xs
xsm
sm
md
lg

Lamborghini Aventador LP700-4 : รุ่นใหญ่เปลี่ยนโฉมพร้อมม้า 700 ตัว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


หลังจากทำตลาดมานานตั้งแต่ปี 2001 ในที่สุดสปอร์ตรุ่นใหญ่อย่างมูร์ซิเอลาโก้ก็ถึงเวลากลายเป็นอดีตไปแล้ว เมื่อลัมบอร์กินีเผยโฉมสปอร์ตรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาแทนที่ โดยใช้ชื่อว่า Aventador LP700-4 เหนือชั้นกว่าทั้งในด้านการออกแบบ เทคโนโลยีที่ถูกติดตั้งเข้าไปข้างใน และฝีเท้าที่จัดจ้านขึ้นจากเครื่องยนต์วี12 6,500 ซีซี

Aventador LP700-4 สืบทอดเจตนารมย์ด้านความแรงและความเร้าใจตามแบบฉบับสปอร์ตรุ่นใหญ่ไซส์วี12 ของลัมบอร์กินีต่อจากรุ่นมิอูระ, คูนทัช , ดิอะโบล และมูร์ซิเอลาโก้ซึ่งกลายเป็นอดีตไปหมาดๆ หลังจากที่ลัมบอร์กินีเปิดผ้าคลุมเผยโฉม Aventador LP700-4 เป็นครั้งแรก ในงานเจนีวา มอเตอร์โชว์ 2011 ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์

ในเรื่องของชื่อรุ่น อันนี้คงเอกลักษณ์ตามแบบฉบับของค่ายนี้มาด้วยเช่นกัน และ Aventador ก็เป็นอะไรที่เกี่ยวข้องกับวัวกระทิงตามราศีเกิดของฟารุชชิโอ ลัมบอร์กินี ผู้ก่อตั้งบริษัทและต้องเป็นภาษาสเปน โดย Aventador เป็นชื่อของวัวกระทิงที่ได้รับการกล่าวขานว่าทั้งอึดและกล้าหาญในการประลองฝีมือกับมาธาดอร์ในสังเวียน Saragossa Arena เมื่อปี 1993 จนถึงกับมีการตั้งฉายาว่า "Trofeo de la Peña La Madroñera"

จุดเด่นของ Aventador LP700-4 นอกจากรูปลักษณ์ที่ถูกสร้างสรรค์ได้อย่างล้ำสมัยโดยเป็นการประยุกต์และต่อยอดงานออกแบบมาจากรุ่นเรเบนตันแล้ว ยังอยู่ที่เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่นำมาใช้ โดยเฉพาะในแง่ของการนำวัสดุอย่างคาร์บอนไฟเบอร์ CFRP (Carbon Fiber Reinforced Plastic) มาใช้เป็นวัสดุหลักในการผลิตทั้งโครงสร้างตัวถัง ค็อกพิตห้องโดยสาร และชิ้นส่วนตัวถัง

ตรงนี้ช่วยทำให้น้ำหนักของ Aventador LP700-4 ไม่มากเกินความเป็นจริง โดยมีตัวเลขหยุดอยู่ที่ 1,575 กิโลกรัม ทั้งที่เป็นสปอร์ตขนาดใหญ่ที่มีความยาว 4,780 มิลลิเมตร กว้าง 2,260 มิลลิเมตร (รวมกระจกมองข้าง) และสูง 1,136 มิลลิเมตร อีกทั้งประตูยังเปิดขึ้นในสไตล์ Scissor Door เหมือนเดิม

อีกเรื่องคือ การออกแบบระบบช่วงล่างใหม่โดยนำแนวคิดของ PushRod หรือการใช้ก้านกระทุ้งมาเป็นตัวในการถ่ายทอดแรงกระแทกระหว่างพื้นผิวถนนที่ส่งผ่านจากล้อกับสตรัทของตัวรถ โดยแนวคิดนี้เป็นแบบเดียวกับที่ใช้ในรถแข่ง F1 และมีข้อดีในแง่ของการลดขนาดของระบบช่วงล่าง โดยเฉพาะเรื่องของความสูงเพราะตัวสตรัทจะถูกออกแบบให้เป็นแนวนอน และส่งผลให้สามารถออกแบบรถให้ต่ำและมีความลู่ลมมากขึ้นโดยที่คงประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนน

ตำแหน่งของเครื่องยนต์ถูกวางอยู่กลางลำตามข้อความ LP ที่ใช้อยู่ท้ายชื่อรุ่น โดย LP คือ ตัวย่อของคำในภาษาอิตาเลี่ยน Longitudinale Posteriore หรือ Rear Longitudinal ในภาษาอังกฤษ ซึ่งเครื่องยนต์ที่วางอยู่กลางลำเป็นขุมพลังวี12 ทวินแคม 48 วาล์ว 6,500 ซีซี

ขุมพลังบล็อกนี้ผลิตกำลังออกมาสูงสุด 700 แรงม้า ที่ 8,250 รอบ/นาที (ตามชื่อรุ่น 700) พร้อมแรงบิดสูงสุดในระดับ 70.3 กก.-ม. ที่ 5,500 รอบ/นาที มีอัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมงใน 2.9 วินาที และความเร็วสูงสุด 350 กิโลเมตร/ชั่วโมง โดยที่การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในขณะขับลดลงจากเดิมประมาณ 20%

จากความเบาของตัวถังของ Aventador LP700-4 ทำให้ม้า 1 ตัวแบกน้ำหนักไม่เยอะมาก เพียงแค่ 2.25 กิโลกรัมเท่านั้น ฝีเท้าก็เลยจี๊ดทั้งตีนต้นและตีนปลาย โดยในส่วนของระบบส่งกำลังก็เป็นของเกียร์แบบ ISR หรือ Independent Shifting Rods ส่งกำลังในแบบกึ่งอัตโนมัติ และมีการปรับระยะเวลาการเปลี่ยนเกียร์ได้เร็วขึ้นจากเดิมอีก 0.05 วินาที

ขับเคลื่อน 4 ล้อตามแบบฉบับลัมบอร์กินี และถ้าอยากเร้าใจในการขับ ก็มีโหมด SMS- Drive Select Mode System ทำให้สามารถเลือกให้การทำงานของเครื่องยนต์, เกียร์, เฟืองท้าย, พวงมาลัย และระบบควบคุมการทำงานด้านการขับเคลื่อนให้มีความสัมพันธ์กัน และผู้ขับก็สามารถเลือกปรับระบบได้ 3 แบบ คือ Strada (ปกติ), Sport เน้นความเร้าใจ และ Corsa สำหรับเอาไว้ซิ่งในสนามเซอร์กิต

ขายแน่กลางปีนี้ และลัมบอร์กินีเผยราคาของตลาดหลักแต่ละแห่งออกมาแล้ว ในยุโรปและอังกฤษ ราคาค่อนข้างใกล้เคียงกัน โดยอังกฤษอยู่ที่ 201,900 ปอนด์ หรือ 10 ล้านบาท และยุโรป 255,000 ยูโร หรือ 10.7 ล้านบาท ส่วนจีนอยู่ที่ 6.27 ล้านหยวน หรือ 31.3 ล้านบาท ในสหรัฐอเมริกา 379,900 เหรียญสหรัฐฯ หรือ 11.4 ล้านบาท และญี่ปุ่น 39.690 ล้านเยน หรือ 14.7 ล้านบาท ส่วนบ้านเราเมื่อรวมภาษีแล้วก็น่าจะบวกลบระดับ 30 ล้านบาทอย่างแน่นอน
กำลังโหลดความคิดเห็น