เจนเนอรัล มอเตอร์ส สร้างความน่าตื่นตาตื่นใจให้กับงานมอเตอร์โชว์ที่ดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ซึ่งมีขึ้นระหว่างวันที่ 10-14 พฤศจิกายนนี้ ด้วยการนำรถยนต์หลากรุ่นหลายแบบมาอวดโฉมในงานนี้ โดยนอกจากดาวเด่นของงานอย่างรุ่นเทรลเบลเซอร์ ที่เปิดตัวเป็นครั้งแรกของโลกที่งานนี้แล้ว ก็ยังมีรถยนต์ใหม่ๆ หลายรุ่น หลากแบบหลายสไตล์ เพื่อเป็นการเฉลิมฉลองในวาระครบรอบ 100 ปีของแบรนด์เชฟโรเลต
ผลผลิตที่ว่าก็มีทั้งโคโลราโด แรลลี่ โชว์ ทรัค กับการนำรุ่น 4 ประตูของโคโลราโดมาเสริมความดุดัน ซึ่งต้นแบบรุ่นนี้เคยอวดโฉมมาแล้วในงานบัวโนส ไอเรสต์ มอเตอร์โชว์ 2011 ที่อาร์เจนตินา โดยจุดเด่นของตัวรถคือ การแสดงให้เห็นถึงอีกมุมมองหนึ่งของโคโลราโดในคราบของตัวแข่งทางฝุ่นที่มาพร้อมความดุดัน และสมรรถนะในการขับเคลื่อน
ขณะที่ล้อแม็กวงโตมีขนาด 18 นิ้ว พร้อมยาง Mud Terrain และระบบช่วงล่างสามารถปรับระดับความสูงเพิ่มจากเดิมได้อีก 50 มิลลิเมตร พร้อมวินซ์ขนาด 5.5 แรงม้าและเคเบิ้ลแบบ Aeronautic ที่มีความยาว 23 เมตร ส่วนเครื่องยนต์เป็นบล็อก 2,800 ซีซี เทอร์โบซึ่งไม่ได้มีการเปิดเผยว่ามีการปรับแรงม้าแรงบิดจากเดิมขึ้นมากน้อยแค่ไหน โดยที่การขับเคลื่อนมาในแบบ 4 ล้อเพื่อพร้อมลุยในทุกเส้นทาง
นอกจากนั้นในส่วนของเชฟโรเลตเองดูจะเป็นแบรนด์หลักของจีเอ็มในงานนี้ เพราะมีการนำบรรดารถยนต์นั่งมาเปิดตัวหลายรุ่น เช่น การเผยโฉมเป็นครั้งแรกในภูมิภาคนี้ของ D-Car หรือรถยนต์ครอบครัวรุ่นมาลิบู โดยจะมีระดับตลาดในคลาสเดียวกับฮอนด้า แอคคอร์ด และโตโยต้า คัมรี่ ซึ่งทางเชฟโรเลตวางให้รถยนต์รุ่นนี้เป็นโมเดลหลักต่อจากอาวีโอ และครูซในการเจาะตลาดทั่วโลก โดยในตอนนี้มาลิบูกำลังทำตลาดสหรัฐอเมริกาและจีน จากนั้นจะมีการส่งขายในตลาดแห่งอื่นๆ ทั่วโลกด้วย
ในรุ่นนี้ถือเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 8 ของมาลิบูนับจากเปิดตัวครั้งแรกในปี 1964 ซึ่งในรุ่นใหม่นี้ได้รับการพัการทำตลาดฒนาบนพื้นตัวถัง Epsilon II และวางเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2,500 ซีซี 182 แรงม้าเป็นขุมพลังในการขับเคลื่อน ส่วนในตลาดอย่างยุโรปคาดว่าน่าจะมีเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลเป็นอีกทางเลือกใน
อีกรุ่นเป็นความสปอร์ตสุดเร้าใจของซูเปอร์คาร์อย่างคอร์เว็ตต์ ซึ่งมาพร้อมกับรุ่น SE-Special Edition ในวาระฉลองครบรอบ 100 ปีของการก่อตั้งแบรนด์เชฟโรเลต หรือที่เรียกว่า Centennial Edition กรุ่นกลิ่นอายของความสปอร์ตเร้าใจที่เหนือระดับจากรุ่นปกติด้วยการตกแต่งรอบคันเพื่อให้สมกับเป็นรุ่นพิเศษ พร้อมกับสีตัวถังแบบพิเศษที่เรียกว่า Carbon Flash Metallic ประกบกับล้อแม็กสีดำ และคาลิเปอร์เบรกสีแดง โดยในรุ่นนี้มีการติดตั้งระบบช่วงล่างปรับระดับความหนืดของโช้กอัพได้ด้วยสนามแม่เหล็กไฟฟ้า หรือที่เรียกว่า Magnetic Selective Ride Control มาให้เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน
ในเวอร์ชันนี้มีขายครอบคลุมรุ่นย่อยของคอร์เว็ตต์ ไม่ว่าจะเป็นรุ่น Grand Sport ซึ่งใช้เครื่องยนต์วี8 6,200 ซีซี 430 แรงม้า รุ่น Z06 เครื่องยนต์วี8 7,000 ซีซี 503 แรงม้า และรุ่น ZR1 เครื่องยนต์วี8 6,200 ซีซี ซูเปอร์ชาร์จ 638 แรงม้า
ส่วนอีกคันที่มาจัดแสดงคู่กันเป็นเวอร์ชันฉลองครบรอบ 45 ปีของสปอร์ตรุ่นคามาโร ซึ่งเป็นการจับเอาเจ้าบัมเบิ้ลบีจากเรื่อง Transformers มาเพิ่มความเร้าใจในด้านภาพลักษณ์รวมถึงการเค้นสมรรถนะของเครื่องยนต์วี6 3,600 ซีซีแบบไดเร็กต์อินเจ๊กชั่นให้มีมัดกล้ามเพิ่มขึ้น ตามด้วยการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างให้สปอร์ตขึ้น และใช้สีตัวถังแบบเดียวกับรุ่นฉลอง 100 ปี และทั้ง 2 รุ่นพร้อมวางขายในตลาดตะวันออกกลางอย่างแน่นอน
ในกลุ่มของปิกอัพและรถยนต์อเนกประสงค์รุ่นอื่นๆ ที่บริษัทในเครือจีเอ็มนำมาเปิดตัวในงานนี้และถือเป็นอีกดาวเด่นคือ จีเอ็มซี เซียร์รา เอชดี ที่หมายถึง Heavy Duty ไม่ใช่ Hi-Def
โดยเป็นการนำปิกอัพรุ่นเซียร์รามาปรับลุ๊คให้พร้อมลุยงานหนักทั้งการลุยด้วยการยกสูง และรองรับกับการบรรทุกหนัก โดยมีการยืดความกว้างช่วงล้อทั้งเพลาหน้าและหลังอีก 1,853 มิลลิเมตร ขณะที่ตัวถังโดนยกสูงอีก 76 มิลลิเมตรเพื่อเพิ่มพื้นที่ว่างใต้ท้องรถ ตามด้วยล้อแม็กแม็กลายสวยและยางพร้อมลุยขนาด 35 นิ้วจาก BF Goodrich
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ยังเป็นแค่รุ่นต้นแบบสำหรับจัดแสดงแต่จีเอ็มซียืนยันว่าจะมีผลิตขายแน่นอน เพียงแต่ว่าในแบบ Production Version จะดูสวยและดุดันขนาดนี้หรือไม่
