ข่าวต่างประเทศ-แม้ข่าวลือที่ว่าโฟล์คสวาเกนวางแผนเตรียมซื้อหุ้นของอีซูซุ มอเตอร์ จะผ่านมาแล้ว 4 สัปดาห์ แต่ทว่าข่าวนี้ก็ยังไม่ลดความแรงลง เมื่อมีอีกกระแสยืนยันออกมาว่า โฟล์คสวาเกนเอาจริงแน่ โดยหวังใช้เทคโนโลยีของอีซูซุในการพัฒนารถยนต์เพื่อการพาณิชย์สำหรับตลาดรถยนต์เกิดใหม่ เพื่อทำให้เป้าหมายในปี 2018 ในการแซงหน้าโตโยต้าขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 เป็นความจริง
Manager Magazin หนังสือพิมพ์ธุรกิจในเยอรมนีรายงานถึงความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าโอกาสที่โฟล์คสวาเกนจะเข้าซื้อหุ้นของอีซูซุมีค่อนข้างสูง เพราะล่าสุดได้ส่งโจเช็ม ไฮซ์มานน์ บอร์ดบริหารระดับสูงเข้าเจรจากับทางอีซูซุพร้อมกับเยี่ยมชมไลน์การผลิตในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ทางโฟล์คฯ ได้ออกมาปฏิเสธและบอกว่าทางบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เช่นเดียวกับทางอีซูซุที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากข่าวนี้ เพราะว่าราคาหุ้นของอีซูซุขยับขึ้นถึง 9.6% นับจากวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่เริ่มมีการเปิดเผยข่าวลือเกี่ยวกับการซื้อหุ้นออกมา
นอกจากนั้น ทางหนังสือพิมพ์เล่มนี้ยังเปิดเผยอีกว่า การซื้อหุ้นและถือหุ้นครั้งนี้ทางโฟล์คฯ จะไม่ทำผ่านตัวเอง แต่ให้ทาง MAN SE ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งทางโฟล์คฯ ถือหุ้นอยู่เป็นจำนวน 29.9% เป็นผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกันทางโฆษกของ MAN SE ก็ปฏิเสธไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
โดยช่วงนี้ดูเหมือนว่าโฟล์คฯ กำลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับการซื้อหุ่นและซื้อกิจการกับหลายบริษัทรถยนต์ ซึ่งก่อนหน้าในกรณีของปอร์เช่ ทางโฟล์คฯ ต้องการนำกิจการของแบรนด์ซูเปอร์คาร์เข้ามาอยู่ในเครือให้เสร็จสมบูรณ์สักที หลังจากที่ทุ่มเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อหุ้นจำนวน 49.9%
ขณะเดียวกันในเดือนมกราคม 2010 ที่ผ่านมา ได้ใช้เงินจำนวน 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 75,000 ล้านบาทในการซื้อหุ้นจำนวน 19.9% ของซูซูกิ เพื่อร่วมกันพัฒนารถยนต์ไซส์เล็กสำหรับขายในตลาดรถยนต์เกิดใหม่ อีกทั้งยังเล็งการเทกโอเวอร์กิจการของอัลฟามาจากเครือเฟียตอีกด้วย โดยทั้งหมดก็เพื่อเป้าหมายในปี 2018 ซึ่งโฟล์คฯ ต้องการแซงหน้าโตโยต้าขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกให้ได้
Manager Magazin หนังสือพิมพ์ธุรกิจในเยอรมนีรายงานถึงความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ และเชื่อมั่นว่าโอกาสที่โฟล์คสวาเกนจะเข้าซื้อหุ้นของอีซูซุมีค่อนข้างสูง เพราะล่าสุดได้ส่งโจเช็ม ไฮซ์มานน์ บอร์ดบริหารระดับสูงเข้าเจรจากับทางอีซูซุพร้อมกับเยี่ยมชมไลน์การผลิตในญี่ปุ่น
อย่างไรก็ตาม ทางโฟล์คฯ ได้ออกมาปฏิเสธและบอกว่าทางบริษัทยังไม่ได้ตัดสินใจใดๆ เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งปฏิเสธที่จะให้ความเห็นใดๆ เช่นเดียวกับทางอีซูซุที่ได้รับผลกระทบในเชิงบวกจากข่าวนี้ เพราะว่าราคาหุ้นของอีซูซุขยับขึ้นถึง 9.6% นับจากวันที่ 16 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่เริ่มมีการเปิดเผยข่าวลือเกี่ยวกับการซื้อหุ้นออกมา
นอกจากนั้น ทางหนังสือพิมพ์เล่มนี้ยังเปิดเผยอีกว่า การซื้อหุ้นและถือหุ้นครั้งนี้ทางโฟล์คฯ จะไม่ทำผ่านตัวเอง แต่ให้ทาง MAN SE ผู้ผลิตรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ ซึ่งทางโฟล์คฯ ถือหุ้นอยู่เป็นจำนวน 29.9% เป็นผู้ดำเนินการ ขณะเดียวกันทางโฆษกของ MAN SE ก็ปฏิเสธไม่ให้ความเห็นใดๆ เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว
โดยช่วงนี้ดูเหมือนว่าโฟล์คฯ กำลังมีข่าวเกี่ยวข้องกับการซื้อหุ่นและซื้อกิจการกับหลายบริษัทรถยนต์ ซึ่งก่อนหน้าในกรณีของปอร์เช่ ทางโฟล์คฯ ต้องการนำกิจการของแบรนด์ซูเปอร์คาร์เข้ามาอยู่ในเครือให้เสร็จสมบูรณ์สักที หลังจากที่ทุ่มเงินจำนวนหนึ่งเพื่อซื้อหุ้นจำนวน 49.9%
ขณะเดียวกันในเดือนมกราคม 2010 ที่ผ่านมา ได้ใช้เงินจำนวน 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือ 75,000 ล้านบาทในการซื้อหุ้นจำนวน 19.9% ของซูซูกิ เพื่อร่วมกันพัฒนารถยนต์ไซส์เล็กสำหรับขายในตลาดรถยนต์เกิดใหม่ อีกทั้งยังเล็งการเทกโอเวอร์กิจการของอัลฟามาจากเครือเฟียตอีกด้วย โดยทั้งหมดก็เพื่อเป้าหมายในปี 2018 ซึ่งโฟล์คฯ ต้องการแซงหน้าโตโยต้าขึ้นเป็นผู้ผลิตรถยนต์หมายเลข 1 ของโลกให้ได้