งานประกวดรถโบราณครั้งที่ 35 ได้ผ่านพ้นไปนานแล้ว แต่เรามีรถโบราณอีกหนึ่งรุ่นที่โดดเด่นในงานนี้คือ Ford 500 Skyliner ปี 1958 ที่มาพร้อมหลังคาแข็งพับได้ Retractable Hardtop โดยรุ่นที่โชว์ในงานเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 ของ Fairlaneและเป็นรุ่นแรกในตระกูล ที่ติดตั้งหลังคาไฟฟ้าแบบพับได้ เครื่องยนต์ V8 ความจุ 5.8 ลิตร กำลังสูงสุด 300 แรงม้า แม้จะไม่ประสบความสำเร็จนัก แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในรถหรูแห่งยุค อย่างไรก็ตาม ชื่อ Skyliner ไม่ได้หมายถึงหลังคาแข็งพับได้ของ Fairlane 500 รุ่นนี้ แต่นำมาจาก Ford Crestline Skyliner รุ่นปี 1954 ซึ่งเป็นรถ 2 ประตู ฮาร์ดท๊อป ที่มี 'หลังคาแก้ว' ทำจากอะครีลิค มองเห็นท้องฟ้าสว่างสดใสนั่นเอง
เจ้าของรถกล่าวว่า Skyliner เป็นรถที่ล้ำยุคที่สุดเพราะสมัยนั้นรถเปิดประทุนกำลังได้รับความนิยมมาก แต่มีข้อเสียเพราะกว่าจะเปิด-ปิดแต่ละครั้งนั้นใช้เวลานานมาก และมีเสียงดัง ฟอร์ดจึงคิดทำหลังคาแข็งขึ้นมาเป็นยี่ห้อแรก โดยใช้ขื่อรุ่นว่าSkylinerขึ้นมา
"ตอนแรกนั้นเป็นที่ฮือฮามากคนไม่เคยเห็น เป็นอะไรที่ทันสมัยมากในยุคนั้น ถ้าเปรียบกับสมัยนี้ก็คล้ายๆกับทรานส์ฟอร์เมอร์สเลยทีเดียว หลังจากขายมา 3 ปี ปรากฎว่ารถรุ่นนี้มีปัญหาเยอะมากเพราะใช้ระบบมอเตอร์ไฟฟ้าควบคุมการเปิดประทุนทำให้ยอดขายไม่ดี ฟอร์ดจึงตัดสินใจยกเลิกไลน์การผลิตรถรุ่นนี้ไป แต่นับได้ว่าเป็นเจ้าแรกที่ทำมอเตอร์ไฟฟ้ามาใช้กับรถเปิดประทุน"
สำหรับการทำงานของระบบมอเตอร์นี้มีความซับซ้อนมากต่างกับรถเปิดประทุนในปัจจุบันที่ควบคุมด้วยระบบไฮโดรลิกบวกกับคอมพิวเตอร์ เจ้าของรถกล่าวว่าเวลาซ่อมต้องใช้ช่างที่มีความชำนาญถึงจะกลับมาใช้งานได้อีกครั้งเนื่องจากภายในระบบมีการสั่งงานแบบแมนนวลผ่านมอเตอร์ทั้งหมดประมาณ 17 ตัว หากตัวใดตัวหนึ่งเสียก็จะไม่สามารถเปิดประทุนได้้
สภาพก่อนหน้านี้ไม่สามารถเปิดประทุนได้เนื่องจากมอเตอร์เป็นสนิมเจ้าของรถจึงได้นำมาบูรณะ ซ่อมแซมจนกระทั่งกลับมาเหมือนเช่นเดิมในเวลาแค่เพียง 1 ปีเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องยนต์เดิม สีเดิม แต่สมัยนี้กลับง่ายขึ้นเนื่องจากบริษัท ฟอร์ด ที่อเมริกาได้กลับมาผลิตชิ้นส่วนต่างๆของรถโบราณเหล่านี้อีกครั้ง ในทางกลับกันรถที่กึ่งเก่ากึ่งใหม่กลับไม่มีอะไหล่สำรองเนื่องจากรถโบราณนั้นกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งจากเหล่าคอรถเก่าทั่วโลกและรุ่นนี้ถือว่าเป็นรุ่นยอดนิยมของนักสะสม ไม่ต่างจากรุ่นธันเดอร์เบิร์ด หรือรุ่นอื่นๆ
"นอกจากนี้ยังถือว่าเป็นดาบสองคมของนักสะสมเลยทีเดียวสำหรับการเลือกรถมาบูรณะแต่ละคัน เพราะบริษัทรถเริ่มให้ความสำคัญกับลูกค้าที่สะสมรถเก่าว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่ทุ่มเทและไม่ค่อยสนใจในเรื่องของราคาอะไหล่ ยิ่งรถรุ่นไหนที่นิยมมากจะมีอะไหล่ผลิตใหม่ๆให้มาซ่อมแซมได้ง่ายขึ้น ต่างจากรถโบราณบางยี่ห้อบางรุ่นที่ไม่ค่อยเป็นที่นิยมเพราะจะหาอะไหล่ได้ยาก บางคันเจ้าของซ่อมเป็นสิบปีเพราะไม่มีอะไหล่ต้องรถจากเมืองนอกทำให้หาจุดจบของการบูรณะไม่เจอสักที จะขายก็ไม่ได้เนื่องจากสภาพยังไม่สมบูรณ์"
หลังจากนั้นหลายปีก็มียี่ห้ออื่นผลิตรถเปิดประทุนหลังตาแข็งออกมาอีกไม่ว่าจะเป็นเมอร์เซเดส-เบนซ์ เปอโยต์ ปัจจุบันเจ้าของรถคันนี้การันตีว่าFord 500 Skyliner คันนี้มีเพียงหนึ่งเดียวในประเทศไทย ส่วนในเอเซียเคยพบเจอที่ประเทศญี่ปุ่นแต่ระบบมอเตอร์เสีย....
*ขอบคุณภาพจากบางกอกคลาสสิคคาร์*