“เทือก” แนะ “บรรหาร” อย่าไปเป็นตัวประกอบเพื่อไทย มาอยู่กับ ปชป.เป็นที่ปรึกษาดีกว่า ส่วนเรื่องนิรโทษกรรมไม่มีปัญหาหลังเลือกตั้งมาคุยกัน บอกตอนนี้ “เติ้ง” กำลังเนื้อหอมก็เลยมีลีลากันหน่อย มั่นใจนายกฯ ชื่อ “อภิสิทธิ์” ส่วน “เสธ.หนั่น” คงไม่ได้เป็น คาดหลังเลือกตั้ง 4-5 วันรู้ผลจัดตั้งรัฐบาล
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขาธิการพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา ระบุว่าชอบผู้หญิงและอยากให้เมืองไทยมีนายกรัฐมนตรีหญิงว่า การที่นายบรรหารชอบผู้หญิงไม่ใช่เรื่องแปลก แต่ถ้าชอบผู้ชายเป็นเรื่องแปลก ซึ่งตนกับนายบรรหารยังรักกันดีอยู่ ยังเคารพท่านเสมอ
ส่วนที่ นายบรรหารระบุว่าพร้อมไปเป็นใบเฟิร์นให้พรรคเพื่อไทยในการจัดตั้งรัฐบาล นายสุเทพกล่าวว่า อย่าไปเป็นตัวประกอบเลย มาอยู่กับตนดีกว่า เป็นที่ปรึกษา ถ้ามีอะไร จะได้หารือกัน ส่วนที่นายบรรหารมีเงื่อนไขอยากให้ออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อปลดล็อกทางการเมืองให้สมาชิกบ้านเลขที่ 111 และ 109 นั้นไม่มีปัญหา ตอนนี้อยู่ในช่วงหาเสียง พูดอะไรก็ได้ ไว้หลังเลือกตั้งเสร็จค่อยคุยกันใหม่ ไม่มีปัญหา หากต้องการทวงเรื่องอะไร ทวงได้ทุกเรื่อง ตอนนี้นายบรรหารเนื้อหอม ใครๆ ก็จีบ ต้องมีลีลากันหน่อย
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายบรรหารพร้อมดัน พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา เป็นนายกรัฐมนตรี หากไม่สามารถตกลงว่าใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ นายสุเทพกล่าวว่า ไม่ได้เป็น เพราะนายกรัฐมนตรีชื่ออภิสิทธิ์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้ความสัมพันธ์ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์ ใจยังถึงใจกันดีอยู่หรือไม่ นายสุเทพกล่าวว่า ใจก็เปลี่ยนได้ทุกเวลา การเมืองอย่าไปรีบคาดคั้นเอาวันนี้ พรุ่งนี้ ให้ผ่าน 38 วันไปก่อน ผลการเลือกตั้งเป็นอย่างไร จะได้รู้ได้เห็นกันว่าใครต้องคุยกับใคร ทำอะไรกัน ตนพร้อมจะเปิดเผยให้ทราบ
ต่อข้อถามว่าจะทราบผลการจัดตั้งรัฐบาลเมื่อไร นายสุเทพกล่าวว่า หลังผลเลือกตั้ง ออกมา 4-5 วัน มาถามเรื่องนี้ได้ เมื่อถามว่ายืนยันว่ายังรักกันดีกับ นายบรรหาร นายสุเทพ กล่าวว่า ยังรักกันดีกับทุกคน พรรคร่วมรัฐบาลกับตนมีน้ำใจไมตรีต่อกัน ทำงานร่วมกันมา 2 ปีกว่า ตนไม่มีข้อขัดแย้งหมองใจกับใคร ส่วนที่พรรคเพื่อไทย ระบุว่า ไม่เอาพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทย มาร่วมรัฐบาลนั้น ตนมีสูตรเดียวกันคือ ไม่เอาพรรคเพื่อไทย เพราะอุดมการณ์และเป้าหมายต่อบ้านเมืองและประชาชนต่างกัน