xs
xsm
sm
md
lg

Lamborghini Gallardo LP570-4:รุ่นพิเศษได้อีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


น่าจะเรียกได้ว่าเป็นรถสปอร์ตที่มีลิมิเต็ด เอดิชั่นเยอะรุ่นหลากแบบมากที่สุดก็ได้ สำหรับลัมบอร์กินี กัลญาร์โด้ สปอร์ตรุ่นเล็กของทางค่ายกระทิงเปลี่ยว โดยล่าสุดก็มีการเผยเวอร์ชันพิเศษแดง-ดำในชื่อ Super Trofeo Stradale ที่มีการผลิตออกมาเพียง 150 คันเท่านั้น พร้อมความเร้าใจที่ได้รับการพัฒนามาจากเทคโนโลยีในสนามแข่ง

สปอร์ตรุ่นนี้เป็นการพัฒนาโดยอิงกับตัวแข่งที่ใช้ในการรายการ Lamborghini Blancpain Super Trofeo championship ที่ทางลัมบอร์กินีจัดขึ้นมาเพื่อเป็นสังเวียนในการแข่งขันของบรรดานักแข่งที่ใช้รถสปอร์ตรุ่นกัลญาร์โดเป็นตัวแข่ง โดยการแข่งขันจัดตามสนามต่างๆ ในยุโรป เช่น มอนซ่า, ซิลเวอร์สโตน และฮอคเคนไฮม์


งานนี้ไม่ได้เป็นแค่การเปลี่ยนนิดโน่นหน่อย และส่งขาย แต่มีการปรับปรุงในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะในเรื่องของการลดน้ำหนักตัวถังด้วยการใช้วัสดุอย่างอลูมิเนียม และคาร์บอนไฟเบอร์ในการผลิตชิ้นส่วนต่างๆ เช่นเดียวกับล้อแม็กขนาด 19 นิ้วที่มีน้ำหนักเบามาก สามารถลดน้ำหนักได้ถึง 13 กิโลกรัมต่อเซต เมื่อเปรียบเทียบกับล้อ 19 นิ้วทั่วไป

ตรงนี้ทำให้น้ำหนักตัวของ Super Trofeo Stradale ขยับลงมาอยู่ที่ 1,340 กิโลกรัม นั่นเท่ากับว่าในตอนนี้ม้า 1 ตัวของเครื่องยนต์วี10 แบกน้ำหนักลดลงมาอยู่ที่ 2.35 กิโลกรัมเท่านั้น

โดยขุมพลังบล็อกนี้ได้รับการยกมาจากรุ่น Supperleggera มีความจุกระบอกสูบ 5200 ซีซี พร้อมกำลังขับเคลื่อน 570 แรงม้า ที่ 8,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 55.0 กก.-ม. ที่ 6,500 รอบ/นาที พร้อมการปรับเสียงคำรามที่ให้ความดุดันไม่แพ้ตัวแข่งในสนาม ส่วนระบบเกียร์เป็นแบบ e-Gear กึ่งอัตโนมัติ 6 จังหวะ เปลี่ยนเกียร์ได้อย่างรวดเร็วและฉับไว ส่วนการขับเคลื่อนเป็นแบบ 4 ล้ออัตโนมัติเหมือนเดิม

สำหรับสมรรถนะของตัวรถมากับอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 3.4 วินาที และ 0-200 กิโลเมตร/ชั่วโมงใช้เวลา 10.4 วินาที โดยที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 320 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนอัตราความสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงอยู่ที่ 7.4 กิโลเมตร/ลิตรสำหรับการขับแบบผสม ซึ่งนั่นหมายความว่าน้ำมัน 1 ถังของสปอร์ตรุ่นนี้ที่มีอยู่ 90 ลิตร จะแล่นได้ประมาณ 660 กิโลเมตรตามระดับความสิ้นเปลืองเฉลี่ยในระดับนี้


อีกสิ่งที่ถือว่าพิเศษสำหรับรุ่นนี้คือ ทางลัมบอร์กินีมีทางเลือกที่เรียกว่า Racing Option สำหรับลูกค้าที่เน้นความเร้าใจจากสนามแข่งแต่สามารถใช้งานได้บนท้องถนน โดยตัวรถจะมีการติดตั้งโรลล์บาร์รอบคัน และเสริมด้วยเข็มขัดนิรภัยแบบ 4 จุด และถังดับเพลิง เช่นเดียวกับการเปลี่ยนดิสก์เบรกจากธรรมดามาเป็นแบบคาร์บอนเซรามิก ส่วนจะจ่ายเงินเพิ่มจากรุ่นมาตรฐานเท่าไรทางลัมบอร์กินีไม่ได้เปิดเผยออกมาในตอนนี้

ในแง่รายละเอียดทางด้านรูปลักษณ์สัมผัสได้อย่างชัดเจน เพราะตัวถังมาในสีแดง โทน Rosso Mars สลับกับชุดพาร์ตสีดำด้าน พร้อมสปอยเลอร์หลังขนาดใหญ่ที่ผลิตมาเพื่อรุ่นนี้โดยเฉพาะ แต่ถ้าไม่ชอบสีแดง ก็ยังมีอีก 2 สีให้เลือก คือ Grigio Telesto หรือ Bianco Monocerus ซึ่งก็คือสีเทากับสีขาว ส่วนหลังคาเป็นสีดำด้านจากโรงงานอยู่แล้ว

150 คันเท่านั้น และมีการส่งขายทั่วโลก ใครที่สนใจก็รีบจับจองกันได้เลย ส่วนราคาจะอยู่ที่เท่าไรนั้นต้องติดตามดูกันต่อไป

กำลังโหลดความคิดเห็น