ASTV ผู้จัดการรายวัน – จีเอ็มส่งปิกอัพ “เชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่” สู่ตลาดไทยแห่งแรกในโลก มั่นใจช่วยผลักดันยอดขายพุ่ง ครองแชร์ 10% ภายในปี 2013 ตอกย้ำความเชื่อมั่นลูกค้า เป็นรายแรกที่รถเข้าตรวจเช็กทุก 2 หมื่นกม. ฟุ้งค่าบำรุงรักษาต่ำ ระยะทาง 1 แสนกม.แรก จ่ายไม่เกิน 2 หมื่นบาท ขณะที่ “โตโยต้า” มองโครงการรถคันแรกหากมาแรง เจรจาบริษัทแม่เพิ่มกำลังการผลิต 20% พร้อมเดินหน้ารุกฉลองก้าวสู่ 50 ปีในไทย
นายมาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม(GM) ในประเทศไทย และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่ ซึ่งจะแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ไทยนับเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวปิกอัพรุ่นนี้ หลังจากได้ลงทุนพัฒนามูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท (2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในระยะเวลา 5 ปี โดยได้รับการพัฒนาใน 5 ทวีป เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
“ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของปิกอัพโคโลราโด และเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ในโลก โดยจะมีส่วนสำคัญผลักดันให้สัดส่วนการขายรถยนต์เชฟโรเลตในไทย หรือส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2013 ซึ่งนอกจากโคโลราโดใหม่แล้ว นอกจากนี้ยังจะมีรถรุ่นใหม่ๆ แนะนำสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย”
นายแอพเฟลกล่าวว่า ภายในปีนี้จะผลิตปิกอัพโคโลราโดใหม่ประมาณ 12,000 คัน ซึ่งนอกจากเปิดตัวขายในไทยแล้ว จะมีเริ่มส่งออกทันทีภายในภูมิภาคอาเซียน และจากนั้นจะส่งออกไป 60 ประเทศทั่วโลก โดยสัดส่วนการผลิตรองรับในไทยและส่งออกเท่าๆ กัน ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งการผลิตเพื่อให้ส่งมอบรถกับลูกค้าได้ทันที เมื่อถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 17 ตุลาคมนี้
“ปิกอัพโคโลราโดใหม่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวถังที่มีขนาดใหญ่ เทคโนโลยีทันสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ที่สำคัญเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ตระกูลดูราแม็กซ์ ซึ่งที่สหรัฐอเมริการให้การยอมรับในเรื่องของความทนทานและแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเป็นยี่ห้อแรกที่เข้าตรวจเช็กทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 10,000 กิโลเมตร ทำให้มีค่าบำรุงรักษาระยะ 100,000 กิโลเมตรแรก มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาไม่เกิน 20,000 บาท”นายแอพเฟลกล่าว
โดยเชฟโรเลต โคโลราโด ที่เปิดตัวขายในไทยมีทั้งหมด 26 รุ่นย่อย ด้วยรูปแบบตัวถังให้เลือก 3 แบบ เป็นรุ่นกระบะตอนเดียว หรือซิงเกิลแค็บ รุ่นแค็บเปิดได้ หรือเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ และรุ่นัครูว์-แค็บแบบ 4 ประตู พร้อมกับมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อม และ 4 ล้อ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยระบบเบรกเอบีเอส(ABS) ระบบกระจายแรงเบรก(EBD) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TSC ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว(ESC) และระบบรองรับเบรกกะทันหัน(PBA) เป็นต้น
สำหรับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งในเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ มีให้เลือก 2 ขนาด เป็นเครื่องดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และแรงบิด 440 นิวตัน-เมตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร โดยราคาจำหน่ายในรุ่น 2.5 ลิตร เริ่มต้น 5.37- 8.08 แสนบาท ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร จะเปิดราคาวันขายเป็นทางการในวันที่ 17 ตุลาคมนี้
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสที่โตโยต้าจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 50 ปี ในปี 2555 บริษัทเตรียมสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้ง ด้านผลิตภัณฑ์ บริการ การดำเนินธุรกิจ และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้สโลแกน “50 ปี โตโยต้า ร่วมทางตลอดมา เคียงข้างตลอดไป”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์บริษัทเตรียมนำ เทคโนโลยี Toyota Smart G-Book ที่รวมระบบนำทาง ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ และระบบสื่อสารภายในรถเข้าไว้ด้วยกัน ผ่าน Smart Phone ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปีหน้า ด้านดำเนินธุรกิจบริษัทเตรียมเปิด ต้นแบบโชว์รูมเพื่อสิ่งแวดล้อม 5 แห่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี และกรุงเทพ ที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการใช้พลังงาน และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
สุดท้ายในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม โดยสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบภายในองค์กร ขยายไปสู่ชุมชนรอบข้าง และออกไปยังทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายของโตโยต้า โดยมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและด้านสิ่งแวดล้อม
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลจะทำให้ตลาดรถยนต์คึกคัก แต่ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ปรับเป้าหมายการขายปีนี้ที่ตั้งไว้ 360,000 คัน จากตลาดรวม 900,000 คัน ขณะเดียวกันด้วยกำลังการผลิตที่ค่อนข้างแน่น บริษัทเริ่มเจรจากับบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น ถึงแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 20% ในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและส่งออกที่เพิ่มขึ้น
นายมาร์ติน แอพเฟล ประธานกรรมการ ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บริษัท เจนเนอรัล มอเตอร์ส(ประเทศไทย) จำกัด หรือจีเอ็ม(GM) ในประเทศไทย และบริษัท เชฟโรเลต เซลส์(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า การเปิดตัวปิกอัพเชฟโรเลต โคโลราโด โฉมใหม่ ซึ่งจะแนะนำสู่ตลาดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 ตุลาคมนี้ ไทยนับเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวปิกอัพรุ่นนี้ หลังจากได้ลงทุนพัฒนามูลค่ากว่า 60,000 ล้านบาท (2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ) ในระยะเวลา 5 ปี โดยได้รับการพัฒนาใน 5 ทวีป เพื่อตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้ามากกว่า 60 ประเทศทั่วโลก
“ไทยเป็นฐานการผลิตสำคัญของปิกอัพโคโลราโด และเป็นประเทศแรกที่เปิดตัวรถรุ่นนี้ในโลก โดยจะมีส่วนสำคัญผลักดันให้สัดส่วนการขายรถยนต์เชฟโรเลตในไทย หรือส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มเป็น 10% ภายในปี 2013 ซึ่งนอกจากโคโลราโดใหม่แล้ว นอกจากนี้ยังจะมีรถรุ่นใหม่ๆ แนะนำสู่ตลาดอย่างต่อเนื่องด้วย”
นายแอพเฟลกล่าวว่า ภายในปีนี้จะผลิตปิกอัพโคโลราโดใหม่ประมาณ 12,000 คัน ซึ่งนอกจากเปิดตัวขายในไทยแล้ว จะมีเริ่มส่งออกทันทีภายในภูมิภาคอาเซียน และจากนั้นจะส่งออกไป 60 ประเทศทั่วโลก โดยสัดส่วนการผลิตรองรับในไทยและส่งออกเท่าๆ กัน ซึ่งตอนนี้กำลังเร่งการผลิตเพื่อให้ส่งมอบรถกับลูกค้าได้ทันที เมื่อถึงวันเปิดตัวอย่างเป็นทางการ 17 ตุลาคมนี้
“ปิกอัพโคโลราโดใหม่ได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพที่ดี ไม่ว่าจะเป็นตัวถังที่มีขนาดใหญ่ เทคโนโลยีทันสมัย และอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบ ที่สำคัญเครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรลใหม่ตระกูลดูราแม็กซ์ ซึ่งที่สหรัฐอเมริการให้การยอมรับในเรื่องของความทนทานและแข็งแกร่ง ดังนั้นจึงเป็นยี่ห้อแรกที่เข้าตรวจเช็กทุกๆ 20,000 กิโลเมตร ซึ่งปกติจะอยู่ที่ 10,000 กิโลเมตร ทำให้มีค่าบำรุงรักษาระยะ 100,000 กิโลเมตรแรก มีค่าใช้จ่ายบำรุงรักษาไม่เกิน 20,000 บาท”นายแอพเฟลกล่าว
โดยเชฟโรเลต โคโลราโด ที่เปิดตัวขายในไทยมีทั้งหมด 26 รุ่นย่อย ด้วยรูปแบบตัวถังให้เลือก 3 แบบ เป็นรุ่นกระบะตอนเดียว หรือซิงเกิลแค็บ รุ่นแค็บเปิดได้ หรือเอ็กซ์เทนเดด-แค็บ และรุ่นัครูว์-แค็บแบบ 4 ประตู พร้อมกับมีให้เลือกทั้งระบบขับเคลื่อน 2 ล้อม และ 4 ล้อ พร้อมอุปกรณ์ความปลอดภัยระบบเบรกเอบีเอส(ABS) ระบบกระจายแรงเบรก(EBD) ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TSC ระบบควบคุมเสถียรภาพการทรงตัว(ESC) และระบบรองรับเบรกกะทันหัน(PBA) เป็นต้น
สำหรับเครื่องยนต์ที่ติดตั้งในเชฟโรเลต โคโลราโด ใหม่ มีให้เลือก 2 ขนาด เป็นเครื่องดูราแม็กซ์ 2.8 ลิตร เทอร์โบแปรผัน 180 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 470 นิวตัน-เมตร ในรุ่นเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ และแรงบิด 440 นิวตัน-เมตร รุ่นเกียร์ธรรมดา 5 จังหวะ และรุ่นเครื่องยนต์ดีเซล 2.5 ลิตรเทอร์โบ 150 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 350 นิวตัน-เมตร โดยราคาจำหน่ายในรุ่น 2.5 ลิตร เริ่มต้น 5.37- 8.08 แสนบาท ส่วนรุ่นเครื่องยนต์ 2.8 ลิตร จะเปิดราคาวันขายเป็นทางการในวันที่ 17 ตุลาคมนี้
นายเคียวอิจิ ทานาดะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ในโอกาสที่โตโยต้าจะดำเนินธุรกิจในประเทศไทยครบรอบ 50 ปี ในปี 2555 บริษัทเตรียมสร้างสรรค์กิจกรรมในรูปแบบต่างๆ ทั้ง ด้านผลิตภัณฑ์ บริการ การดำเนินธุรกิจ และการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ภายใต้สโลแกน “50 ปี โตโยต้า ร่วมทางตลอดมา เคียงข้างตลอดไป”
ในส่วนของผลิตภัณฑ์บริษัทเตรียมนำ เทคโนโลยี Toyota Smart G-Book ที่รวมระบบนำทาง ระบบแจ้งเตือนการขับขี่ และระบบสื่อสารภายในรถเข้าไว้ด้วยกัน ผ่าน Smart Phone ซึ่งจะเริ่มใช้ภายในปีหน้า ด้านดำเนินธุรกิจบริษัทเตรียมเปิด ต้นแบบโชว์รูมเพื่อสิ่งแวดล้อม 5 แห่ง ที่จังหวัดนครราชสีมา อุบลราชธานี และกรุงเทพ ที่จะใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการใช้พลังงาน และเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของประเทศไทย
สุดท้ายในส่วนกิจกรรมเพื่อสังคม โดยสร้างจิตสำนึกความรับผิดชอบภายในองค์กร ขยายไปสู่ชุมชนรอบข้าง และออกไปยังทั่วประเทศ ผ่านเครือข่ายของโตโยต้า โดยมุ่งเน้นด้านความปลอดภัยบนท้องถนนและด้านสิ่งแวดล้อม
นายวิเชียร เอมประเสริฐสุข รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า จากนโยบายรถยนต์คันแรกของรัฐบาลจะทำให้ตลาดรถยนต์คึกคัก แต่ตอนนี้บริษัทยังไม่ได้ปรับเป้าหมายการขายปีนี้ที่ตั้งไว้ 360,000 คัน จากตลาดรวม 900,000 คัน ขณะเดียวกันด้วยกำลังการผลิตที่ค่อนข้างแน่น บริษัทเริ่มเจรจากับบริษัทแม่ประเทศญี่ปุ่น ถึงแผนขยายกำลังการผลิตเพิ่ม 20% ในปีหน้า เพื่อรองรับความต้องการในประเทศและส่งออกที่เพิ่มขึ้น
