แฟรงค์เฟิร์ต มอเตอร์โชว์ ที่ประเทศเยอรมนี หรือ IAA ถือเป็นงานมอเตอร์โชว์ระดับโลกทั้งในแง่ชื่อเสียงและขนาดของพื้นที่จัดแสดง ซึ่งใครที่มีโอกาสได้สัมผัสด้วยตัวเองคงทราบดีว่า ที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่เรื่องเกินจริงแล้ว
งานนี้มีจัดขึ้นเป็นประจำทุก 2 ปีในปีค.ศ.ที่ลงท้ายด้วยเลขคี่เหมือนกับโตเกียว มอเตอร์โชว์ ที่ญี่ปุ่น โดย IAA ในปีนี้ถือเป็นงานครั้งที่ 64 และจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 13-25 กันยายนนี้ และแน่นอนในเมื่อใกล้กับช่วงเวลาของการจัดงาน หลายค่ายก็เริ่มทยอยเปิดเผยข้อมูล และรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ที่จะใช้เวทีแห่งนี้ในการอวดโฉม
เท่าที่มีการเปิดตัวออกมาแล้ว และมีการยืนยันอย่างเป็นทางการโดยทางผู้ผลิตรถยนต์เอง ก็มีเพียงเรโนลต์รายเดียวเท่านั้นที่มีคันจริงให้เห็นกับต้นแบบรุ่น Frendzy ที่ทาง “ASTV ผู้จัดการมอเตอริ่ง” เคยนำเสนอไปแล้ว ส่วนโฟล์คสวาเกนจะเปิดตัวรุ่น UP สำหรับขายจริง แต่ก็มีแค่วีดีโอ Teaser ยังไม่มีรถคันจริงให้เห็น โดยที่เมอร์เซเดส-เบนซ์ก็ยังเงียบ ปอร์เช่ก็ยังไม่มีคันจริงของ 911 ใหม่ในรหัส 991 ออกมาให้เห็น เช่นเดียวกับบีเอ็มดับเบิลยูที่ยังไม่เปิดเผยว่า นอกจากรถยนต์ต้นแบบ 2 คันจากโปรเจ็กต์ i ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้แล้วจะมีรุ่นไหนใหม่อีกบ้าง
ตรงนี้ต่างจากค่ายเอเชียที่เริ่มปูพรมกันแล้ว โดยฮุนไดเผยว่าจะเข้าร่วมงานนี้ด้วยการเปิดตัวโฉมใหม่ของรถยนต์คอมแพ็กต์ที่ขายในยุโรปอย่างรุ่น i30 ซึ่งทางผู้ผลิตจากเกาหลีใต้คอนเฟิร์มว่าเป็นโมเดลเชนจ์ โดยตัวรถได้รับการพัฒนาจากทางศูนย์เทคนิคของฮุนไดที่ยุโรป ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองรุสเซลไฮม์ ประเทศเยอรมนี และถอดแบบความเร้าใจกับการสร้างสรรค์งานออกแบบของรูปลักษณ์ภายนอกตามแนวคิด Fluidic Sculpture โดยแนวคิดนี้ถูกนำมาใช้ครั้งแรกกับรถยนต์ต้นแบบรุ่น ix-onic ที่เปิดตัวในเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2009
ทุกรายละเอียดยังถูกเก็บความเป็นลับ นอกจากภาพร่างของคันจริงที่จะเปิดตัว โดยรหัส i30 ถูกเปิดตัวในยุโรปครั้งแรกเมื่อปี 2007 และเป็นรถยนต์ที่แยกตัวออกมาจากเจนเนอเรชั่นหลักๆ ของฮุนได โดยจะทำตลาดคอมแพ็กต์ หรือ C-Segment เหมือนกับเอลันทรา
อีกรุ่นที่น่าสนใจและมีความเกี่ยวข้องกับตลาดบ้านเรา เพราะเพิ่งมีการแถลงนโยบายไปเมื่อไม่นานนี้คือ ซูบารุ XV ซึ่งจะมีการเปิดตัวคันจริงในงานนี้ และทางซูบารุเองก็อุ่นเครื่องด้วยภาพร่างออกมาให้เห็น โดยก่อนหน้านี้ในงานเซี่ยงไฮ้ มอเตอร์โชว์ ซูบารุก็เพิ่งเปิดตัวคันต้นแบบออกมา และใช้เวลาไม่นานในการนำไปสู่การเป็นรุ่นขายจริงในตลาด
XV ถือเป็นเวอร์ชันยกสูงของอิมเพรซา ด้วยการจับเอาตัวถังแวกอน (รุ่นเดิม) หรือแฮทช์แบ็ก (ในรุ่นล่าสุด) มายกสูงพร้อมกับเสริมความบึกบึนเหมือนกับที่ทำกับเลกาซี่ด้วยรุ่นเอาท์แบ็ก โดยในรุ่นล่าสุดของอิมเพรซาก็มีการส่งขายในตลาดด้วย แต่ใช้ชื่อว่าอิมเพรซา XV และในรุ่นใหม่นี้ แม้ว่าจะไม่ใส่ชื่ออิมเพรซามาด้วย แต่เชื่อว่าจะพัฒนาบนพื้นฐานของอิมเพรซา แฮทช์แบ็กใหม่ด้วยแนวคิดเดียวกัน
รุ่นต่อไปสำหรับแฟนๆ ของซูซูกิ สวิฟต์ เพราะมีข่าวดีว่าในรุ่นใหม่ล่าสุด (ซึ่งบ้านเรายังไม่มีขาย) นอกจากตัวถัง 5 ประตูแล้ว จะมีรุ่น 3 ประตูวางขายด้วย พร้อมกับความสปอร์ตและรูปลักษณ์ที่ถอดแบบมาจากตัวต้นแบบซึ่งเผยโฉมในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ตัวรถจะใช้ชื่อว่าสวิฟต์ สปอร์ต และถือเป็นโมเดลเชนจ์ของรุ่น 3 ประตูเพื่อแทนที่รุ่นเดิมที่เปิดตัวในปี 2006 ซึ่งจะมาพร้อมกับความโฉบเฉี่ยวในทุกรายละเอียด บนตัวถังที่มีความกะทัดรัดด้วยความยาว 3,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,695 มิลลิเมตร สูง 1,510 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,430 มิลลิเมตร
เร้าใจกับเครื่องยนต์รหัส M16A ที่ได้รับการพัฒนาให้มีความประหยัดน้ำมันเพิ่มขึ้น แต่สมรรถนะในการขับเคลื่อนเร้าใจเช่นเคย รีดกำลังออกมา136 แรงม้า ที่ 6,900 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 16.3 กก.-ม. ที่ 4,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ พร้อมกับมีการปรับเซ็ตระบบช่วงล่างหลังใหม่ เพื่อความเร้าใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น
สำหรับคนที่ชอบรถยนต์ไฮบริด ในงานนี้ โตโยต้าจะเปิดศักราชใหม่ของการขับเคลื่อน ด้วยเวอร์ชัน PHEV หรือ Plug-in Hybrid Electric Vehicle ที่เพิ่มขีดความสามารถของรถยนต์ไฮบริดในการแข่งขันกับรถยนต์ในกลุ่ม E-REV และรถยนต์ไฟฟ้าแบบ 100%
แนวคิดนี้เป็นการนำรถยนต์ไฮบริดที่มีขายอยู่ในตลาดมาต่อยอดทางเทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความสามารถในด้านความประหยัดน้ำมัน และความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งโตโยต้าพร้อมแล้วในการส่งทำตลาดเพื่อเป็นการประวิงเวลาก่อนที่ตัวเองจะพัฒนารถยนต์พลังไฟฟ้าออกมาขายแข่งกับคู่ปรับในตลาด
สำหรับ PHEV จะเป็นการพัฒนาบนพื้นฐานเดียวกับพริอุสไฮบริดรุ่นปัจจุบัน แต่แตกต่างตรงที่มีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่มาเป็นแบบลิเธียม-ไออนเพื่อให้สามารถชาร์จกระแสไฟฟ้าจากครัวเรือนได้ โดยตัวรถจะสามารถขับเคลื่อนในช่วงแรกในแบบไฟฟ้า 100% ด้วยการอาศัยกระแสไฟฟ้าที่มีอยู่ในแบตเตอรี่ ซึ่งถ้าชาร์จเต็ม ก็จะแล่นได้ราวๆ 30-40 กิโลเมตร และเมื่อหมดลงก็จะส่งมอบหน้าที่ในการขับเคลื่อนให้กับเครื่องยนต์สันดาปภายใน ซึ่งก็คงยังเป็นแบบ 1,800 ซีซีเหมือนเดิม
ด้วยความสามารถที่เพิ่มขึ้นนี้ทำให้พริอุส PHEV สามารถเป็นรถยนต์ไฟฟ้า 100% แบบชั่วคราวในช่วงเวลาหนึ่ง และช่วยเพิ่มความประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง เช่นเดียวกับการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในไอเสียระหว่างการขับเคลื่อน โดยทั้ง 2 ส่วนทางโตโยต้าบอกว่าลดลงจากพริอุสรุ่นปกติถึงเกือบเท่าตัว โดยความสิ้นเปลืองน้ำมันลดลงมาอยู่ที่ 52 กิโลเมตร/ลิตรตามการทดสอบของโตโยต้าในยุโรป และมีการคายก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาเพียง 49 กรัมต่อ 1 กิโลเมตรเท่านั้น
แม้โตโยต้าจะขายพริอุส PHEV อย่างแน่นอนในปีหน้า ส่วนตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดที่เป็นทางการออกมาเลย คงต้องรอกันในวันงานจริง
ทางด้านฮอนด้า เผยคันจริงของซีวิค แฮทช์แบ็ก 5 ประตูใหม่แน่นอน โดยในรุ่นนี้จะมากับความเร้าใจของเครื่องยนต์เทอร์โบดีเซลบล็อกใหม่ในตระกูล i-DTEC แบบ 4 สูบ 2,200 ซีซี ซึ่งรีดกำลังออกมาได้ 150 แรงม้า มากกว่าบล็อกเดิม 10 ตัว ส่วนการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลดลงอีก 29 กรัม/กิโลเมตรลงมาอยู่ที่ 110 กรัมต่อ 1 กิโลเมตร
ปิดท้ายกับอินฟินิตี้ แบรนด์ระดับไฮเอนด์ของนิสสันที่เริ่มเบนเข็มลุยยุโรป โดยในงานนี้ยืนยันว่าจะนำเอสยูวีรุ่นใหม่อย่าง JX มาเปิดตัวเป็นครั้งแรก แต่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกของโลก เพราะว่า JX จะเปิดตัวในงานประกวดรถยนต์โบราณที่ Pebble Beach เมืองมอนเทอเรย์ สหรัฐอเมริกาในวันที่ 18 สิงหาคมก่อน
JX จะเป็นเอสยูวีระดับหรูหราแบบ 7 ที่นั่งซึ่งทำตลาดสูงกว่ารุ่น FX และอินฟินิตี้วางแผนเปิดตัวขายในสหรัฐอเมริกาต้นปีหน้า ก่อนขยายแนวรุกสู่ตลาดยุโรปในช่วงปลายปีเดียวกัน ส่วนรายละเอียดของตัวรถยังไม่มีการเปิดเผยออกมาในตอนนื้ นอกจากภาพ Teaser ของตัวถังภายนอกเท่านั้นเอง ใครที่อยากรับทราบแบบเต็มๆ ก็คงต้องอดใจรออีกสักหน่อย