ข่าวในประเทศ - ค่าย “ฮอนด้า” ยืนยันยังเชื่อมั่นและไม่ทิ้งประเทศไทย แม้จะจมมิดบาดาลจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ ประกาศพร้อมทุ่มเต็มที่ ให้กลับมาดำเนินการผลิตเร็วที่สุด เพราะถือเป็นภารกิจหลักของฮอนด้า แม้จะยอมควักหนักเพื่อเปลี่ยนเครื่องจักรใหม่แทนซ่อม ประเมินหลังน้ำลดเข้าฟื้นฟูได้ต้องใช้เวลาไม่ต่ำกว่าเป็นเดือน ขณะที่สื่อดังญี่ปุ่นรายงานคาดต้องปิดโรงงานยาวถึง 6 เดือน กระทบการผลิตเป็นแสนคัน และแน่นอนหากเป็นเช่นนี้ย่อมส่งผลต่อกิจกรรมการตลาด โดยเฉพาะการเปิดตัวรถใหม่รุ่นต่างๆ รวมถึง “ฮอนด้า ซีวิค” โฉมใหม่ที่จะเปิดตัวในสิ้นปีนี้ ซึ่งงานนี้ยอมรับอาจจะต้องเลื่อนแผนและปรับใหม่ เพราะนโนบายฮอนด้าการเปิดตัวรถใหม่ ต้องชัดเจนระยะเวลาในการส่งมอบ ส่วนข้อกังวลใจผู้บริโภคกลัวมาตรฐานคุณภาพรถ ยืนยันจะทำลายรถและชิ้นส่วนรอประกอบที่จมน้ำทั้งหมด ไม่ยอมให้รถเหล่านี้เข้าสู่ระบบทุกช่องทาง และจะเก็บหลักฐานให้ตรวจสอบได้
เหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมบริเวณภาคกลางและกรุงเทพฯ มีการเปรียบเทียบเรียกว่า “สึนามิน้ำจืด” ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงมากทีเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้ผู้คนต้องอพยพ และโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตหยุดชะงัก เห็นชัดเจนจากโรงงานประกอบรถยนต์หลายแห่ง ได้มีการหยุดหรือลดกำลังการผลิตลง แม้โรงงานส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม แต่ก็มีผู้ผลิตชิ้นส่วนหรือซัพพลายเออร์จำนวนมาก ที่อยู่ในแถบจังหวัดอยุธยาและปทุมธานีที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานประกอบรถยนต์ได้ แทบไม่แตกต่างจากเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเลย และดูเหมือนเหตุการณ์จะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ยิ่งกรณีรถยนต์ “ฮอนด้า” ถือว่าเป็นค่ายรถที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดเหมือนกัน โดยโรงงานประกอบรถของฮอนด้าในนิคมฯโรจนะอุตสาหกรรมถูกน้ำท่วมจมบาดาล แม้น้ำจะลดลงยังต้องหยุดการผลิตอีกระยะ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูกลับมาให้ผลิตได้ดังเดิม จึงนับเป็นโรงงานที่ได้รับความเสียหายสูงสุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ว่าได้…
“ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินอะไรได้ชัดเจน แม้ภาพรวมน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ในโรงงานของฮอนด้ายังท่วมสูงอยู่ จึงต้องรอน้ำลดลงให้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายและฟื้นฟูเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ก็ไม่สามารถกำหนดได้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ และการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล”
เป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของฮอนด้า โดย “พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” และบอกว่า ตอนนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาผลิตได้ในระยะเวลาใด เพราะไม่เพียงต้องรอให้น้ำลดลง ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาฟื้นฟูและความเสียหายของเครื่องจักรเป็นอย่างไร
“แต่หากนับจากน้ำลดลงและสามารถเข้าไปฟื้นฟูสำเร็จ คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าเป็นเดือน จึงจะกลับมาเริ่มการผลิตได้ แต่เรื่องหลักที่จะดำเนินการคือ ทำอย่างไรให้กลับมาดำเนินการผลิตเร็วที่สุด”
เมื่อเป้าหมายของฮอนด้าต้องการจะกลับมาผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำให้ ส่วนวิธีดำเนินการจะเป็นอย่างไร? เรื่องนี้พิทักอธิบายว่า “เราจะเลือกวิธีการดำเนินงานฟื้นฟูให้กลับมาเร็วที่สุด อย่างเรื่องเครื่องจักรที่จมน้ำเสียหาย ซึ่งมีทั้งซ่อมและเปลี่ยนใหม่ แต่ส่วนใหญ่น่าจะสามารถซ่อมได้ แต่เครื่องบางตัวมีความละเอียดอ่อน มันอาจจะซ่อมได้แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควร ฉะนั้นเราจะเลือกวิธีเปลี่ยนใหม่ทันที”
“การเปลี่ยนใหม่แม้จะทำให้มีภาระที่สูงกว่า แต่เรื่องหลักฮอนด้าต้องการกลับมาดำเนินการผลิตให้เร็วที่สุด ฉะนั้นเราพร้อมที่จะเลือกวิธีการตามนโยบายหลักดังกล่าว และแน่นอนต้องทำงานร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอย่างใกล้ชิด เพราะจะต้องไปด้วยกัน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่กลับมาได้ กระบวนการผลิตก็ไม่สามารถดำเนินการได้” พิทักษ์กล่าวและว่า
ทั้งนี้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยังให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการฟื้นฟู ไม่ว่าจะบุคลากร และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเครื่องปั่นไฟ เรือ เครื่องยนต์ ที่ส่งเข้ามาเตรียมฟื้นฟูโรงงาน และช่วยเหลือสังคมรอบข้าง ในฐานะที่ฮอนด้าเติบโตมาได้ทุกวันนี้ ล้วนได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวไทย แม้ฮอนด้าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ที่ฮอนด้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอื่นๆ อย่างเช่นล่าสุดมอบเงิน 100 ล้านบาท เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทย และยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทยต่อไป เพราะในสถานการณ์เช่นนี้เมืองไทยกำลังต้องการความเชื่อมั่นมากที่สุด และฮอนด้าหวังว่าการกระทำจะช่วยสร้างตรงนี้ได้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ พิกทักษ์บอกว่ามูลค่าความเสียหายอยู่ในขั้นตอนการประเมิน แต่ยังไม่ครอบคลุมหมด เพราะต้องรอจนกว่าจะผ่านการฟื้นฟูเรียบร้อย อย่างสายการผลิตจะทำการเปลี่ยนหรือซ่อม ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกันในมูลค่าความเสียหาย ฉะนั้นจึงยังบอกไม่ได้ในขณะนี้
ด้านหนังสือพิมพ์นิเกอิของญี่ปุ่น รายงานอ้างคำกล่าวผู้บริหารของฮอนด้าว่า โรงงานของฮอนด้าในไทยถูกน้ำท่วมและหยุดการผลิตมาหลายสัปดาห์ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะเปิดได้เมื่อใด โดยบริษัทคาดว่าจะต้องเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จมน้ำเกือบทั้งหมด และน่าจะมีการเปิดโรงงานนานถึง 6 เดือน และส่งผลกระทบต่อการผลิตรถมากกว่า 100,000 คัน
ขณะที่พิทักษ์กล่าวว่า ฮอนด้าเข้าใจตอนนี้มีความกังวลใจของผู้บริโภค เรื่องของรถประกอบเสร็จแล้วที่จมอยู่ในน้ำหลายร้อนคัน ฮอนด้ายืนยันจะไม่นำมาจำหน่าย หรือปล่อยเข้าสู่ระบบ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดก็ตาม แม้จะหลายฝ่ายรู้สึกเสียดายรถเหล่านี้ สามารถนำมาซ่อมแซมและบริจาคให้กับองค์กรต่างๆ ได้ แต่ฮอนด้ายึดมั่นในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพรถยนต์ จึงจะไม่ยอมให้รถเหล่านั้นเข้าสู่ระบบเด็ดขาด
“ขอให้มั่นใจฮอนด้าจะไม่นำรถเหล่านั้นออกมาข้างนอก ต้องถูกทำลายหมด รวมถึงชิ้นส่วนรอประกอบที่จมน้ำ โดยจะมีการเก็บหลักฐานไว้ และจะไม่มีการผลิตซ้ำหมายเลขเดิม ฉะนั้นหมายเลขรถที่ถูกทำลายก็จะไม่มีอยู่ในสาระบบ ทำให้หมายเลขตัวถังข้ามไปเลย และมีหลักฐานให้ตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความสบายใจกันกับผู้บริโภค”
ดังนั้นฮอนด้ายืนยันไม่นำรถที่จมน้ำ เข้ามาสู่ระบบเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน แม้แต่เอามาบริจาค เพราะทำอย่างนั้นมันก็ต้องเข้าสู่ระบบ ที่สำคัญด้วยระบบมันทำไม่ได้ และฮอนด้าเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองจากระบบต่างๆ ไม่ว่าจะบีโอไอ หรือกระบวนทางด้านภาษี ชิ้นส่วนนำเข้า หรือชิ้นส่วนที่จะต้องใช้ ซึ่งมันมีระบบล็อกมันอยู่ในตัว การที่จะเอารถออกจากโรงงาน ที่ไม่ผ่านระบบมันจึงเป็นไปไม่ได้
“จะออกไปขายเป็นรถเก่า หรือเข้าสู่ระบบอื่นก็ไม่ได้ ทั้งในเรื่องระบบต่างๆ ทั้งเชิงภาษี หรือเชิงอื่นๆ รวมถึงระบบคุณภาพ ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่รถจะออกสู่ภายนอก ที่สำคัญบริษัทมีประกันคุ้มครองอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นหรือแรงจูงใจให้นำมาใช้ และเรื่องคุณภาพก็เป็นไปไม่ได้”
ส่วนการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ของฮอนด้า พิทักษ์บอกว่ายังเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการจองซื้อรถ หรือบริการหลังการขาย โดยขณะนี้ยังมียอดจองเข้ามาเยอะอยู่ แต่เมื่อการผลิตมีปัญหาอยู่ จึงต้องแจ้งความจริงกับลูกค้า และต้องขออภัยที่ไม่สามารถกำหนดวันชัดเจนได้ ซึ่งหากลูกค้าพร้อมที่จะรอก็จองรถได้ โดยเราจะประมาณการณ์เวลารับรถคร่าวๆ ไป แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งปกติพนักงานขายต้องมีการติดต่อและแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นระยะ
“ขณะนี้ฮอนด้ากำลังจะพิจารณาหาอะไร ด้วยการให้ความดูแลลูกค้าเป็นพิเศษ เพราะลูกค้ายังเชื่อมั่นต่อฮอนด้า ซึ่งแน่นอนเราจึงต้องดูแลเขา เพื่อเป็นการตอบแทนที่ยังให้ความไว้วางใจและรอรถจากเรา เช่นเดียวกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งเวลามีภัยพิบัติจะมีแคมเปญตลอด อย่างลดราคาอะไหล่และค่าแรง แต่ตอนนี้กำลังหาข้อสรุปอาจจะมีแคมเปญรวมยาวไปจนถึงสิ้นปี”
สำหรับกิจกรรมการตลาดคงต้องลดลง หากทุกอย่างสู่ปกติคงเร่งอีกครั้ง แต่ตอนนี้ภาพรวมทุกคนเป็นกังวลเรื่องน้ำท่วมมากกว่า คงไม่ค่อยมีกระจิดกระใจซื้อรถ และในความเป็นจริงลูกค้าได้ชะลอการรับรถก็มาก เพราะรับไปแล้วไม่รู้จะจอดรถที่ไหนกลัวน้ำจะท่วม อันนี้ฮอนด้าเข้าใจเก็บรักษารถไว้ให้ พอน้ำลดค่อยเข้ามารับ โดยต่างฝ่ายต่างจะดูแลกันไป
เมื่อสอบถามถึงแผนการเปิดตัวรถใหม่ โดยเฉพาะฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ ที่ตามแผนจะเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้ แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าว จะส่งผลกระทบหรือไม่? เรื่องนี้พิทักษ์บอกว่า ในเมื่อสภาพมันหยุดชะงักไป ทำให้อาจชะลอไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันแผนงานทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรือมีการยกเลิก เพียงแค่สถานการณ์ตรงนี้ ทำให้อาจจะจำเป็นต้องเลื่อนทุกอย่างไปตามสภาพที่เกิดขึ้น
“สภาพที่ชะงักไป แน่นอนแพลนทุกอย่างต้องมีการปรับแผนใหม่ อาจจะต้องเลื่อนไประยะหนึ่งก่อน แต่ทั้งนี้ยังไม่สรุปตรงนั้น เพราะการที่เราจะเปิดตัวรถใหม่ ต้องชัดเจนว่าส่งมอบได้เมื่อไหร่ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่อาจจะเลื่อน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เหตุนี้เรื่องหลักของฮอนด้าจึงต้องพยายามกลับมาผลิตให้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้แม้ฮอนด้าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักมาก แต่ยืนยันกำลังใจยังดี พนักงานทุกคนไม่ต้องกังวลทางงานหรือรายได้ ฮอนด้ายังคงจ่ายตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือชั่วคราว พอน้ำลดก็กลับมาทำงาน ระหว่างนี้บริษัทก็จะจ่าย 100% เพราะถือเป็นสภาวะการณ์พิเศษ
แม้หลายอย่างของฮอนด้าจะยังไม่ชัดเจน เพราะต้องรอให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายก่อน แต่ฮอนด้าบริษัทรถที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ยังมั่นใจและยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทยต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และนี่แหละคือสิ่งที่เมืองไทยกำลังต้องการขณะนี้… “ความเชื่อมั่น”
เหตุการณ์ภัยพิบัติน้ำท่วมบริเวณภาคกลางและกรุงเทพฯ มีการเปรียบเทียบเรียกว่า “สึนามิน้ำจืด” ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นถึงความรุนแรงมากทีเดียว เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นได้ส่งผลให้ผู้คนต้องอพยพ และโดยเฉพาะอุตสาหกรรมการผลิตหยุดชะงัก เห็นชัดเจนจากโรงงานประกอบรถยนต์หลายแห่ง ได้มีการหยุดหรือลดกำลังการผลิตลง แม้โรงงานส่วนใหญ่จะไม่ได้อยู่ในพื้นที่น้ำท่วม แต่ก็มีผู้ผลิตชิ้นส่วนหรือซัพพลายเออร์จำนวนมาก ที่อยู่ในแถบจังหวัดอยุธยาและปทุมธานีที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ทำให้ไม่สามารถผลิตชิ้นส่วนป้อนโรงงานประกอบรถยนต์ได้ แทบไม่แตกต่างจากเหตุการณ์สึนามิที่ญี่ปุ่นเมื่อต้นปีที่ผ่านมาเลย และดูเหมือนเหตุการณ์จะไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก ยิ่งกรณีรถยนต์ “ฮอนด้า” ถือว่าเป็นค่ายรถที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดเหมือนกัน โดยโรงงานประกอบรถของฮอนด้าในนิคมฯโรจนะอุตสาหกรรมถูกน้ำท่วมจมบาดาล แม้น้ำจะลดลงยังต้องหยุดการผลิตอีกระยะ เพื่อซ่อมแซมและฟื้นฟูกลับมาให้ผลิตได้ดังเดิม จึงนับเป็นโรงงานที่ได้รับความเสียหายสูงสุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ก็ว่าได้…
“ตอนนี้ยังไม่สามารถประเมินอะไรได้ชัดเจน แม้ภาพรวมน้ำจะเริ่มลดลงแล้ว แต่ในโรงงานของฮอนด้ายังท่วมสูงอยู่ จึงต้องรอน้ำลดลงให้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายและฟื้นฟูเสียก่อน ซึ่งตรงนี้ก็ไม่สามารถกำหนดได้เช่นกัน เพราะเป็นเรื่องของธรรมชาติ และการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล”
เป็นการกล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดของฮอนด้า โดย “พิทักษ์ พฤทธิสาริกร” รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล(ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยกับ “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” และบอกว่า ตอนนี้จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าจะกลับมาผลิตได้ในระยะเวลาใด เพราะไม่เพียงต้องรอให้น้ำลดลง ยังมีปัจจัยอีกหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการเข้ามาฟื้นฟูและความเสียหายของเครื่องจักรเป็นอย่างไร
“แต่หากนับจากน้ำลดลงและสามารถเข้าไปฟื้นฟูสำเร็จ คาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่าเป็นเดือน จึงจะกลับมาเริ่มการผลิตได้ แต่เรื่องหลักที่จะดำเนินการคือ ทำอย่างไรให้กลับมาดำเนินการผลิตเร็วที่สุด”
เมื่อเป้าหมายของฮอนด้าต้องการจะกลับมาผลิตให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำให้ ส่วนวิธีดำเนินการจะเป็นอย่างไร? เรื่องนี้พิทักอธิบายว่า “เราจะเลือกวิธีการดำเนินงานฟื้นฟูให้กลับมาเร็วที่สุด อย่างเรื่องเครื่องจักรที่จมน้ำเสียหาย ซึ่งมีทั้งซ่อมและเปลี่ยนใหม่ แต่ส่วนใหญ่น่าจะสามารถซ่อมได้ แต่เครื่องบางตัวมีความละเอียดอ่อน มันอาจจะซ่อมได้แต่คงต้องใช้เวลาพอสมควร ฉะนั้นเราจะเลือกวิธีเปลี่ยนใหม่ทันที”
“การเปลี่ยนใหม่แม้จะทำให้มีภาระที่สูงกว่า แต่เรื่องหลักฮอนด้าต้องการกลับมาดำเนินการผลิตให้เร็วที่สุด ฉะนั้นเราพร้อมที่จะเลือกวิธีการตามนโยบายหลักดังกล่าว และแน่นอนต้องทำงานร่วมกับผู้ผลิตชิ้นส่วนอย่างใกล้ชิด เพราะจะต้องไปด้วยกัน หากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่กลับมาได้ กระบวนการผลิตก็ไม่สามารถดำเนินการได้” พิทักษ์กล่าวและว่า
ทั้งนี้บริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นยังให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือในการฟื้นฟู ไม่ว่าจะบุคลากร และอุปกรณ์ต่างๆ อย่างเครื่องปั่นไฟ เรือ เครื่องยนต์ ที่ส่งเข้ามาเตรียมฟื้นฟูโรงงาน และช่วยเหลือสังคมรอบข้าง ในฐานะที่ฮอนด้าเติบโตมาได้ทุกวันนี้ ล้วนได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวไทย แม้ฮอนด้าจะได้รับผลกระทบมากที่สุดในอุตสาหกรรมรถยนต์ แต่ที่ฮอนด้าให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมอื่นๆ อย่างเช่นล่าสุดมอบเงิน 100 ล้านบาท เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในประเทศไทย และยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทยต่อไป เพราะในสถานการณ์เช่นนี้เมืองไทยกำลังต้องการความเชื่อมั่นมากที่สุด และฮอนด้าหวังว่าการกระทำจะช่วยสร้างตรงนี้ได้
สำหรับความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ พิกทักษ์บอกว่ามูลค่าความเสียหายอยู่ในขั้นตอนการประเมิน แต่ยังไม่ครอบคลุมหมด เพราะต้องรอจนกว่าจะผ่านการฟื้นฟูเรียบร้อย อย่างสายการผลิตจะทำการเปลี่ยนหรือซ่อม ซึ่งตรงนี้จะแตกต่างกันในมูลค่าความเสียหาย ฉะนั้นจึงยังบอกไม่ได้ในขณะนี้
ด้านหนังสือพิมพ์นิเกอิของญี่ปุ่น รายงานอ้างคำกล่าวผู้บริหารของฮอนด้าว่า โรงงานของฮอนด้าในไทยถูกน้ำท่วมและหยุดการผลิตมาหลายสัปดาห์ และยังไม่มีสัญญาณว่าจะเปิดได้เมื่อใด โดยบริษัทคาดว่าจะต้องเปลี่ยนเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่จมน้ำเกือบทั้งหมด และน่าจะมีการเปิดโรงงานนานถึง 6 เดือน และส่งผลกระทบต่อการผลิตรถมากกว่า 100,000 คัน
ขณะที่พิทักษ์กล่าวว่า ฮอนด้าเข้าใจตอนนี้มีความกังวลใจของผู้บริโภค เรื่องของรถประกอบเสร็จแล้วที่จมอยู่ในน้ำหลายร้อนคัน ฮอนด้ายืนยันจะไม่นำมาจำหน่าย หรือปล่อยเข้าสู่ระบบ ไม่ว่าจะเป็นช่องทางใดก็ตาม แม้จะหลายฝ่ายรู้สึกเสียดายรถเหล่านี้ สามารถนำมาซ่อมแซมและบริจาคให้กับองค์กรต่างๆ ได้ แต่ฮอนด้ายึดมั่นในเรื่องของมาตรฐานและคุณภาพรถยนต์ จึงจะไม่ยอมให้รถเหล่านั้นเข้าสู่ระบบเด็ดขาด
“ขอให้มั่นใจฮอนด้าจะไม่นำรถเหล่านั้นออกมาข้างนอก ต้องถูกทำลายหมด รวมถึงชิ้นส่วนรอประกอบที่จมน้ำ โดยจะมีการเก็บหลักฐานไว้ และจะไม่มีการผลิตซ้ำหมายเลขเดิม ฉะนั้นหมายเลขรถที่ถูกทำลายก็จะไม่มีอยู่ในสาระบบ ทำให้หมายเลขตัวถังข้ามไปเลย และมีหลักฐานให้ตรวจสอบได้ เพื่อให้เกิดความสบายใจกันกับผู้บริโภค”
ดังนั้นฮอนด้ายืนยันไม่นำรถที่จมน้ำ เข้ามาสู่ระบบเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นช่องทางไหน แม้แต่เอามาบริจาค เพราะทำอย่างนั้นมันก็ต้องเข้าสู่ระบบ ที่สำคัญด้วยระบบมันทำไม่ได้ และฮอนด้าเป็นบริษัทที่ได้รับการรับรองจากระบบต่างๆ ไม่ว่าจะบีโอไอ หรือกระบวนทางด้านภาษี ชิ้นส่วนนำเข้า หรือชิ้นส่วนที่จะต้องใช้ ซึ่งมันมีระบบล็อกมันอยู่ในตัว การที่จะเอารถออกจากโรงงาน ที่ไม่ผ่านระบบมันจึงเป็นไปไม่ได้
“จะออกไปขายเป็นรถเก่า หรือเข้าสู่ระบบอื่นก็ไม่ได้ ทั้งในเรื่องระบบต่างๆ ทั้งเชิงภาษี หรือเชิงอื่นๆ รวมถึงระบบคุณภาพ ฉะนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่รถจะออกสู่ภายนอก ที่สำคัญบริษัทมีประกันคุ้มครองอยู่ จึงไม่มีความจำเป็นหรือแรงจูงใจให้นำมาใช้ และเรื่องคุณภาพก็เป็นไปไม่ได้”
ส่วนการดำเนินธุรกิจอื่นๆ ของฮอนด้า พิทักษ์บอกว่ายังเป็นปกติเหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นการจองซื้อรถ หรือบริการหลังการขาย โดยขณะนี้ยังมียอดจองเข้ามาเยอะอยู่ แต่เมื่อการผลิตมีปัญหาอยู่ จึงต้องแจ้งความจริงกับลูกค้า และต้องขออภัยที่ไม่สามารถกำหนดวันชัดเจนได้ ซึ่งหากลูกค้าพร้อมที่จะรอก็จองรถได้ โดยเราจะประมาณการณ์เวลารับรถคร่าวๆ ไป แต่ต้องอธิบายให้เข้าใจ ซึ่งปกติพนักงานขายต้องมีการติดต่อและแจ้งให้ลูกค้าทราบเป็นระยะ
“ขณะนี้ฮอนด้ากำลังจะพิจารณาหาอะไร ด้วยการให้ความดูแลลูกค้าเป็นพิเศษ เพราะลูกค้ายังเชื่อมั่นต่อฮอนด้า ซึ่งแน่นอนเราจึงต้องดูแลเขา เพื่อเป็นการตอบแทนที่ยังให้ความไว้วางใจและรอรถจากเรา เช่นเดียวกับงานบริการหลังการขาย ซึ่งเวลามีภัยพิบัติจะมีแคมเปญตลอด อย่างลดราคาอะไหล่และค่าแรง แต่ตอนนี้กำลังหาข้อสรุปอาจจะมีแคมเปญรวมยาวไปจนถึงสิ้นปี”
สำหรับกิจกรรมการตลาดคงต้องลดลง หากทุกอย่างสู่ปกติคงเร่งอีกครั้ง แต่ตอนนี้ภาพรวมทุกคนเป็นกังวลเรื่องน้ำท่วมมากกว่า คงไม่ค่อยมีกระจิดกระใจซื้อรถ และในความเป็นจริงลูกค้าได้ชะลอการรับรถก็มาก เพราะรับไปแล้วไม่รู้จะจอดรถที่ไหนกลัวน้ำจะท่วม อันนี้ฮอนด้าเข้าใจเก็บรักษารถไว้ให้ พอน้ำลดค่อยเข้ามารับ โดยต่างฝ่ายต่างจะดูแลกันไป
เมื่อสอบถามถึงแผนการเปิดตัวรถใหม่ โดยเฉพาะฮอนด้า ซีวิค โฉมใหม่ ที่ตามแผนจะเปิดตัวภายในสิ้นปีนี้ แต่จากเหตุการณ์น้ำท่วมดังกล่าว จะส่งผลกระทบหรือไม่? เรื่องนี้พิทักษ์บอกว่า ในเมื่อสภาพมันหยุดชะงักไป ทำให้อาจชะลอไปตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ยืนยันแผนงานทุกอย่างไม่ได้เปลี่ยนแปลง หรือมีการยกเลิก เพียงแค่สถานการณ์ตรงนี้ ทำให้อาจจะจำเป็นต้องเลื่อนทุกอย่างไปตามสภาพที่เกิดขึ้น
“สภาพที่ชะงักไป แน่นอนแพลนทุกอย่างต้องมีการปรับแผนใหม่ อาจจะต้องเลื่อนไประยะหนึ่งก่อน แต่ทั้งนี้ยังไม่สรุปตรงนั้น เพราะการที่เราจะเปิดตัวรถใหม่ ต้องชัดเจนว่าส่งมอบได้เมื่อไหร่ ซึ่งกำลังพิจารณาอยู่อาจจะเลื่อน จะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับสถานการณ์ เหตุนี้เรื่องหลักของฮอนด้าจึงต้องพยายามกลับมาผลิตให้เร็วที่สุด”
ทั้งนี้แม้ฮอนด้าจะได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมหนักมาก แต่ยืนยันกำลังใจยังดี พนักงานทุกคนไม่ต้องกังวลทางงานหรือรายได้ ฮอนด้ายังคงจ่ายตามปกติ ไม่ว่าจะเป็นพนักงานประจำหรือชั่วคราว พอน้ำลดก็กลับมาทำงาน ระหว่างนี้บริษัทก็จะจ่าย 100% เพราะถือเป็นสภาวะการณ์พิเศษ
แม้หลายอย่างของฮอนด้าจะยังไม่ชัดเจน เพราะต้องรอให้สถานการณ์น้ำท่วมคลี่คลายก่อน แต่ฮอนด้าบริษัทรถที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ครั้งนี้ ยังมั่นใจและยืนยันจะดำเนินธุรกิจในไทยต่อไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นต่อประเทศไทย และนี่แหละคือสิ่งที่เมืองไทยกำลังต้องการขณะนี้… “ความเชื่อมั่น”