จากต้นแบบ LF-Gh ที่เปิดตัวงานนิวยอร์ก มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ตอนนี้เล็กซัสพร้อมแล้วกับการเปิดศึกในตลาดรถยนต์หรูระดับกลางกับบิ๊กทรีของเยอรมนี ด้วยโฉมใหม่แกะกล่องของสายพันธุ์ GS ที่มาพร้อมกับความสปอร์ตทุกมุมมอง และทางเลือกของเครื่องยนต์ทั้งเบนซิน และไฮบริดในชื่อ “GS450h”
GS1 ถือเป็นรถยนต์อีกรุ่นที่อยู่กับแบรนด์เล็กซัสมานาน โดยเปิดตัวออกสู่ตลาดเมื่อปี 1993 และถูกวางตำแหน่งทางการตลาดให้แข่งกับบีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5, เมอร์เซเดส-เบนซ์ อี-คลาส และออดี้ A6 โดย 2 เจนเนอเรชันแรกของ GS เป็นการนำรถยนต์ของโตโยต้าที่มีขายเฉพาะในตลาดญี่ปุ่น หรือ JDM-Japan Domestic Model มารีแบรนด์ขาย ซึ่งเล็กซัส GS คือ คันเดียวกับรุ่นอริสโต เมื่อแปะแบรนด์ของโตโยต้าขายในบ้านตัวเอง
จนกระทั่งมาถึงรุ่นที่ 3 ความเปลี่ยนแปลงจึงเกิดขึ้น โดยเล็กซัสจำเป็นจะต้องออกแบบรถยนต์ของตัวเองขึ้นมาใหม่ เพราะไม่สามารถใช้วิธีแบบเดิมๆ ได้อีกแล้ว เนื่องจากปี 2005 โตโยต้านำแบรนด์เล็กซัสเข้าไปรุกตลาดญี่ปุ่น ผลคือ โฉมใหม่ของทั้ง LS, GS และ IS ถูกพัฒนาขึ้นมาใหม่ ส่วนรถยนต์ JDM ของโตโยต้าทั้ง 3 รุ่นคือ เซลซิเออร์, อริสโต และอัลเทสซ่า ก็ถูกถอดออกจากตลาดไป เพื่อเปิดทางให้กับการเข้ามาของเล็กซัสอย่างเต็มที่
รุ่นใหม่นี้เป็นเจนเนอเรชันที่ 4 ได้รับการสร้างสรรค์ด้วยแนวทางการออกแบบที่เน้นความสปอร์ตแต่ยังอยู่บนพื้นฐานแนวคิดเดิมแบบ L-Finesse และเป็นการปรับปรุงสไตล์การออกแบบมาจากรถยนต์ต้นแบบ โดยเปลี่ยนรายละเอียดเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเพื่อให้สอดคล้องกับการใช้งานจริงบนท้องถนน
ตัวถังแบบ 4 ประตูยังไม่มีการเปิดเผยมิติทั้งในแง่ความยาวและความกว้าง บอกแค่ว่ามีความกว้างช่วงล้อหน้า และหลังเพิ่มขึ้น 40 และ 50 มิลลิเมตร ตามลำดับ ส่วนโครงสร้างตัวถังหันมาใช้อลูมิเนียมเป็นวัสดุหลักในการผลิต เช่นเดียวกับชิ้นส่วนในระบบกันสะเทือนหน้าแบบแม็คเฟอร์สันสตรัท และแบบมัลติลิงก์ที่ด้านหลัง เพื่อลดน้ำหนักให้กับตัวรถ เมื่อบวกกับการปรับปรุงให้พื้นตัวถังมีความแข็งแกร่งขึ้นจะช่วยเพิ่มความคล่องตัว และสมรรถนะการขับขี่ให้ดีขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นเดิม
นอกจากนั้น เล็กซัสยังเผยอีกว่า GS ใหม่จะเป็นยานยนต์ที่เพียบพร้อมด้วยความปลอดภัยรุ่นหนึ่ง เพราะมีการติดตั้งระบบความปลอดภัยทั้งเชิงปกป้องและแก้ไข โดยมีถุงลมนิรภัยมากถึง 10 ใบทั้งคู่หน้า และหัวเข่าสำหรับคนขับ ตามด้วยระบบควบคุมการทรงตัว, ระบบ Night Vision สำหรับตรวจจับสิ่งกีดขวางบนท้องถนนขณะแล่นยามค่ำคืน, ระบบรักษาช่องทางการขับของตัวเอง หรือ Lane Keeping Assist และระบบ Blind Spot แจ้งเตือนเมื่อมีรถยนต์อยู่ในมุมอับขณะกำลังจะเปลี่ยนเลน
สำหรับทางเลือกของขุมพลัง แม้ว่ายังไม่เปิดเผยอย่างเป็นทางการ คาดว่าจะมีรุ่นตั้งแต่ GS250 ซึ่งใช้เครื่องยนต์วี6 บล็อกเล็ก 2500 ซีซี แบบเดียวกับ IS250 แต่ไม่มีการเปิดเผยกำลังของเครื่องยนต์ ตามด้วยรุ่น GS350 และรุ่นไฮบริด GS450h ที่ยังไม่เปิดเผยข้อมูลว่าจะแตกต่างจากสเปกที่ขายอยู่ในรุ่นที่แล้วอย่างไรบ้าง ส่วนคนที่ชอบความสวยเร้าใจก็รอเวอร์ชัน F-Sport วางขาย เพียงแต่เล็กซัสไม่ได้บอกว่าจะเป็นแค่รุ่นสปอร์ตที่ติดตั้งชุดแต่ง หรือว่าเป็นตัวแรงเพื่อที่จะประกบกับ M5 หรือ S6
ส่วนใครที่สนใจก็อดใจรอกันหน่อย เพราะเล็กซัสนำออกเผยโฉมครั้งแรกของโลกที่งานประกวดรถยนต์โบราณ Pebble Beach Concours d’Elegance ในแคลิฟอร์เนีย จากนั้นก็จะเริ่มทำตลาดทั้งในสหรัฐอเมริกาและอังกฤษประมาณต้นปี 2012
