บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด จัดคาราวาน “อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” กิจกรรมลูกค้าสัมพันธ์ประจำปี หนึ่งในกลยุทธ์สร้างและมัดใจ “ซูเปอร์แฟน” ตัวจริงของอีซูซุ พร้อมทั้งยังเป็นการสนับสนุนนโยบายของรัฐบาลในการส่งเสริมการท่องเที่ยวภายใน ประเทศทางรถยนต์ โดยได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มผู้ใช้รถอีซูซุตลอดมา
นางปนัดดา เจณณวาสิน รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัดได้กล่าวถึงกิจกรรมอีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร” ว่า “ถึงแม้ว่าอีซูซุจะจัดกิจกรรมนี้ มาเกือบ 10 ปีแล้ว แต่เรายังคงรักษาจุดเด่นของคาราวานอีซูซุซึ่งลูกค้าของเรารู้สึกประทับใจตลอดมา คือ ความพิถีพิถันในการกำหนดเส้นทาง, สถานที่ท่องเที่ยวและกิจกรรมให้กับลูกค้า, การดูแลเอาใจใส่ของเจ้าหน้าที่และความคุ้มค่า สำหรับเส้นทางในประเทศเราคงค่าสมัครสำหรับการท่องเที่ยว 2 วัน 1 คืนเพียง 2,000 บาทต่อ 2 ท่านมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่อีซูซุพยายามจัดให้ลูกค้านั้นเรียกได้ว่าเกินคุ้มทั้งเรื่องโรงแรมที่พัก อาหารการกิน และกิจกรรมงานเลี้ยงต่างๆ เพราะเราถือว่าเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้าและอยากทำให้แต่ละทริปเป็นทริปที่คุ้มค่าและน่าจดจำ สำหรับปีนี้มีการเดินทางทั้งหมด 4 เส้นทาง ซึ่งเป็นเส้นทางในประเทศ 3 เส้นทาง ได้แก่ ปราจีนบุรี - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่, อุดรธานี - เลย และลำปาง - สุโขทัย ส่วนเส้นทางต่างประเทศ 1 เส้นทาง คือ นครศรีธรรมราช - ประเทศมาเลเซีย ซึ่งไฮไลท์จะอยู่ที่เมืองปีนังและเมืองมะละกา”
เส้นทางแรกของปีนี้ คือ ปราจีนบุรี - อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่นั้น ถือเป็นเส้นทางที่กระชับแต่รวมแหล่งท่องเที่ยวไว้ครบทุกอรรถรสทั้งด้านธรรมชาติ และประวัติศาสตร์ โดยขบวนคาราวานเริ่มจากจุดเริ่มต้นที่อนุสาวรีย์ลายพระหัตถ์ รัชกาลที่ 5 อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพระองค์ได้ทรงจารึกลายพระหัตถ์ลงบนแผ่นศิลาแลง ซากโบราณวัตถุสมัยลพบุรีเมื่อครั้งเสด็จประพาส ณ ที่นี้เมื่อปี พ.ศ. 2451 ในพิธีเปิดคาราวานท่องเที่ยวครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับเกียรติจากคุณศิริพงษ์ ห่านตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี คุณสุรศักดิ์ วงษานุศิษย์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดปราจีนบุรี และ มร.เอช. ซาโต้ ผู้จัดการฝ่ายขายดีลเลอร์ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด ร่วมเปิดงานและตีธงปล่อยรถขบวนคาราวาน 42 คัน ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกประชาคมอีซูซุกว่า 200 คนเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งแรกที่คณะคาราวานได้ไปเยือนคือ “ตึกเจ้าพระยาอภัยภูเบศร” โบราณสถานศิลปะเรเนสซองส์ที่ถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี ซึ่งได้สร้างขึ้นจากทรัพย์สินส่วนตัวของท่านเมื่อปี พ.ศ. 2452 เพื่อถวายเป็นที่ประทับแรมของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งการศึกษา ค้นคว้า วิจัย และเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับสมุนไพรและการแพทย์ท้องถิ่น นอกจากความสวยงามทางสถาปัตย- กรรม และความรู้ที่คณะคาราวานได้รับแล้ว ยังมีโอกาสเลือกซื้อผลิตภัณฑ์สมุนไพร ยาแพทย์แผนไทยอีกด้วย
หลังจากนั้นสมาชิกคาราวานอีซูซุก็มุ่งหน้าไปยัง “พิพิธภัณฑ์อยู่สุขสุวรรณ์” สถานที่สะสมตะเกียงไว้มากที่สุดในประเทศไทย โดยเฉพาะตะเกียงเจ้าพายุที่มีมากกว่า 10,000 ดวง รายล้อมอยู่ทั่วทุกห้อง โดยพิพิธภัณฑ์แห่งนี้แบ่งห้องจัดแสดงของเก่าที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ออกเป็นหลากหลายรูปแบบแตกต่างกัน มีทั้งห้องตะเกียงโบราณ ห้องสะสมพระ ห้องสะสมพันธบัตร ห้องจักรยานเก่า ห้องขายของเก่า ห้องผลิตภัณฑ์ทองเหลือง ส่วนด้านหลังเป็นที่จัดแสดงเรือขุดในสมัยก่อน เรียกได้ว่าที่แห่งนี้เป็นศูนย์รวมของโบราณหายากแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่ใหญ่และกว้างขวางมากทีเดียว หากท่านใดที่มีโอกาสแวะไปเที่ยวปราจีนบุรี ก็ไม่น่าพลาดที่จะเข้าไปชม โดยอัตราค่าเข้านั้นอยู่ที่ 80 บาทสำหรับผู้ใหญ่ และ 30 บาทสำหรับเด็ก
หลังจากเที่ยวชมสถานที่ที่น่าสนใจทั้ง 2 แห่งแล้ว ก็ถึงเวลาอาหารกลางวันอันแสนอร่อยของขบวนคาราวาน โดยทริปนี้ได้ไปใช้บริการของ “ร้าน To-Sit bloom ไร่ดาษดา” เขาใหญ่ ร้านอาหารท่ามกลางบรรยากาศธรรมชาติ และสวนดอกไม้ที่สวยงาม เมื่อสมาชิกอีซูซุทุกท่านอิ่มหนำสำราญกันเป็นที่เรียบร้อย ก็ได้เวลาเคลื่อนขบวนสู่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เพื่อร่วมกันบริจาคเงินและสิ่งของแก่ทางอุทยานฯ โดยมีคุณประสิทธิ์ กรรณสูต ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ฝ่ายบริหารทั่วไป เป็นตัวแทนรับมอบจากสมาชิกคาราวานอีซูซุ ท่ามกลางบรรยากาศยามบ่ายที่แสนสดชื่น บวกกับอากาศเย็นสบาย สมาชิกคาราวานทุกคนจึงได้อิ่มใจ และอิ่มบุญไปพร้อมๆ กันเลยทีเดียว
เสร็จสิ้นภาระกิจบุญ รถอีซูซุทุกคันต่างมุ่งหน้าสู่ที่หมาย “โรงแรม เดอะ กรีนเนอรี่” รีสอร์ทที่รวมความสนุกหลากหลายรูปแบบไม่ไกลจากปากทางเขาใหญ่มากนัก แต่ละคนต่างพักผ่อนเล่นน้ำกันตามอัธยาศัย ก่อนเข้าสู่ช่วงงานเลี้ยงรับรองภาคค่ำที่อีซูซุจัดขึ้นอย่างสนุกสนาน เป็นกันเอง เริ่มด้วยเกมต่างๆ และกิจกรรม work shop ตกแต่งต้นไม้เพื่อให้สมาชิกทุกคนได้ระลึกถึงคุณค่าของต้นไม้ และปิดท้ายด้วยการแสดงชุด “คิงคอง แดนซ์” ที่สร้างสีสันได้อย่างน่าประทับใจ พร้อมด้วยการลุ้นรางวัลใหญ่จากอีซูซุอีกด้วย
นับได้ว่า การจัดกิจกรรม “อีซูซุ ซูเปอร์คอมมอนเรล คาราวานสัญจร ประจำปี 2554” เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่บรรลุผลตามวิถีอีซูซุ นั่นคือ “ผู้ใช้สุขใจ เพิ่มพูนรายได้ ช่วยให้สังคมพัฒนา” อีกทั้งยังเสริมสร้างให้ประชาคมอีซูซุแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยท่านสามารถติดตามเรื่องราวดี ๆ ของการเดินทางอีก 3 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทางไทย - มาเลเซีย ระหว่างวันที่ 29 เมษายน - 3 พฤษภาคม เส้นทางจังหวัดอุดรธานี - เลย วันที่ 28 - 29 พฤษภาคม และเส้นทางสุดท้ายจังหวัดลำปาง - สุโขทัย วันที่ 18 - 19 มิถุนายน ศกนี้