ค่าย “รอยัล มอเตอร์ส” ประเดิมนำ “รูฟ” แบรนด์รถยนต์จากเยอรมนี พันธมิตรของรถสปอร์ต “ปอร์เช่” บุกตลาดไทยปีแรก ประสบผลสำเร็จเกินคาดกวาดยอดขาย 40 คัน แม้จะมีราคากว่า 6-45 ล้านบาท แถมมียอดค้างส่งมอบถึงกลางปีหน้าอีกกว่า 60 คัน แต่ยังเตรียมเดินหน้าเอาใจเศรษฐีไทยพันธุ์แรงอีกระลอก ด้วยการนำรถใหม่ 2 รุ่น มาให้ได้ควบหลังติดเบาะ กับสปอร์ตคูเป้สุดแรง “รูฟ อาร์จีที-8” เครื่องยนต์ 4.5 ลิตร 550 แรงม้า และอีกรุ่นถือเป็นไฮไลต์ประจำปี ที่ได้รับการพัฒนาจากรูฟโดยตรง จึงปิดข้อมูลเงียบเป็นความลับ จนกว่าจะถึงกำหนดเปิดตัวครั้งแรกในโลกที่ประเทศจีน ช่วงเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ แล้วจึงตามมาเขย่าตลาดไทยต่อเป็นแห่งที่ 2 ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 ปลายปีนี้ มั่นใจจะผลักดันให้ตัวเลขรวมปี 2555 พุ่งทะลุไม่ต่ำกว่า 100 คันแน่นอน
คนไทยอาจจะคุ้นเคยสำนักแต่งรถยุโรปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอเอ็มจี(AMG), บราบัส(Brabus), เอบีที(ABT) หรือเอ็มทีเอ็ม(MTM) ซึ่งบ้างก็เป็นที่ทั้งตกแต่งและโมดิฟายเครื่องยนต์ หรือบางรายก็เพียงตกแต่งเท่านั้น แต่สำหรับค่าย “รูฟ” (RUF) จากประเทศเยอรมนี ที่เพิ่งเข้ามารุกตลาดรถไทยได้ประมาณขวบปีเดียว โดยผู้นำเข้าอิสระ “รอยัล มอเตอร์ส” ที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ยืนยันว่ารูฟมีสถานะเป็นผู้ผลิตรถอีกรายหนึ่ง...
“รูฟไม่ใช่สำนักแต่ง แต่มีสถานะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่ง โดยบางรุ่นได้มีการนำโครงสร้างของปอร์เช่มาใช้และทำการโมดิฟายใหม่ ซึ่งเครื่องยนต์ในรถรูฟบางรุ่นก็พัฒนาเอง หรือตัวถังและเครื่องยนต์บางรุ่นของรูฟได้พัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะใช้โครงสร้างแบบไหน รูฟสามารถตีเลขตัวถังเป็นของตัวเอง ทำให้มีสถานะเช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไป”
เป็นคำอธิบายของ “อิสริยะ คูหาเปรมกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยัล มอเตอร์ส จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต และในฐานะผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ “รูฟ” (RUF) ในไทย และเปิดเผยว่า หลังจากได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการและเริ่มทำตลาดรถยนต์รูฟในไทยมาประมาณ 1 ปี ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างดี มียอดขายประมาณ 40 คัน
โดยอิสริยะถือว่าประสบความสำเร็จทีเดียว กับการเริ่มทำตลาดปีแรก ซึ่งจากตัวเลขการขายที่สูงกว่าคาด ทำให้มีปัญหาในการส่งมอบรถกับลูกค้าพอสมควร ซึ่งบางรุ่นต้องรอถึงกลางปีหน้าจึงจะได้รับรถ ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องชะลอการรุกทำตลาดชั่วคราว นอกจากลูกค้าที่ต้องการและพร้อมจะรอรถจริงๆ จึงจะให้รับจอง
ทั้งนี้รถยนต์รูฟที่รอยัลมอเตอร์สนำเข้ามาทำตลาดช่วงปีแรก เริ่มกับสองรุ่น รูฟ อาร์ที12เอส (RT12S) เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 6 สูบ 685 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาที่ 25 ล้านบาท และรุ่นพิเศษเฉพาะเมืองไทย รูฟ 987 เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร ราคา 9.9 ล้านบาท และรุ่น 2.9 ลิตร 218 แรงม้า 7.9 ล้านบาท และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว รูฟ อาร์ดี30เอส(RD30เอส) บนตัวถังเอสยูวีปอร์เช่ คาเยนน์(Porsche Cayenne) วางเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 310 แรงม้า ราคา 6.99 ล้านบาท และรูฟ ซีทีอาร์-3 (CTR-3) เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 700 แรงม้า ราคา 45 ล้านบาท
“อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มทางเลือกและเป็นการสร้างแบรนด์รูฟในตลาดรถไทย ปลายปีนี้ช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 เตรียมจะนำเข้ารถใหม่มาทำตลาดอีก 2 รุ่น เป็นรถสปอร์ตคูเป้ รูฟ อาร์จีที-8 (RGT-8) ซึ่งวางเครื่องยนต์ใหม่ วี8 ขนาด 550 แรงม้า และอีกรุ่นถือเป็นไฮไลต์ของรูฟในปีนี้ เพราะได้มีการพัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด กำหนดเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศจีน ช่วงเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้ และจากนั้นจะนำมาเปิดตัวในไทยต่อเป็นแห่งที่ 2 ในโลก”
สำหรับรูฟ อาร์จีที-8 ใช้โครงสร้างพื้นฐานจากปอร์เช่ 911 วางเครื่องยนต์พัฒนาใหม่จากรูฟ เป็นบล็อก วี8 ขนาด 4.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า ที่ 8500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 5400 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ในส่วนของราคาจำหน่ายอิสริยะบอกว่า ตอนนี้ยังไม่สรุปได้ และโดยเฉพาะรุ่นที่เป็นไฮไลต์ เนื่องจากรูฟยังถือว่าเป็นความลับอยู่ จึงยังไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดใดๆ ออกมา จนกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ซึ่งการเปิดตัวรถใหม่และรถที่ค้างส่งมอบปัจจุบันอีก 60-70 คันในปีนี้ น่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์รูฟในปี 2555 ทำได้ไม่ต่ำกว่า 100 คัน
“รอยัล มอเตอร์ส มีความุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจจำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในอนาคต แต่คงต้องดูความเหมาะสม และตอนนี้กำลังเจรจาพูดคุยกับบางยี่ห้ออยู่ แต่คงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ หรือเวลาสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากการเจรจาธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่เขาสนใจเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญในการทำตลาดของรอยัล มอเตอร์ส คือการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเป็นหลัก” อิสริยะกล่าวและว่า
ในช่วงที่ผ่านมารอยัล มอเตอร์ส แม้จะทำธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ได้ไม่นาน แต่ได้ประสบการณ์ทางธุรกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะความมั่นใจจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์รถยนต์ หรือบริการหลังการขาย เหตุนี้แผนการพัฒนาของรอยัล มอเตอร์ส จึงมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับลูกค้า และที่สำคัญจะเน้นการบริการหลังการขายเป็นหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งจะเห็นว่ามีลูกค้าจำนวนกว่า 20% ที่จะกลับมาซื้อรถจากรอยัล มอเตอร์สเป็นประจำ และในจำนวนลูกค้าที่มาซื้อรถมากกว่า 60% เป็นลูกค้าที่ได้รับการบอกต่อกันมา
ส่วนโชว์รูมและศูนย์บริการปัจจุบัน อยู่บนถนนเพชรบุรีพื้นที่รวมกว่า 4 ไร่ สามารถรองรับลูกค้าได้เพียงพอ และอนาคตอาจจะขยายโชว์รูมเพิ่มขึ้น แต่ศูนย์บริการหลักยังจะอยู่ที่ถนนเพชรบุรี
เอ้า! เศรษฐีไทยพันธุ์แรงที่ชื่นชอบความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือความแรงที่เหนือกว่าต้นตำรับ เตรียมล้วงกระเป๋าถอยมาควบให้หลังติดเบาะได้ หรือหากชอบรุ่นที่มีอยู่และรอรถไหว จะเดินเข้าโชว์รูมจ่ายตังค์ตอนนี้เลยก็ได้...
คนไทยอาจจะคุ้นเคยสำนักแต่งรถยุโรปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเอเอ็มจี(AMG), บราบัส(Brabus), เอบีที(ABT) หรือเอ็มทีเอ็ม(MTM) ซึ่งบ้างก็เป็นที่ทั้งตกแต่งและโมดิฟายเครื่องยนต์ หรือบางรายก็เพียงตกแต่งเท่านั้น แต่สำหรับค่าย “รูฟ” (RUF) จากประเทศเยอรมนี ที่เพิ่งเข้ามารุกตลาดรถไทยได้ประมาณขวบปีเดียว โดยผู้นำเข้าอิสระ “รอยัล มอเตอร์ส” ที่ได้รับสิทธิ์เป็นผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในไทย ยืนยันว่ารูฟมีสถานะเป็นผู้ผลิตรถอีกรายหนึ่ง...
“รูฟไม่ใช่สำนักแต่ง แต่มีสถานะเป็นผู้ผลิตรถยนต์รายหนึ่ง โดยบางรุ่นได้มีการนำโครงสร้างของปอร์เช่มาใช้และทำการโมดิฟายใหม่ ซึ่งเครื่องยนต์ในรถรูฟบางรุ่นก็พัฒนาเอง หรือตัวถังและเครื่องยนต์บางรุ่นของรูฟได้พัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด แต่ที่สำคัญไม่ว่าจะใช้โครงสร้างแบบไหน รูฟสามารถตีเลขตัวถังเป็นของตัวเอง ทำให้มีสถานะเช่นเดียวกับผู้ผลิตรถยนต์ทั่วไป”
เป็นคำอธิบายของ “อิสริยะ คูหาเปรมกิจ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท รอยัล มอเตอร์ส จำกัด ผู้นำเข้ารถยนต์อิสระ หรือเกรย์มาร์เก็ต และในฐานะผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ยี่ห้อ “รูฟ” (RUF) ในไทย และเปิดเผยว่า หลังจากได้รับแต่งตั้งอย่างเป็นทางการและเริ่มทำตลาดรถยนต์รูฟในไทยมาประมาณ 1 ปี ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคในไทยเป็นอย่างดี มียอดขายประมาณ 40 คัน
โดยอิสริยะถือว่าประสบความสำเร็จทีเดียว กับการเริ่มทำตลาดปีแรก ซึ่งจากตัวเลขการขายที่สูงกว่าคาด ทำให้มีปัญหาในการส่งมอบรถกับลูกค้าพอสมควร ซึ่งบางรุ่นต้องรอถึงกลางปีหน้าจึงจะได้รับรถ ดังนั้นช่วงนี้จึงต้องชะลอการรุกทำตลาดชั่วคราว นอกจากลูกค้าที่ต้องการและพร้อมจะรอรถจริงๆ จึงจะให้รับจอง
ทั้งนี้รถยนต์รูฟที่รอยัลมอเตอร์สนำเข้ามาทำตลาดช่วงปีแรก เริ่มกับสองรุ่น รูฟ อาร์ที12เอส (RT12S) เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 6 สูบ 685 แรงม้า เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ราคาที่ 25 ล้านบาท และรุ่นพิเศษเฉพาะเมืองไทย รูฟ 987 เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร ราคา 9.9 ล้านบาท และรุ่น 2.9 ลิตร 218 แรงม้า 7.9 ล้านบาท และเมื่อปลายปีที่ผ่านมาได้เปิดตัว รูฟ อาร์ดี30เอส(RD30เอส) บนตัวถังเอสยูวีปอร์เช่ คาเยนน์(Porsche Cayenne) วางเครื่องยนต์ 3.0 ลิตร 310 แรงม้า ราคา 6.99 ล้านบาท และรูฟ ซีทีอาร์-3 (CTR-3) เครื่องยนต์ 3.8 ลิตร 700 แรงม้า ราคา 45 ล้านบาท
“อย่างไรก็ตาม เพื่อเพิ่มทางเลือกและเป็นการสร้างแบรนด์รูฟในตลาดรถไทย ปลายปีนี้ช่วงงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2011 เตรียมจะนำเข้ารถใหม่มาทำตลาดอีก 2 รุ่น เป็นรถสปอร์ตคูเป้ รูฟ อาร์จีที-8 (RGT-8) ซึ่งวางเครื่องยนต์ใหม่ วี8 ขนาด 550 แรงม้า และอีกรุ่นถือเป็นไฮไลต์ของรูฟในปีนี้ เพราะได้มีการพัฒนาขึ้นมาเองทั้งหมด กำหนดเปิดตัวครั้งแรกที่ประเทศจีน ช่วงเดือนพฤศจิกายนปลายปีนี้ และจากนั้นจะนำมาเปิดตัวในไทยต่อเป็นแห่งที่ 2 ในโลก”
สำหรับรูฟ อาร์จีที-8 ใช้โครงสร้างพื้นฐานจากปอร์เช่ 911 วางเครื่องยนต์พัฒนาใหม่จากรูฟ เป็นบล็อก วี8 ขนาด 4.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 550 แรงม้า ที่ 8500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 500 นิวตัน-เมตร ที่ 5400 รอบต่อนาที ขับเคลื่อนกับเกียร์ธรรมดา 6 จังหวะ
ในส่วนของราคาจำหน่ายอิสริยะบอกว่า ตอนนี้ยังไม่สรุปได้ และโดยเฉพาะรุ่นที่เป็นไฮไลต์ เนื่องจากรูฟยังถือว่าเป็นความลับอยู่ จึงยังไม่เปิดเผยข้อมูลรายละเอียดใดๆ ออกมา จนกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ประเทศจีน ซึ่งการเปิดตัวรถใหม่และรถที่ค้างส่งมอบปัจจุบันอีก 60-70 คันในปีนี้ น่าจะทำให้ยอดขายรถยนต์รูฟในปี 2555 ทำได้ไม่ต่ำกว่า 100 คัน
“รอยัล มอเตอร์ส มีความุ่งมั่นที่จะขยายธุรกิจจำหน่ายรถยนต์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเป็นผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ในอนาคต แต่คงต้องดูความเหมาะสม และตอนนี้กำลังเจรจาพูดคุยกับบางยี่ห้ออยู่ แต่คงไม่สามารถให้รายละเอียดได้ หรือเวลาสรุปที่ชัดเจนไม่ได้ เนื่องจากการเจรจาธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงได้เสมอ และยังมีกลุ่มอื่นๆ ที่เขาสนใจเช่นกัน แต่สิ่งสำคัญในการทำตลาดของรอยัล มอเตอร์ส คือการให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขายเป็นหลัก” อิสริยะกล่าวและว่า
ในช่วงที่ผ่านมารอยัล มอเตอร์ส แม้จะทำธุรกิจจำหน่ายรถยนต์ได้ไม่นาน แต่ได้ประสบการณ์ทางธุรกิจที่สำคัญ โดยเฉพาะความมั่นใจจากลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นตัวผลิตภัณฑ์รถยนต์ หรือบริการหลังการขาย เหตุนี้แผนการพัฒนาของรอยัล มอเตอร์ส จึงมุ่งมั่นที่จะมอบสิ่งดีๆ เหล่านี้ให้กับลูกค้า และที่สำคัญจะเน้นการบริการหลังการขายเป็นหลัก เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ซึ่งจะเห็นว่ามีลูกค้าจำนวนกว่า 20% ที่จะกลับมาซื้อรถจากรอยัล มอเตอร์สเป็นประจำ และในจำนวนลูกค้าที่มาซื้อรถมากกว่า 60% เป็นลูกค้าที่ได้รับการบอกต่อกันมา
ส่วนโชว์รูมและศูนย์บริการปัจจุบัน อยู่บนถนนเพชรบุรีพื้นที่รวมกว่า 4 ไร่ สามารถรองรับลูกค้าได้เพียงพอ และอนาคตอาจจะขยายโชว์รูมเพิ่มขึ้น แต่ศูนย์บริการหลักยังจะอยู่ที่ถนนเพชรบุรี
เอ้า! เศรษฐีไทยพันธุ์แรงที่ชื่นชอบความแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ หรือความแรงที่เหนือกว่าต้นตำรับ เตรียมล้วงกระเป๋าถอยมาควบให้หลังติดเบาะได้ หรือหากชอบรุ่นที่มีอยู่และรอรถไหว จะเดินเข้าโชว์รูมจ่ายตังค์ตอนนี้เลยก็ได้...