่ในสังคมแน่นอน...
ปล่อยรถน้ำท่วมย้อมแมวขาย
“ขณะนี้กำลังมีการหลอกลวงผู้บริโภคที่ซื้อรถมือสองเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่ผ่านมา มีปริมาณรถถูกน้ำท่วมมากกว่า 5 หมื่นคัน และในจำนวนนี้มีรถที่ทำประกันภัยประมาณ 1.7 หมื่นคัน ซึ่งบริษัทประกันได้รับเอาไป โดยรถเหล่านี้ไม่คุ้มในการซ่อม จึงได้เปิดให้มีการประมูลรถที่ถูกน้ำท่วม เพื่อนำไปซ่อมแล้วขายในท้องตลาด และประชาชนที่ซื้อรถดังกล่าวมาแล้ว ได้ร้องเรียนว่ารถมีอาการสามวันดีสี่วันเสีย”
เป็นการเปิดเผยของ “วันชัย สอนสิริ” สมาชิกวุฒิสภา หรือส.ว.สรรหา ช่วงก่อนเข้าสู่วาระการประชุมของวุฒิสภา เมื่อวันจันทร์ที่ 6 ก.พ.ที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า จากการสืบเรื่องพบเป็นรถที่ถูกน้ำท่วมมา สิ่งที่เกิดขึ้นจึงถือเป็นการปกปิดข้อมูลข้อเท็จจริง ส่งผลให้ผู้บริโภคเสียเปรียบ และจากการตรวจสอบขณะนี้กำลังมีการซ่อมรถเป็นหมื่นๆ คัน
“เรื่องนี้รัฐบาล และโดยเฉพาะสำนักคณะกรรมการคุ้มครอบผู้บริโภค หรือสคบ. จะต้องหาทางแก้ไขตัดไฟแต่ต้นลม เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับความเสียหาย โดยประชาชนต้องได้รับข้อมูลข่าวสารและคุ้มครอง ไม่ให้มีการนำรถที่ถูกน้ำท่วมมาขายในท้องตลาด”
ก่อนหน้านี้กรมการขนส่งทางบก ได้ออกมาเตือนผู้บริโภคที่กำลังจะซื้อรถมือสอง ให้ระวังรถที่ถูกน้ำท่วมมา อาจจะเกิดปัญหาตามมาภายหลังได้ โดยเฉพาะรถที่บริษัทประกันภัยขายผ่าน ซึ่งรับรถคืนมาจากการประกันภัย จะมีด้วยกัน 2 กรณี คือ รถที่น้ำท่วม และรถเกิดอุบัติเหตุ จนไม่สามารถซ่อมได้ และนอกจากนี้ยังมีรถจากกรณีดังกล่าว แต่เจ้าของรถขายเองผ่านเต้นท์รถเป็นต้น
บ.ประกันยันเรื่องปกติธุรกิจ
เกี่ยวกับเรื่องนี้ “ASTV มอเตอริ่ง” ได้รับข้อมูลจากบริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด ค่ายประกันภัยรถยนต์อันดับหนึ่งของไทยว่า การนำรถที่คืนทุนประกันภัย หรือรถยนต์ที่เสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ไม่สามารถซ่อมได้ มาเปิดประมูลขายทอดสู่ตลาดตามช่องทางต่างๆ เป็นเรื่องปกติของธุรกิจประกันภัย ทุกบริษัทประกันภัยทำเหมือนกันหมด แต่ที่ผ่านมาจะเป็นรถที่เกิดอุบัติเหตุเสียส่วนใหญ่
“เพียงแต่ช่วงนี้รถจำนวนมากที่คืนทุนประกันภัย มาจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ที่ผ่านมา ซึ่งธรรมดาการจัดการรถคืนทุนประกัน ไม่ว่าจะเป็นกรณีไหน บริษัทประกันจะเปิดประมูลขายซากรถ หรือไม่ก็นำมาซ่อมใช้งานในองค์กร หรือขายนำไปเป็นรถเช่า”
ส่วนรถที่ถูกขายซากไป ผู้มาประมูลอาจจะเป็นองค์กร บริษัท เต้นท์รถ อู่ซ่อมรถ หรือในนามบุคคล จะนำไปซ่อมแซมให้มีสภาพกลับมาใช้งานใกล้เคียงปกติ เพื่อนำไปขายเป็นรถใช้แล้ว ผ่านเต้นท์รถ หรือรถให้เช่า ขณะที่รถที่ไม่สามารถนำไปซ่อมได้จะถูกแยกขายเป็นชิ้นส่วน ซึ่งกระบวนการดังกล่าวถือเป็นปกติของการทำธุรกิจที่ผ่านมา ไม่เฉพาะรถที่ถูกน้ำท่วมมาเท่านั้น
สำหรับวิริยะประกันภัยมีลูกค้าที่ทำประกันภัยชั้น 1 ซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม ได้ยื่นเรื่องเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนมาประมาณ 7 พันราย มูลค่าสินไหมทดแทนรวมเกือบ 1 พันล้านบาท โดยในจำนวนดังกล่าวมีลูกค้าที่รถถูกน้ำท่วมเสียหายหนัก จนไม่น่าจะซ่อมให้กลับมาสภาพดีเหมือนเดิมได้ ยอมรับทุนประกันคืนประมาณ 1.5 พันคัน ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่คาดไว้เดิม ซึ่งน่าจะมีประมาณ 2 พันคัน เนื่องจากลูกค้าไม่ยอมรับอยากจะให้ซ่อมมากกว่า และอาจจะรู้สึกที่จ่ายเงินต้น ดอกเบี้ย และค่าดาวน์ไป ไม่คุ้มกับเงินที่ได้จากคืนทุนประกันภัย(80% ของมูลค่ารถ)
ในส่วนของผู้บริโภคที่ซื้อรถมือสองช่วงนี้ หรือจากนี้ไปคงต้องตรวจสอบรถให้ดี หรือให้ผู้เชี่ยวชาญไปช่วยดู เพราะคงมีรถถูกน้ำท่วมออกสู่ตลาดในปริมาณมากแน่ๆ แต่หากเทียบกับรถที่เกิดอุบัติทั้งคัน ขาดเป็นสองท่อน หรือยับทั้งคัน กรณีของรถน้ำท่วมยังถือว่าดีและน่าใช้กว่า
แนะผู้บริโภคตรวจสภาพก่อนซื้อ
โดยการตรวจสอบรถที่ถูกน้ำท่วม วิริยะประกันภัยระบุว่า จริงๆ แล้วดูไม่ยากเท่าไหร่ ให้ตรวจสอบชิ้นส่วนต่างๆ จะมีร่องรอยของตัวเลข หรือรหัส ที่เขียนด้วยสีตกค้างอยู่ เพราะรถน้ำท่วมจะถูกถอดแยกออกไปล้าง และซ่อมแซม จึงต้องเขียนรหัสไว้ เวลาประกอบกลับ และรถน้ำท่วมจะมีกลิ่นอับติดค้างอยู่ รวมถึงร่องรอยคราบที่ยังเหลือตกค้าง ในจุดทำความสะอาดยากๆ ขณะที่การตรวจสอบทะเบียน หรือประวัติเป็นเรื่องยาก เพราะบางทีก็จดทะเบียนใหม่
ทางด้าน เอกพิทยา เอี่ยมคงเอก กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สหการประมูล จำกัด กล่าวแนะนำในการเลือกซื้อรถยนต์มือสองในช่วงหลังวิกฤตน้ำท่วมครั้งใหญ่ว่า ผู้บริโภคจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียด โดยเฉพาะกับการซื้อรถยนต์กับเต็นท์รถที่เพิ่งตั้งใหม่ ซื้อกับตัวแทนขายทั่วไป หรือซื้อกับเจ้าของรถเอง ต้องดูว่าราคาถูกจนผิดปกติหรือไม่ ซึ่งหากถูกเกินไปต้องมีการสอบถามว่าเป็นรถจมน้ำ ที่นำมาซ่อมแซมใหม่หรือไม่
