จีเอ็มเทคโอเวอร์กิจการของโฮลเด้นในปี 1931 และนั่นทำให้ผลผลิตของทั้ง 2 แบรนด์มีความใกล้ชิดกันมากขึ้นนับตั้งแต่นั้นมาแม้ว่าจะทำตลาดคนละซีกโลกก็ตาม โดยความใกล้ชิดนี้ไม่ได้ส่งผ่านมายังรถยนต์ที่ทำตลาดเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรถยนต์ต้นแบบอีกด้วย อย่างรุ่นเฮอร์ริเคนที่เปิดตัวในปี 1969 ซึ่งถือเป็นต้นแบบรุ่นแรกของค่ายโฮลเด้นอีกด้วย
เฮอร์ริเคนได้รับการยอมรับว่าเป็นต้นแบบที่มีความสวยสปอร์ตและโฉบเฉี่ยว แถมยังล้ำสมัยมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาที่ถูกเปิดตัวออกสู่ตลาด โดยจากรูปทรงและรายละเอียดในการออกแบบนั้นได้รับแรงบันดาลใจมากจากบรรดาต้นแบบสุดล้ำของเครือจีเอ็มที่มีฮาร์ลีย์ เอิร์ลเป็นหัวหน้าทีมออกแบบในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2
ตัวรถมากับความสปอร์ตด้วยแนวคิดการออกแบบที่เรียกว่า Wedge Design ซึ่งเมื่อมองจากทางด้านข้างแล้วจะเหมือนกับทรงลิ่ม เพื่อความเพรียมลมในการทะยานแหวกอากาศ และตัวรถมีความสูงเพียง 999 มิลลิเมตรเท่านั้น และใช้เลย์เอาท์แบบสปอร์ตเครื่องยนต์วางอยู่กลางลำและขับเคลื่อนล้อหลัง
จุดเด่นของตัวรถอยู่ที่การออกแบบประตูให้มีลักษณะรวมชุดเป็นหนึ่งเดียวกับกระจกบังลมหน้า คล้ายกับฝาครอบค็อกพิตของเครื่องบินขับไล่ และเมื่อเปิดออกก็จะดันตัวไปทางด้านหน้า ส่วนด้านท้ายจะเป็นฝากระโปรงหลังซึ่งครอบลงบนเครื่องยนต์ ซึ่งจะเปิดออกโดยดันไปทางด้านหลังเหมือนกับสปอร์ตเครื่องยนต์วางกลางทั่วไป
หน้าที่ในการขับเคลื่อนตัวรถเป็นงานของขุมพลังวี8 ที่มีความจุ 4,200 ซีซี หรือ 253 ลูกบาศก์นิ้ว ของโฮลเด้น โดยเครื่องยนต์บล็อกนี้ได้รับการพัฒนาให้มีอัตราส่วนการอัดสูง และรีดกำลังออกมาได้ 259 แรงม้า
ในแง่ของอะไรๆ ที่ไฮเทค (สำหรับยุคนั้น) ถูกติดตั้งอยู่ในตัวรถ ก็มีทั้งระบบที่เรียกว่า Pathfinder ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของ GPS และระบบนำทางในรถยนต์ยุคนี้ โดยมาพร้อมกับหน้าจอแสดงผลแบบดิจิตอล และระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติที่เรียกว่า Comfortron ระบบวิทยุซึ่งหาคลื่นอัตโนมัติ และกล้องมองหลังแสดงผลผ่านทางโทรทัศน์วงจรปิด หรือ CCTV ที่ติดตั้งอยู่ตรงแผงคอนโซลกลาง
ด้วยความโดดเด่นในฐานะที่เป็นต้นแบบรุ่นแรกของโฮลเดนดังนั้นในปี 2006 ซึ่งเป็นช่วงเวลาของการฉลองครอบ 37 ปีของการเปิดตัว ทางโฮลเดนได้นำมาบูรณะใหม่ และนำออกแสดงอีกครั้งในงานโชว์ที่เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย เพื่อเป็นการย้ำเตือนถึงยุครุ่งเรืองของโฮลเด้น