ขณะที่ไครสเลอร์ยืมรถยนต์ของแลนเซียไปขายตีตราใหม่เพื่อขายในตลาดสหรัฐอเมริกา จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้จะเกิดขึ้นในยุโรป เมื่อเฟียตจับเอารถยนต์อเนกประสงค์ของดอดจ์อย่างรุ่น "เจอร์นีย์" มารีเมคแต่งหน้าทาปากใหม่ และส่งขายในชื่อ "ฟรีมอนต์"
อย่างที่ทราบกันว่าตอนนี้เฟียตได้เข้าถือหุ้นอยู่ในไครสเลอร์ และทาง แซร์โจ้ มาร์คิออนเน่ ซึ่งในตอนนี้นั่งเป็นบอสส์ใหญ่ของทั้ง 2 กรุ๊ปก็มีความต้องการที่จะทำให้รถยนต์ของทั้ง 2 เครือมีความเกี่ยวข้องกันเพื่อลดต้นทุนในการผลิต
อย่างไรก็ตาม ก่อนที่จะไปถึงยุคของการแชร์พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกัน วิธีปฏิบัติง่ายๆ แต่ได้ผล และผู้ผลิตรถยนต์มักจะยึดถือเป็นแนวทางมาโดยตลอดอย่างการแลกเปลี่ยนรถยนต์ในการทำตลาดก็ถูกนำมาใช้แก้ขัดกันไปก่อน
สำหรับเฟียตซึ่งขาดแคลนรถยนต์อเนกประสงค์ในสไตล์ครอสส์โอเวอร์ทำตลาด ก็เลือกเอา ดอดจ์ เจอร์นีย์ เสริมทัพเพื่อรุกตลาดกลุ่มนี้ แต่ยังดีที่ไม่ถึงกับเล่นง่ายๆ แบบนำมาทั้งคันโดยที่ไม่เปลี่ยนอะไรนอกจากป้ายโลโก้กับป้ายชื่อ เพราะฟรีมอนต์ถูกปรับแต่งหน้าตาทั้งด้านหน้า และด้านหลังให้แตกต่างจากสมัยที่สวมชื่อเจอร์นีย์ในการทำตลาดอย่างชัดเจน
เฟียต เผยว่าฟรีมอนต์ถือเป็นรถยนต์รุ่นแรกที่แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่มีความใกล้ชิดในด้านผลิตภัณฑ์ระหว่างทั้ง 2 ค่าย และมีขายในตลาด เพราะทางฝั่งที่นำแลนเซียไปรีแบรนด์นั้นยังไม่ขาย แค่จอดโชว์ในงานมอเตอร์โชว์เฉยๆ แต่ในอนาคตจะมีการทำตลาดแน่นอน
กับสโลแกน ‘All the car you want’ ฟรีมอนต์ตอบสนองการใช้งานด้วยตัวถังในแบบครอสส์โอเวอร์ 4 ประตูที่มีความยาว 4,890 มิลลิเมตร กว้าง 1,880 มิลลิเมตร สูง 1,690 มิลลิเมตร และระยะฐานล้อ 2,890 มิลลิเมตร โดยที่มีทางเลือกของเครื่องยนต์หลากหลาย และเป็นขุมพลังที่ยกมาจากเครือเฟียต
โดยทุกรุ่นของแบบขับเคลื่อนล้อหน้า มากับขุมพลังเทอร์โบดีเซลในรหัส MultiJet ทั้ง 140 และ 170 แรงม้าจากเครื่องยนต์ 4 สูบ 2,000 ซีซี แต่สำหรับรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อจะมีรุ่น 170 แรงม้าทำตลาดควบคู่กับเครื่องยนต์เบนซินที่ยังเป็นของไครสเลอร์อยู่ เป็นบล็อกวี6 3,600 ซีซี 276 แรงม้า
เฟียตส่งฟรีมอนต์ขายในตลาดยุโรปแล้ว ส่วนเรื่องการทำตลาดกลุ่มอื่นๆ ของโลกนั้น ในตอนนี้ยังไม่มีการเปิดเผย แต่ที่แน่ๆ หลังจากนี้เป็นต้นไป เราอาจจะได้เห็นผลผลิตใหม่ที่เกิดจากความร่วมมือของทั้ง 2 ค่ายออกมาสู่ตลาดรถยนต์กันมากขึ้น
